ทริค(ไม่)ลับ ขับรถฝ่าหมอกยังไงให้ปลอดภัย

ประสบการณ์ใช้รถ | 5 ก.ค 2562
แชร์ 0

การขับรถในเส้นทางต่างจังหวัดที่มีหมอกหนาทึบ คงจะทำให้หลายคนต้องกังวลไม่ใช่น้อย เพราะหมายถึงความปลอดภัยที่ลดน้อยลง พบกับวิธีการขับรถฝ่าหมอกแบบง่าย ๆ ปลอดภัยหายห่วงแน่นอน

หนึ่งในปัญหาที่คนใช้รถใช้ถนนกังวลมากที่สุดก็คือ ข้อจำกัดด้านทัศนวิสัยการมองเห็นในยามขับขี่ โดยเฉพาะการขับรถในสภาวะที่มีหมอกหนา เพราะส่งผลต่อประสิทธิภาพในการขับขี่ที่ลดน้อยลง เพราะฉะนั้น ลองศึกษาทริคง่าย ๆ ในการขับรถฝ่าหมอกให้ปลอดภัย ที่แม้จะเจอหมอกหนาแค่ไหนก็ไม่กลัว

การขับรถฝ่าหมอกแบบปลอดภัย

การขับรถฝ่าหมอกแบบปลอดภัย

ลำดับที่ 1 ศึกษาเส้นทางให้ดี

หากมั่นใจแล้วว่าต้องขับรถไปในสถานที่ที่มีหมอกแน่นอน ลำดับแรก ให้ลองศึกษาเส้นทางการเดินทางให้ละเอียดเสียก่อน ว่ามีเส้นทางใดบ้าง และควรที่จะเลือกใช้เส้นทางใด  อาจจะพิจารณาโดยสังเกตจากลักษณะของทางที่คดเคี้ยว และทางลาดชัน เพื่อประเมินความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุและความสามารถในการขับขี่ของตนเอง นอกจากนี้ อย่าลืมตรวจสอบการจราจรบริเวณนั้นด้วยว่าเป็นอย่างไร เช่น มีการก่อสร้าง หรือมีถนนที่ชำรุดหรือไม่ เพราะจะทำให้ช่วยวางแผนในการเดินทางได้ดี 

การศึกษาเส้นทางก่อนเดินทาง

การศึกษาเส้นทางก่อนเดินทาง

ลำดับที่ 2 วางแผนและเช็กรถยนต์

หลังจากที่ศึกษาเส้นทางโดยคร่าว ๆ แล้ว ให้ลองวางแผนการเดินทางเอาไว้ อาจจะมีแผนสำรองเอาไว้เผื่อด้วย โดยเฉพาะในกรณีที่เจอรถติด อาจจะเลือกไปใช้อีกเส้นทางหนึ่งแทน โดยให้เลือกจากสิ่งแวดล้อมของเส้นทางนั้น ๆ เช่น 

  • ต้องมีไฟส่องสว่างตามรายทาง เพราะจะช่วยให้มองเห็นทัศนวิสัยโดยรวมได้ดีมากขึ้น รวมถึงรถที่สวนทางมาด้วย แต่หากเป็นทางขึ้นเขาให้เปิดไฟสูงและขับด้วยความเร็วต่ำเท่านั้น เนื่องจากเส้นทางดังกล่าวมักจะไม่มีไฟส่องสว่าง จะมีเพียงสัญลักษณ์การจราจรตามรายทางเท่านั้น 
  • หลีกเลี่ยงเส้นทางที่มีการจราจรของรถบรรทุกหนาแน่น เนื่องจากเส้นทางที่มีรถบรรทุกสัญจรเป็นประจำ มักจะเป็นเส้นทางที่รถแต่ละคันใช้ความเร็วสูง และบางครั้งในจังหวะแซงอาจจะไม่เห็นรถที่สวนทางมา
  • หลีกเลี่ยงเส้นทางที่มีการก่อสร้างหรือซ่อมแซมถนนอยู่ เพราะหากเป็นการก่อสร้างตามชนบท บางครั้งก็ไม่ได้มีสัญญาณหรือป้ายแจ้งเตือนเอาไว้ ส่งผลต่อการกะระยะหยุดรถ ยิ่งเป็นช่วงเวลาที่มีหมอกลงหนาก็จะยิ่งทำให้ทัศนวิสัยการมองเห็นจำกัดมากยิ่งขึ้น จนนำไปสู่การเกิดุบัติเหตุบนท้องถนนได้

วางแผนและเช็กรถยนต์ก่อนการเดินทาง

วางแผนและเช็กรถยนต์ก่อนการเดินทาง

ที่สำคัญคือ ตรวจเช็กสภาพรถยนต์ให้เรียบร้อย ไม่ว่าจะเป็น ยางรถยนต์ ระบบไฟ น้ำมันเบรก แบตเตอรี่ ที่ปัดน้ำฝน เนื่องจากอุปกรณ์ต่าง ๆ เหล่านี้ จะเป็นตัวช่วยให้ขับรถในยามที่มีหมอกลงจัดได้ดีทีเดียว หากมีอุปกรณ์ใดใช้งานไม่ได้ ให้นำไปซ่อมและแก้ไขทันที อย่าขับรถไปทั้งที่รถยังไม่มีความพร้อมโดยเด็ดขาด เพราะนั่นหมายถึงความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สินของตัวคุณเอง

ลำดับที่ 3 ทริคขับรถหากเจอหมอกลงจัด 

โดยการขับรถในยามที่มีหมอกลงจัด ต้องใช้ความเร็วไม่มาก ขึ้นอยู่กับความหนาของหมอก เช่น หากมีหมอกลงหนาจัด ไม่สามารถมองเห็นทัศนวิสัยโดยรอบแบบคร่าว ๆ ได้ ควรที่จะใช้ความเร็วไม่เกิน 60 กม./ชม. หรือในบางกรณีอาจจะขับที่ความเร็วไม่เกิน 40 กม./ชม. โดยเฉพาะในกรณีที่ขับขี่บนทางเขาที่มีความลาดชันมาก นอกจากนี้ ระยะห่างระหว่างคันหน้ากับรถจะต้องกะเอาไว้ประมาณ 3-5 วินาที เผื่อในกรณีที่แตะเบรกฉุกเฉิน ซึ่งจะต้องเตรียมเท้าสำหรับการเบรกเอาไว้ให้พร้อม อย่ากระชากหรือเหยียบเบรกกระทันหันโดยที่ยังไม่ได้ผ่อนความเร็ว เนื่องจากรถอาจจะปัดจนทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ที่สำคัญ อย่าไปเผลอเปิดไฟฉุกเฉินเด็ดขาด เพราะจะทำให้รถคันอื่นไม่รู้ว่าจะเลี้ยวหรือหยุดตอนไหน ซึ่งส่งผลเสียทั้งต่อตัวเองและคนใช้รถคนอื่น ๆ ในการใช้ถนนร่วมกัน

การขับรถที่มีหมอกลงจัด

การขับรถที่มีหมอกลงจัด

อย่างไรก็ตาม การขับรถฝ่าหมอก จะต้องมีสมาธิอยู่เสมอ ที่สำคัญ หากมีอาการง่วงหรือปวดตา เนื่องจากเพ่งมองมากเกินไป ให้หาที่จอดพักรถทันที อย่าฝืนขับโดยเด็ดขาด หรือหากใครที่มีคนร่วมทางที่ขับรถเป็นเดินทางไปด้วย อาจจะให้มาขับสลับกัน ป้องกันการหลับในและขาดสมาธิในการขับขี่

อ่านเพิ่มเติม 

>> ประกันภัยรถยนต์และเคล็ดลับที่แชร์กันทั่วโลก

>> BMW เผยโฉมต้นแบบมอเตอร์ไซด์ไฟฟ้าสุดเท่ Motorrad vision DC Roadster

ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ช่องทางตลาดรถ Unseencar.com

BearsSmiley