ข้อควรรู้ในการใช้ที่ชาร์จรถไฟฟ้า EVCharger

ประสบการณ์ใช้รถ | 21 พ.ย 2566
แชร์ 3

ใครที่กำลังจะซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้งาน อยากลองศึกษาวิธีการชาร์จ และข้อควรรู้ในการใช้ EVCharger มาทางนี้เลย! ชาร์จรถไฟฟ้าทำยังไง มีกี่ขั้นตอน มาดูคำแนะนำกัน

ข้อควรรู้ในการใช้ที่ชาร์จรถไฟฟ้า EVCharger

เมื่อรถยนต์ไฟฟ้าได้รับความนิยมมากขึ้น สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าก็เพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน แม้จะยังไม่มากเท่าปั๊มน้ำมัน แต่ตามถนนสายหลักและสายรองหลายแห่งก็มีให้บริการแล้ว สำหรับใครที่กำลังจะซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้งาน อยากลองศึกษาวิธีการชาร์จ และข้อควรรู้ในการใช้ EVCharger ว่าต้องทำอย่างไร มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง เรามีคำแนะนำดี ๆ มาฝาก

การค้นหาสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า

1. ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า มีให้เลือกดาวน์โหลดได้หลากหลายแอป เช่น MEA EV (การไฟฟ้านครหลวง), PEA VOLTA (การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค), EleXA (กฟผ.), EA Anywhere (บมจ.พลังงานบริสุทธิ์), EV Station PluZ (ในเครือ ปตท.) และอื่น ๆ ที่จะทำให้การค้นหาที่ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าเป็นเรื่องง่ายขึ้น ซึ่งหลาย ๆ แอปฯ ยังเปิดให้จองใช้บริการล่วงหน้าได้อีกด้วย โดยสามารถดาวน์โหลดได้ฟรีทั้งในระบบปฏิบัติการ iOS และ Android 

2. เมื่อดาวน์โหลดแอปฯ เรียบร้อยแล้ว ให้ทำการลงทะเบียน/ล็อกอินเพื่อเข้าสู่ระบบ เตรียมพร้อมใช้งาน

3. ค้นหาและเลือกสถานีชาร์จใกล้คุณ ระบบนำทางจะปักพิกัดสถานีบริการที่ต้องการให้ 

4. กดเลือกหัวชาร์จที่ต้องการใช้งาน และเลือกช่วงเวลาในการชาร์จ โดยช่วง On Peak และ Off Peak จะมีราคาค่าบริการต่างกัน (ช่วง On Peak แพงกว่า) แต่บางสถานีจะคิดแบบเหมาเป็นรายชั่วโมง

ข้อควรรู้ในการใช้ที่ชาร์จรถไฟฟ้า EVCharger

การใช้งานที่ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า

1. เมื่อถึงสถานีชาร์จรถไฟฟ้าที่จองไว้แล้ว ให้นำรถเข้าไปยังช่องจอดที่มีตู้ชาร์จรถพลังงานไฟฟ้าติดตั้งอยู่ โดยจอดให้ตรงกับเครื่องชาร์จ 

2. ดับเครื่องยนต์ แล้วนำหัวชาร์จเสียบกับรถยนต์

3. เปิดการใช้งานผ่านแอปพลิเคชัน เลือกเมนูคิวอาร์โค้ด แล้วสแกนคิวอาร์โค้ดที่ติดอยู่หน้าเครื่องชาร์จ 

4. กดเริ่มการชาร์จ หรือ Start Charging 

5. เมื่อชาร์จไฟได้ตามต้องการแล้ว ให้กดหยุดการชาร์จ หรือ Stop Charging 

6. ถอดหัวชาร์จ แล้วนำคืนเครื่องชาร์จ

ข้อควรรู้ในการใช้ที่ชาร์จรถไฟฟ้า EVCharger

อ่านเพิ่มเติม >>

ข้อควรรู้ในการใช้ที่ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า

1. สถานีชาร์จรถยนต์รถไฟฟ้า แบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ ได้แก่ แบบ Walk in ไม่ต้องจอง และสามารถเข้าชาร์จได้ในเครื่องที่ว่าง และแบบระบบจองคิวผ่านแอปพลิเคชัน

2. หากมาถึงสถานีที่จองไว้ แต่พบว่ามีรถคันอื่นชาร์จไฟอยู่ ให้แจ้งเรื่องไปยังสถานีที่ให้บริการ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการต่อ

3. หากมีผู้อื่นรอชาร์จ ควรชาร์จไฟประมาณ 80% เนื่องจากตู้จะจ่ายไฟน้อยลง ทำให้การชาร์จช้าลง ทั้งนี้เพื่อเป็นการถนอมแบตเตอรี่นั่นเอง

มารยาทที่ดีในการใช้ EVCharger

  • สถานีชาร์จรถไฟฟ้าไม่ใช่ที่จอดรถ หากไม่ได้ชาร์จไฟ ไม่ควรเข้าไปจอด และควรเข้าจอดเมื่อพร้อมชาร์จแล้วเท่านั้น
  • เมื่อชาร์จเสร็จ ควรขับรถออกทันที ไม่จอดทิ้งไว้ 
  • หลีกเลี่ยงการรบกวน ขณะที่รถคันอื่นชาร์จอยู่ เช่น ไม่ดึงสายชาร์จรถคันอื่นออก เป็นต้น
  • หากมีธุระอื่นขณะรอชาร์จ ควรตั้งนาฬิกาจับเวลาไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้ชาร์จเกินเวลา
  • หลังชาร์จเสร็จเรียบร้อยแล้ว ต้องเก็บสายชาร์จเข้าที่ให้เรียบร้อย 
  • หากทำการจองคิวล่วงหน้า ควรมาก่อนเวลาสัก 10 นาที หรือคำนวณระยะเวลาให้พอดี เพื่อป้องกันไม่ให้รถคันอื่นพลาดระยะเวลาในการชาร์จ

ข้อควรรู้ในการใช้ที่ชาร์จรถไฟฟ้า EVCharger

จะเห็นได้ว่าการใช้งานที่ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้านั้นทำได้ไม่ยาก มีขั้นตอนที่ง่ายและสะดวก ทั้งยังมีแอปพลิเคชันที่ช่วยให้สามารถค้นหาสถานีและจองคิวชาร์จไฟได้อย่างง่ายดาย มีค่าใช้จ่ายไม่แพงมาก หากเทียบกับค่าน้ำมัน เป็นอีกทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ใช้รถ

ขอบคุณข้อมูลจาก pandastaroil, travel trueid, safedrivedlt

หากสนใจรถมือสอง ดูเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Chobrod.com
ตลาดรถมือสอง มีรถมากมายให้เลือกในราคาที่ถูกใจ