หน้าฝนแล้วอย่านิ่งนอนใจ มันไม่ได้มีแค่ทำให้รถคุณเลอะเล่นๆ เราต้องมีการเตรียมรถให้พร้อมในทุกสภาพความเปียก ตั้งแต่ตกปรอยๆ จนถึงตกหนักท่วมใหญ่ เรารวม 7 จุดที่ต้องดูแลพิเศษ มีทั้ง ภายนอก เครื่องยนต์ ช่วงล่าง ทำตามนี้แล้วคุณจะพร้อมใช้รถในหน้าฝนนี้ มีจุดไหนบ้างที่ต้องได้รับการดูแลรักษารถช่วงหน้าฝน เป็นพิเศษไปดูกันเลย
หน้าฝนแล้วอย่านิ่งนอนใจ มันไม่ได้มีแค่ทำให้รถคุณเลอะเล่นๆ เราต้องมีการเตรียมรถให้พร้อมในทุกสภาพความเปียก ตั้งแต่ตกปรอยๆ จนถึงตกหนักท่วมใหญ่ เรารวม 7 จุดที่ต้องดูแลพิเศษ มีทั้ง ภายนอก เครื่องยนต์ ช่วงล่าง ทำตามนี้แล้วคุณจะพร้อมใช้รถในหน้าฝนนี้ มีจุดไหนบ้างที่ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษไปดูกันเลย
ดูแลรถช่วงหน้าฝน 7 จุดที่ต้องรู้ รถทุกรุ่นต้องการดูแลช่วงหน้าฝนเหมือนกัน
สภาพอากาศที่ร้อนชื้นเป็นสิ่งทำร้ายให้สภาพของยางปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพลงได้ทุกวัน เมื่อสภาพยางปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพก็ส่งผลความสามารถในการปัดทำความสะอาดกระจกหน้ารถของคุณมีประสิทธิภาพต่ำลง ดังนั้นเมื่อเข้าหน้าฝนควรตรวจสอบสภาพยางปัดน้ำบนกระจกหน้ารถของคุณเป็นสำคัญ ลองเปิดระบบฉีดล้างกระจกดู ถ้าปัดแล้วกวาดน้ำไม่หมด ยังเหลือรอยน้ำบนกระจก แสดงว่ายางแข็งเสื่อมสภาพ ให้รีบเปลี่ยนใหม่ทันที เพราะหากไปเจอกรณีฝนตกหนัก แล้วใบปัดน้ำฝนกวาดไม่หมดแบบนี้ ทำให้ลดทัศนวิสัยไปอย่างมาก
ยางปัดน้ำฝนควรเปลี่ยนเมื่อปัดกระจกแล้วไม่สะอาด มองเห็นได้ไม่ชัด
เมื่อฝนตกลงมาผสมเข้ากับเศษฝุ่นที่ติดอยู่เดิมบนกระจกหน้าของรถคุณก็ทำให้ความสะอาดมองเห็นทางชัดๆของตัวกระจกนั้นหายไปและยังส่งผลไปยังทัศนวิสัยการขับขี่ที่แย่ลงอีกด้วยดังนั้นสิ่งที่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอในการดูแลรถหน้าฝนคือการตรวจเช็คระดับน้ำในกระปุกน้ำฉีดกระจก ให้ยังมีเหลืออยู่พร้อมใช้งาน กระจกมีคราบก็ฉีดล้างได้ ไม่ใช่กดฉีดน้ำไปแล้วไม่มีอะไรออกมาเลย
ฝนคือตัวการทำร้ายสีรถ และทำให้ผุง่ายในอนาคต
หลายคนมักจะคิดว่า หน้าฝนไม่ต้องล้างรถก็ได้ แต่ความจริงแล้ว ยิ่งฝนตก ยิ่งต้องล้างรถ เพราะฝนจะรวมเอาเศษฝุ่นโคลนเข้าไปลงในซอกมุมตัวถังต่างๆ แม้ว่าฝนหยุดแดดออกแล้ว แต่เศษดินโคลนเหล่านี้ จะเกิดความชื้นสะสมในมุมอับ ส่งผลให้รถผุในระยะยาวได้ด้วย อีกทั้งฝนในเมืองกรุงยุคนี้ ยังรวมสารพิษต่างๆ ทำให้เกิดฝนกรดมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเมื่อตกลงมาโดนสีรถแล้ว ก็ไม่ควรปล่อยไว้นาน ต้องรีบชะล้างดินโคลนและสารพิษออกจากสีรถให้มากที่สุด
ยางรถยนต์ ดอกต้องลึก เนื้อยางต้องนิ่ม ไม่งั้นเหินน้ำ
ยางรถยนต์เป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะเป็นชิ้นส่วนขับเคลื่อนที่สัมผัสกับน้ำฝนโดยตรง จึงต้องตรวจสอบหลายอย่าง เริ่มตั้งแต่ความลึกของดอกยาง หากพบว่ามีความลึกต่ำว่า 3 มม. ให้เปลี่ยนยางใหม่โดยเร็วที่สุด ไม่ควรใช้ยางดอกตื้นขับลุยฝน เพราะดอกยางตื้นจะรีดน้ำออกไม่หมด มีน้ำแทรกอยู่ระหว่างล้อกับพื้นถนน นั่นคือการเหินน้ำ อีกทั้งควรหมั่นเช็กลมยางอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง ซึ่งในหน้าฝนนี้ ควรเติมลมยางเผื่อจากมาตรฐานไว้ประมาณ 1-2 ปอนด์ เพราะหากยางแข็งกว่าเดิม จะช่วยรีดน้ำได้ดีขึ้น และสุดท้ายกับเรื่องยาง ควรทำการสลับยาง เมื่อใช้งานครบ 10,000 กิโลเมตร เพื่อให้ล้อรถของคุณสึกหรอเท่ากัน และยืดอายุการใช้งานให้ใกลเคียงกันทั้ง 4 ล้อ อย่าลืมให้ช่างปรับยางลมให้ใหม่ เพราะแรงดันลมยางล้อหน้ากับล้อหลังอาจไม่เหมือนกันด้วยครับ
>> 7 อันดับ ของแต่งรถ ที่เหล่านักซิ่งมือใหม่ใช้ได้จริง และแนะนำของห้ามแต่ง ถ้าไม่อยากเจ็บใจ
>> เส้นจราจรบนถนนมีไว้ทำไม? เส้นประ เส้นทึบ เส้นตาราง ไขข้อข้องใจรวมคำตอบไว้ในบทความเดียว
ไฟหน้ารถ นอกจากทำหน้าที่ส่องสว่างยามกลางคืน เราก็สามารถเปิดเมื่อมีฝนตกหนักได้ด้วย แม้ว่าจะเป็นตอนกลางวันก็ตาม หากฝนตกถึงขั้นทัศวิสัยย่ำแย่กว่าเดิม ก็ให้เปิดไฟหรี ไฟต่ำ ไล่จนไปถึงไฟตัดหมอก ตามอัตราปริมาณฝนตก ไม่ใช่เพื่อส่องทางให้มองเห็น แต่เพื่อสว่างเป็นที่สังเกตได้ง่ายจากรถคันอื่น จะได้เห็นว่ามีรถอยู่ตำแหน่งนี้ การดูแลระบบไฟส่องสว่างก็ไม่ได้ยากอะไร เพียงแค่ตอนจอดรถอยู่ ลองเปิดใช้งาน แล้วเดินออกมาดูรอบคันว่าติดครบทุกดวงหรือไม่ บางคันมีไฟตัดหมอกท้ายข้างเดียวก็ไม่ต้องตกใจ มันเป็นปกติในบางรุ่น(ศึกษาคู่มือประกอบว่ารถเรามีกี่ดวงกันแน่) หากหลอดไฟดับไป ก็แค่ถอดเปลี่ยน หรือถ้าถอดไม่เป็นก็ให้ช่างในอู่หรือศูนย์บริการทำให้ ในราคาหลักร้อยบาท
ถ้าเบรกและยางไม่ดี มันก็จะวืดแบบนี้แหละครับ
สำคัญที่สุดกับระบบซึ่งช่วยในการหยุดรถของคุณให้เป็นดั่งใจ เมื่อสภาพการใช้งานของระบบเบรกของรถคุณยัง OK! ยิ่งกับช่วงหน้าฝนที่บางจังหวะการขับขี่หรือเบรกอาจไม่เหมือนกับเมื่อตอนถนนแห้ง จึงควรตรวจเช็คการทำงานของระบบเบรกให้อยู่ในสภาพดีที่สุด เมื่อการดูแลรถหน้าฝนไม่ได้มีแค่เรื่องทัศนวิสัยในการขับขี่เพียงอย่างเดียว เรื่องสมรรถนะของตัวรถที่สำคัญอย่าง “ระบบเบรก” ก็ควรให้ความสำคัญด้วยเช่นกัน ตรวจสอบทั้งตัวระบบว่ายังอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานอย่างเต็มประสิทธิภาพ ถ้ามีปัญหาตรงไหนให้รีบแก้เพราะข้อนี้เป็นสิ่งที่ละเลยไม่ได้เลยในการขับขี่โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหน้าฝน
เครื่องยนต์ก็ต้องดูแล ซีลกันน้ำทุกชิ้นส่วนที่ทำได้
เป็นที่รู้กันดีกับถนนเมืองไทยที่ฝนตกนิดตกหน่อยก็พากันท่วมเป็นแอ่งน้ำได้แล้วโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ตามตอกซอกซอยบางทีฝนตกน้ำท่วมเกินครึ่งล้อและถ้าเส้นทางเหล่านั้นรถของคุณจำเป็นต้องขับผ่านจริงๆ นอกจากต้องปิดแอร์ขณะขับผ่านน้ำท่วมแล้ว สำคัญอีกอย่างคือต้องมีการตรวจสอบความเสียหายหลังจากการขับรถลุยน้ำท่วมมาด้วย ที่อาจมีเศษกิ่งไม้ ขยะติดมา อีกทั้งในเรื่องของเหลวตัวรถก็ต้องมีการตรวจเช็คให้ดีว่ามีน้ำเล็ดลอดเข้าไปในระบบหรือเปล่า ซึ่งอาจส่งผลต่อการทำงานของจุดนั้นๆ มีปัญหาและเสี่ยงอย่างยิ่งที่จะทำให้ระบบนั้น ๆ เช่น เครื่องยนต์, เกียร์ มีความเสียหายขั้นรุนแรงได้
และทั้งหมดนี้คือ 7 ข้อต้องรู้เพื่อเตรียมพร้อมและดูแลรถของคุณช่วงหน้าฝน ลองนำไปปรับใช้กันดู แม้ถนนจะเปียก ฝนจะตกหนัก แต่ถ้าดูแลรถดีพร้อมใช้งาน ก็เดินทางปลอดภัยได้ สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดคือสติและความไม่ประมาทของผู้ขับขี่ที่จะเป็นตัวแปรสำคัญในเรื่องการเดินทางโดยสวัสดิภาพ Chobrod ขอฝากความรู้เกี่ยวกับรถยนต์ไว้เพียงเท่านี้ และอย่าลืมติดตามความรู้เกี่ยวกับเรื่องรถยนต์กันได้อีกในตอนต่อไปที่นี่ครับ
ติดตาม ข่าวรถยนต์ใหม่ ได้ที่นี่
ติดตามเรื่อง รีวิวรถยนต์ใหม่ ได้ที่นี่
ติดตามเรื่อง ราคารถยนต์ใหม่ๆได้ที่นี่