รู้หรือไม่ว่าเพราะอะไร? ทำไมเจ้าสัตว์เลื้อยคลานไม่มีขาอย่างงูนั้น ถึงชอบมาซ่อนตัวหรือขึ้นมาบนรถ Chobrod พาไป ส่องสาเหตุ งูเข้ารถ และวิธีแก้ไขและป้องกัน
เป็นข่าวออกมาให้ได้เห็นกันอยู่หลายครั้ง กับกรณีที่มีงูเลื้อยเข้ามาในรถ ไม่ว่าจะเป็นการแอบเข้ามาตามช่องทางต่าง ๆ หรืออยู่ ๆ ก็โผล่มาอย่างไม่รู้ที่มาที่ไป ซึ่งไม่ว่าจะมาในลักษณ์แบบไหน ก็เชื่อว่าไม่มีใครที่อยากจะเจอเหตุการณ์ชวนระทึกเช่นนี้เป็นแน่
และแม้มันจะมีโอกาสที่จะเกิดขึ้นกับเราได้น้อย แต่ก็ควรรู้วิธีรับมือกับสถานการณ์เหล่านี้เอาไว้จะดีกว่า และวันนี้ Chobrod จะนำสาระที่น่าสนใจเกี่ยวกับกรณี งูเข้ารถ มานำเสนอผู้ใช้รถทุกท่าน มาดูกันว่าหากเจอเหตุการณ์เช่นนี้ เราควรจะรับมืออย่างไร
อันที่จริงในปัจจุบันนี้ รถยนต์รุ่นใหม่ ๆ แทบทุกคัน ในช่วงระหว่างเครื่องยนต์และห้องโดยสารที่มีช่องสำหรับให้ชุดสายไฟผ่าน จะถูกซีลปิดสนิท พร้อมติดตั้งฉนวนกันความร้อน กันเสียง และกันกลิ่นเข้าในห้อง และปิดทับด้วยจุกตามช่องท่อต่าง ๆ อย่างแน่นหนา ทำให้เกิดโอกาสที่จะมีสิ่งมีชีวิตใดเล็ดลอดเข้าไปได้น้อยมาก
บริเวณห้องเครื่อง มักจะเป็นจุดที่งูมักจะเข้าไปอยู่ หากได้เลื้อยเข้าไปในรถ
แต่ทั้งนี้ก็ยังมีบางช่องทางในบริเวณรถ ที่งูยังสามารถเข้าไปได้ เช่น
ซึ่งโอกาสที่งูเข้ารถตามช่องทางเหล่านี้จะเกิดขึ้นกับรถใหม่ได้น้อยมากเพราะอย่างที่บอกว่าทุกจุดมีการปิดจุกอย่างหนาแน่น แต่เพื่อความปลอดภัยและความสบายใจ ดังนั้นหากมีการรื้อหรือเปิด-ปิดบริเวณที่ซีลหรือปิดจุกเอาไว้ ให้ตรวจสอบให้แน่ใจอีกที ว่าได้ปิดอย่างสนิทแล้วหรือเปล่า
การจอดรถไว้ในบริเวณที่อาจมีงูอาศัยอยู่และเปิดกระจกทิ้งไว้ก็อาจเป็นสาเหตุให้งูเข้าไปยังห้องโดยสารได้
นอกจากนี้ยังมีสาเหตุอื่น ๆ ที่อาจเกิดเหตุการณ์งูเข้ารถได้อีกนอกจากการเลื้อยเข้าทางช่องทางอื่น ๆ โดยตรง นั่นคือ งูอาจจะติดมากับสัมภาระที่หิ้วติดขึ้นรถมา หรือร่วงหล่นลงมาในกรณีที่นำรถไปจอดไว้ใต้ต้นไม้ที่มีงูอยู่ หรือเปิดรถกระจกรรถทิ้งเอาไว้ขณะจอดรถ เป็นต้น
งูคือสัตว์ที่ชอบอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีความชื้น สงบ อบอุ่น มีนิสัยชอบไปแอบซ่อนในซอกต่าง ๆ และเพราะเครื่องยนต์ของรถยนต์นั้น หลังจากที่มีการใช้งาน เมื่อดับเครื่องลงแล้ว บริเวณของเครื่องยนต์ยังมีความอุ่นอยู่ และนั่นอาจทำให้เจ้าสัตว์ไม่มีขาประเภทนี้ได้เลือกที่จะเลื้อยเข้าไปหลบซ่อนอาศัยอยู่นั่นเอง
งูอาจตามหนูที่เข้าไปในรถไปเพื่อจับกินเป็นอาหาร
และนอกจากนี้ อาจจะเกิดมาจากการที่รถของเรา มีหนูเข้าไปวุ่นวาย และตัวตัวกินหนูอย่างงูก็เลื้อยตามหนูเข้าไป เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่เกิดขึ้นได้กับการที่งูเข้าไปอยู่ในรถของเรานั่นเอง
งูที่เข้ารถไปได้ ส่วนมากจะมีขนาดลำตัวที่ไม่ใหญ่ แต่ทั้งนี้หลายคนก็อาจจะไม่กล้าและไม่คิดที่จะไล่งูด้วยตัวเอง หากดูสถานการณ์แล้วพบว่างูที่พบในรถนั้นมีขนาดที่ไม่สามารถรับมือได้ด้วยตัวเอง และคงจะปล่อยให้มันเลื้อยกลับออกมาได้อยาก ให้ติดต่อแจ้งหน่วยงานต่อไปนี้ เพื่อให้เข้ามาให้ความช่วยเหลือทันที
สำหรับในช่วงฤดูฝนหรือใครที่ต้องจอดรถเอาไว้ในพื้นที่บริเวณป่า หากต้องการป้องกันงูเข้ารถ มีวิธีที่ขอแนะนำ ดังนี้
หมั่นทำความสะอาดที่จอดรถ
แม้โอกาสการที่จะถูกงูเข้ารถจะเกิดขึ้นได้ไม่บ่อย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะไม่มีโอกาสเกิดขึ้น ดังนั้นการเตรียมตัวป้องกันเอาไว้ก่อน ย่อมจะดีกว่าการไปตามแก้ไขปัญหาเมื่อเกิดขึ้นแล้ว เพราะหากถ้ามันเกิดสถานการณ์นี้ขึ้นมาจริง ๆ เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าผลลัพธ์จากเหตุการณ์นี้มันจะไปเป็นอย่างไร มันอาจจะร้ายแรงก็ได้หากงูนั้นมีพิษ หรือโผล่ขึ้นมาอย่างไม่ทันตั้งตัวในจังหวะที่เรากำลังขับรถ ซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายขึ้นมาได้ ดังนั้นศึกษาเรื่องราวของงูเข้ารถเอาไว้ เพื่อเป็นแนวทางป้องกันเอาไว้ก่อนที่ดีสุด
ดูเพิ่มเติม
>> จอดรถตากแดดก่อมะเร็งคือเรื่องจริง แต่ไม่ต้องกังวลไป...จริงหรือ ??
>> 10 วิธีดูแลเมื่อจำเป็นต้องจอดรถทิ้งไว้นาน ๆ
เข้าดู รถมือสอง ได้ที่นี่