ก่อนเลือกซื้อกล้องติดรถยนต์ ต้องรู้ 9 สิ่งนี้

โดยทั่วไปแล้วกล้องติดรถยนต์จะทำงานเป็นวีดีโอที่จับภาพตลอดเวลาที่คุณขับขี่รถยนต์บนท้อง ถนนและบันทึกสิ่งต่าง ๆ รวมถึงสิ่งสำคัญที่สามารถใช้เป็นหลักฐานทางกฎหมายได้ ทั้งนี้เพื่อปกป้องคุณในยามที่เกิดเหตุสุดวิสัยหรือเหตุด่วนเหตุร้าย รวมถึงอุบัติเหตุและการฉ้อโกงในเรื่องของประกันภัยด้วย และบางครั้งคุณก็โชคดีที่สามารถจับภาพที่ไม่มีใครมีได้ด้วยกล้องติดรถยนต์ของคุณและสามารถ เอาลงไปโพสต์ตาม YouTube หรือ Social Media อื่น ๆ ให้คนแชร์ต่อ ๆ กันไปได้
ในประเทศไทยเรา กล้องติดรถยนต์เป็นเรื่องที่ปกติธรรมดามาก เราอาจเห็นคลิปวีดีโอที่ชาวรัสเซียขับรถไปพร้อมกับบันทึกคลิปวีดีโอไปด้วยได้แล้ว คุณเองก็สามารถบันทึกวิดีโอไปได้ตลอดทั้งทริปการเดินทางท่องเที่ยวของคุณด้วยกล้องติดรถยนต์ที่มีหน่วยความจำขนาด 32GB หรือ 64GB ได้

คุณอย่าลืมว่าเราไม่สามารถเปรียบเทียบการทำงานของกล้องติดรถยนต์เหล่านี้กับกล้องถ่ายรูปหรือถ่ายวีดีโอจากสมาร์ทโฟนของคุณได้ กล้องติดรถยนต์เหล่านี้ออกแบบมาเพื่อใช้งานขณะขับขี่รถยนต์ด้วยความเร็วระดับต่าง ๆ โดยที่ไม่ทำให้เกิดการบิดเบือนภาพ

วิธีการเลือกซื้อกล้องติดรถยนต์ที่แนะนำนี้จะอธิบายถึงคุณลักษณะ รวมถึงฟังก์ชันที่สำคัญ และความต้องการฮารด์แวร์น้อยที่สุดในกล้องติดรถยนต์คุณภาพดีหนึ่ง ๆ ควรมี  แนวทางการเลือกซื้อกล้องนี้จะช่วยคุณในการเลือกซื้อกล้องที่มีโมเดลถูกต้องเหมาะสมเพื่อหลีกเลี่ยงการใช้จ่ายเงินไปกับคุณลักษณะที่คุณไม่ต้องการหรือไม่ได้ใช้งานเลย

1. ใครคือผู้ที่ต้องการกล้องติดรถยนต์จริง ๆ?

จริง ๆ แล้วกล้องติดรถยนต์มีมาเป็นเวลาหลายสิบปีมาแล้ว แต่ว่าเพิ่งมาบูมในตลาดเมื่อไม่นานมานี้เอง ตั้งแต่มีการติดตั้งกล้องในตำรวจและบนแผงหน้าปัดรถยนต์ของผู้ขับขี่ระดับมืออาชีพ จากนั้นไม่นานเราก็จะเห็นอุปกรณ์กล้องติดรถยนต์นี้ติดไปกับรถจำนวนมากและสามารถพบเห็น ได้ทุกที่ และอย่างน้อยคนก็มีข้ออ้างในการใช้เงินซื้อกล้องติดรถยนต์หลังจากใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงดูวีดีโอบน YouTube

คำถามก็คือ คุณต้องการกล้องติดรถยนต์จริง ๆ หรือ? หรือว่าเป็นแค่แฟชั่นที่เราอยากติดตาม?

ความเชื่อที่ผิดคือ: ผู้ขับขี่ด้วยความปลอดภัยไม่จำเป็นต้องมีกล้องติดรถยนต์

หากคุณเป็นผู้ที่มีความระมัดระวังเสมอ เป็นผู้ขับขี่ที่มีความรับผิดชอบ คุณอาจมีแนวโน้มที่ถามว่า “แล้วทำไมเราต้องซื้อกล้องติดรถยนต์ด้วยล่ะ?” เพราะในที่สุดแล้วคุณก็ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุ หรือแม้ว่าเกิดอุบัติเหตุขึ้นกับคุณ อุบัติเหตุนั้นก็จะไม่มีทางเป็นความผิดของคุณอย่างแน่นอน แน่นอนว่าความรู้สึกที่ว่าคุณไม่เห็นต้องกังวลเรื่องความสามารถของคุณในการขับขี่ขณะอยู่บนท้องถนนเลย ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่คุณรู้ด้วยตัวคุณเองอยู่แล้ว แต่มีสิ่งอื่นที่คุณไม่รู้ ซึ่งเป็นกรณีที่คุณจะต้องมีความระมัดระวังและเป็นกังวล นั่นคือ ผู้ขับขี่คนอื่น ๆ ที่ร่วมถนนไปกับคุณ

คุณอาจเคยได้ยินคำว่า “การขับขี่แบบป้องกันตัวเอง” ซึ่งหมายถึงลักษณะการขับขี่ที่เกี่ยวเนื่องกับการเฝ้าระแวดระวังพฤติกรรมการขับขี่ที่ไม่ปลอดภัย ของคนอื่น ๆ หลักการก็คือว่า หากคุณมองหาการขับขี่ที่ก้าวร้าว มีความผิดพลาด และการขับขี่ที่มีปัญหาในตัวผู้ขับขี่คนอื่นที่ร่วมทางบนท้องถนนกับคุณ คุณจะสามารถเข้าจัดการกับสถานการณ์ได้ทันท่วงทีเพื่อให้ตัวเองไม่มีประสบกับปัญหาที่ตามมา

สิ่งเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นเลยถ้าผู้ขับขี่ทุกคนที่อยู่บนท้องถนนมีความระมัดระวังและขับขี่อย่างปลอดภัยเหมือนอย่างคุณ แต่ความจริงก็คือ มีผู้ขับขี่บางรายเป็นผู้ขับขี่ที่แย่เอามาก ๆ

เหตุผลหลักในการติดตั้งกล้องติดรถยนต์ก็เป็นไปตามตรรกะพื้นฐานของการขับขี่เพื่อป้องกันตน เองนั่นแหละ แม้ว่าคุณปฏิบัติตามกฎทั้งหมดบนท้องถนนแล้ว และแม้ว่าคุณขับขี่ด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่ง แต่ว่าก็เป็นไปได้ที่ในที่สุดคุณอาจเจอกับคนที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหรือไม่ขับขี่อย่างปลอดภัยเหล่านั้น ได้

หรืออาจเป็นไปได้ที่ผู้ขับขี่เหล่านั้นจะขับขี่เข้าหาคุณและสร้างปัญหาให้กับตัวคุณ และเมื่อถึงจุดนั้น มีหลายอย่างมากที่สามารถสร้างปัญหาให้กับคุณได้ และโอกาสที่คุณจะควบคุมสถานการณ์ได้ดีก็มีน้อยลง

โชคดีที่กล้องติดรถยนต์สามารถตัดปัญหาจำนวนมากสำหรับสถานการณ์เช่นนี้ไปได้ด้วยการที่คุณมีวีดีโอที่บันทึกไว้เป็นหลักฐานเพื่อใช้ในกรณีที่เกิดข้อพิพาทขึ้น

>> ดูเพิ่มเติม:
- รวบรวมกล้องติดรถยนต์รุ่นท็อปฮิต
- ประกันรถยนต์คุ้มครองแค่ไหน ถ้าโดนชนแล้วหนี ?

2. ราคากล้องติดรถยนต์

ทุกวันนี้ราคากล้องติดรถยนต์ก็ไม่แพงเหมือนเมื่อก่อน ซึ่งราคาตามท้องตลาดปัจจุบันก็มีราคาแตกต่างกันตั้งแต่ 700 บาทไปจนถึง 5,000 บาท ขึ้นอยู่กับคุณลักษณะฮาร์ดแวร์และซอร์ฟแวร์ กล้องติดรถยนต์เหล่านี้สามารถบันทึกวิดีโอสดได้นานตราบเท่าที่คุณอยู่บนท้องถนน การเลือกซื้อกล้องติดรถยนต์ที่เหมาะสมกับการใช้งานเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง ดังนั้น คุณควรเลือกซื้อกล้องติดรถยนต์ที่มีสเปคและฟังก์ชันที่เหมาะสมทำการใช้งานและงบประมาณของคุณเอง

3. กล้องติดรถยนต์ที่เปิด-ปิดโดยอัตโนมัติ

ฟังก์ชันการเปิด-ปิดกล้องโดยอัตโนมัติเป็นฟังก์ชันที่สำคัญสำหรับกล้องติดรถยนต์ โดยเป็นคุณลักษณะที่ทำให้กล้องติดรถยนต์แตกต่างจากกล้องบนสมาร์ทโฟนหรือกล้องสำหรับ บันทึกวีดีโอทั่วไปของคุณ กล้องติดรถยนต์จะมาพร้อมกับสายเคเบิ้ลที่เชื่อมต่อไปยังแหล่งจ่ายไฟของที่จุดบุหรี่ในรถซึ่งมี ขนาด 12 โวลต์ เต้ารับสำหรับจ่ายไฟ 12 โวลต์นี้จะเปิดทำงานเมื่อรถของคุณสตาร์ทขึ้นและเกิดการสันดาปในห้องเครื่องยนต์ขึ้น ซึ่งจะทำการเปิดตัวกล้องที่ติดอยู่กับแหล่งจ่ายพลังงานของรถเรียบร้อยแล้วขึ้น กล้องติดรถยนต์จะปิดตัวลงเมื่อคุณปิดการสันดาปของรถยนต์โดยการรับสัญญาณการปิดการจ่ายไฟไปที่อุปกรณ์จุดบุหรี่ของรถ

มีโมเดลกล้องติดรถยนต์ไม่กี่โมเดลที่มีแบตเตอรี่สำรองภายในกล้องที่ช่วยให้คุณสามารถปิดกล้อง ได้ช้าลงจาก 1 นาทีเป็น 5 นาทีเมื่อคุณดับเครื่องรถยนต์ลง

หมายเหตุ: มี รถยนต์หลายโมเดลที่จ่ายพลังงานไปยังอุปกรณ์จุดบุหรี่โดยถาวรซึ่งอาจไม่สามารถใช้กับฟังก์ชัน การเปิด-ปิดอัตโนมัติได้ ในกรณีนี้ทางเลือกที่คุณมีก็คือ คุณต้องทำการปิดกล้องติดรถยนต์ด้วยตัวเองทุกครั้งหรือต่อสายไฟเข้ากับปลั๊กไฟเพิ่มเติม และอีกทางเลือกหนึ่ง (ซึ่งไม่แนะนำ) ก็คือ เปิดกล้องทิ้งไว้และกล้องจะเริ่มปิดตัวลงโดยอัตโนมัติเมื่อแบตเตอรี่หมด

4. การบันทึกวนของกล้องติดรถยนต์

ฟังก์ชันนี้เป็นฟังก์ชันที่เจ๋งมาก ๆ ที่คุณควรทราบเกี่ยวกับการติดตั้งกล้องติดรถยนต์ ปกติแล้วกล้องจะบันทึกวีดีโอบนหน่วยความจำและจะหยุดบันทึกเมื่อหน่วยความจำเต็ม แต่ถ้ากล้องติดรถยนต์ของคุณมีฟังก์ชันการบันทึกวน ฟังก์ชันนี้จะทำให้คุณสามารถบันทึกวีดีโอบนหน่วยความจำทับวิดีโอที่คุณได้บันทึกไปแล้วได้ ประโยชน์ของฟังก์ชันนี้ก็คือคุณไม่จำเป็นต้องนั่งลบวีดีโอด้วยตัวเองหรือล้างหน่วยความจำเมื่อ หน่วยความจำเต็ม

ซึ่งคุณลักษณะนี้เป็นคุณลักษณะที่สำคัญที่ทำให้คุณมั่นใจว่ากล้องของคุณจะยังบันทึกแต่ละ เหตุการณ์และบันทึกอย่างต่อเนื่องขณะที่คุณขับขี่บนท้องถนน แม้ว่าหน่วยความจำบนกล้องจะเต็มก็ตาม แต่ข้อเสียของคุณลักษณะนี้คือ คุณต้องถ่ายวีดีโอที่บันทึกไว้จากตัวกล้องไปยังคอมพิวเตอร์ถ้าคุณต้องการเก็บวีดีโอเหล่านั้นก่อนที่จะโดนบันทึกทับ

>> ดูเพิ่มเติม รถยนต์มือสองราคาถูก ที่นี่
 

5. หน่วยความจำกล้องติดรถยนต์

ปัจจุบันนี้กล้องติดรถยนต์ในตลาดที่คุณหาซื้อได้สามารถใช้ได้กับหน่วยความจำไมโคร SDHC การ์ดที่มีความจุสูงสุดถึง 128 GB คุณอาจเคยเห็นสเปคกล้องที่ใช้กับ TF การ์ด ในทางเทคนิคแล้ว ทั้งไมโคร SD การ์ดและ Trans Flash (TF) มีลักษณะเหมือนกัน แล้วขนาดความจุเท่าไหร่ถึงจะเหมาะสม? อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณเดินทางมากน้อยแค่ไหนในแต่ละวัน และคุณต้องการความละเอียดในการบันทึกวิดีโอมากเท่าไหร่

กล้องติดรถยนต์ที่สามารถบันทึกวีดีโอด้วยความละเอียด 1080 พิกเซล ที่ขนาด 30 เฟรม/วินาที สำหรับรูปแบบ AVI ต้องมีพื้นที่ในการจัดเก็บอย่างน้อย 400MB สำหรับวีดีโอที่มีความยาว 3 นาที และหน่วยความจำ 8 GB สามารถบันทึกวีดีโอได้ 20 นาทีด้วยความละเอียด 1080 พิกเซล ในรูปแบบ AVI เราแนะนำให้คุณใช้ SDHC การ์ดขนาด 16GB และตั้งความละเอียดในการบันทึกที่ 720 พิกเซล คุณสามารถบันทึกวิดีโอความยาว 80 นาทีได้ด้วยหน่วยความจำ 16GB ถ้าคุณเลือกความละเอียด 720 พิกเซล โดยที่ความละเอียด 720 พิกเซลนี้คุณจะได้วีดีโอที่มีความชัดเจนดี สามารถบันทึกป้ายจราจรต่าง ๆ บนถนนได้ บันทึกชื่อป้ายต่าง ๆ และเลขทะเบียนรถยนต์ได้เป็นอย่างดี

6. ความละเอียดของกล้องติดรถยนต์

การบันทึกวิดีโอด้วยความละเอียดสูงเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับกล้องถ่ายรูปทั่วไป กล้องติดรถยนต์ส่วนใหญ่มาพร้อมกับความสามารถในการบันทึกวีดีโอความละเอียดสูงได้สูงสุด 1080 พิกเซล 30 เฟรมต่อวินาที กล้องติดรถยนต์ที่บันทึกด้วยความละเอียด 1080 พิกเซลสามารถบันทึกรายละเอียดต่าง ๆ ได้เป็นอย่างมาก โดยจะสามารถจับเลขทะเบียน สัญญาณจราจร และสัญลักษณ์ต่าง ๆ บนถนนในแบบลงรายละเอียดได้

ผมตั้งค่าความละเอียดของกล้องติดรถยนต์ของผมไว้ที่ 720 พิกเซล และที่ระดับนี้สามารถอ่านชื่อถนนและป้ายทะเบียนจากคลิปวีดีโอของผมได้อย่างชัดเจน แต่เมื่อคุณซื้อกล้องติดรถยนต์ผมแนะนำให้เลือกซื้อกล้องที่สามารถบันทึกด้วยความละเอียดได้สูง ถึง 1080 พิกเซลเนื่องจากราคาของกล้องที่ความละเอียด 720 พิกเซลกับ 1080 พิกเซลต่างกันไม่มาก

7. มุมการบันทึกด้วยกล้องติดรถยนต์

สำหรับกล้องติดรถยนต์ส่วนใหญ่แล้วจะตั้งมาตรฐานมุมบันทึกด้วยกล้องติดรถยนต์ไว้ที่ 120 องศา การบันทึกวีดีโอด้วยมุมกว้างทำให้คุณสามารถบันทึกพื้นที่บนถนนทั้งสองข้างขณะขับขี่ได้มากกว่า

กล้องติดรถยนต์ที่มีฟังก์ชันขั้นสูงขึ้น (และแพงกว่า) จะมีมุมการบันทึกของกล้องที่กว้างกว่าโดยที่คุณสามารถตั้งมุมการบันทึกไว้ที่ 160 ถึง 180 องศาได้

8. จะถ่ายโอนวิดีโอที่บันทึกได้จากกล้องติดรถยนต์ไปยังคอมพิวเตอร์ได้อย่างไร?

ปกติแล้วกล้องติดรถยนต์จะใช้ไมโคร SDHC การ์ดที่สามารถถอดออกได้ในการบันทึกวีดีโอและไฟล์เสียง กล้องติดรถยนต์ส่วนใหญ่จะมีสายเคเบิ้ล USB ให้เพื่อใช้เชื่อมต่อกล้องติดรถยนต์และสามารถถ่ายโอนคลิปวีดีโอออกจากตัวกล้องไปยังคอมพิวเตอร์ของคุณได้ โน๊ตบุ๊คและคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะรุ่นใหม่จะมีจะมีตัวอ่านไมโคร SDHC การ์ดหรือ SDHC การ์ดแบบทั่วไปที่คุณสามารถสอดการ์ดจากกล้องติดรถยนต์ของคุณเข้าไปได้

ปกติแล้วการบันทึกวีดีโอด้วยกล้องติดรถยนต์จะแยกเป็นส่วน ๆ โดยอัตโนมัติส่วนละ 3-5 นาที ขณะบันทึกลงไปในหน่วยความจำ ผู้ใช้งานสามารถดึงเอาเฉพาะวีดีโอที่ต้องการออกมาได้และสามารถแก้ไขหรือต่อวีดีโอเข้ากันได้ โดยใช้ซอร์ฟแวร์บนเครื่องคอมพิวเตอร์

9. จะถ่ายโอนวีดีโอที่บันทึกบนกล้องติดรถยนต์ไปยังโทรศัพท์แอนดรอยด์ได้อย่างไร?

ปกติโทรศัพท์แอนดรอยด์จะมีชุด SDHC การ์ดอยู่แล้วและคุณสามารถใส่ SDHC การ์ดจากกล้องติดรถยนต์ของคุณเข้าไปในตัวโทรศัพท์แอนดรอยด์ได้โดยตรง จากนั้นคุณแค่ใช้แอพฯเล่นวีดีโอที่สามารถเปิดวิดีโอนี้ได้บนมือถือของคุณเท่านั้นเอง

>> ดูเพิ่มเติม:
- รถชนกัน! ทำไมรถคันหลังคือฝ่ายผิด มาดู..
- ติดแก๊สดีไหม? กับ 5 ข้อเสียที่คุณควรทราบ ก่อนติดแก๊ส