เปิดตำนาน Little Bastard อาถรรพ์รถต้องคำสาป

ประสบการณ์ใช้รถ | 14 ม.ค 2564
แชร์ 0

เปิดตำนานรถต้องคำสาปชื่อกระฉ่อนโลก Porsche 550 Spyder ในชื่อของ Little Bastard ที่ความอาถรรพ์ไม่ได้ตายไปพร้อมกับนักแสดงยุคเก่ายอดนิยม James Dean ผู้เป็นเจ้าของ

หากพูดถึงเรื่องราวของสิ่งของต้องคำสาป มีของมากมายที่อยู่ในรายการบันทึกอาถรรพ์เหล่านี้ที่มีชื่อเสียงระดับตำนานของโลก เช่น มัมมี่ตุตันคาเมน ภาพวาดเด็กร้องไห้ หรือตุ๊กตารูปทรงน่ารักที่มาพร้อมเรื่องราวสยองขวัญอย่างแอนนาเบล และในวงการรถยนต์ก็มีรถต้องคำสาปเช่นกัน ซึ่งในวันนี้ Chobrod จะพาไปเปิดตำนานอันน่าพิศวงเหล่านี้ กับเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับนักแสดงหนุ่มชาวอเมริกันชื่อดังในยุค 50 อย่าง เจมส์ดีน (Jame Dean)

เจมส์ ดีน ไอคอนสไตล์ในตำนาน

เจมส์ ดีน หรือชื่อเต็มในนาม เจมส์ ไบรอน ดีน ชายชาวอเมริกันที่สวมบทบาทเป็นทั้งนักแสดง นายแบบ และนักร้อง ผู้มากความด้วยฝีมือ มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในยุค 1950 โดยผลงานสร้างชื่อของเขาคือภาพยนตร์เรื่อง East of Eden ปี 1955 และ Giant ปี 1956 ที่ทำให้เขาได้กลายเป็นเจ้าของสถิติในเวทีออสการ์ กับการถูกเสนอชื่อเข้าชิงในการรับบทนำครั้งแรก และเป็นนักแสดงคนแรกของออสการ์ ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลหลังจากที่เขาเสียชีวิตแล้ว

เจมส์ ดีน ไอคอนสตาร์ยุค 50
เจมส์ ดีน ไอคอนสตาร์ยุค 50

เจมส์ได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของความเท่ฉบับอมตะ เพราะไม่ว่าจะเวลามานานรวมครึ่งศตวรรษ แต่ชื่อของเขายังถูกจดจำในฐานะชายหนุ่มผู้มีสไตล์ตลอดกาลกับบุคลิกที่มัดใจสาว ๆ หน้าตาที่หล่อเหลา และกลายเป็นต้นแบบของชายหนุ่มหลาย ๆ คน แม้เขาจะผ่านผลงานมาเพียงไม่กี่ชิ้น แต่ความนิยมของเขากับพุ่งสูงและรวดเร็ว และเช่นเดียวกัน จังหวะชีวิตที่รุ่งโรจน์ของเขาก็จบลงไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน เมื่อเขาต้องจากโลกนี้ไปในปีค.ศ. 1955 ในขณะที่เขามีอายุได้เพียง 24 ปี ซึงมีคำกล่าวอ้างว่า มันเป็นเพราะความอาถรรพ์ของรถสุดรักของเขานั่นเอง

การมาของ Little Bastard

อีกด้านของเจมส์ ดีนเขาเป็นผู้ที่หลงใหลในความเร็ว ชายหนุ่มได้รับแรงสนับสนุนกับครอบครัวตั้งแต่เด็ก จากการเข้าร่วมกิจกรรมกีฬาต่าง ๆ และชนิดกีฬาที่เขาชอบมากเป็นพิเศษก็คือการแข่งขันความเร็ว ซึ่งเมื่อในวันที่เขาสามารถสร้างรายได้มหาศาลให้กับตัวเองได้ เจมส์ ดีนได้ใช้เงินลงทุนไปกับสิ่งที่เขาชอบด้วยการซื้อรถที่ขึ้นชื่อเรื่องความแรงและความเร็วมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Triumph Tiger T110, Indian Warrior TT และ Royal Enfield 500 cc ก่อนขยับมาทางสายรถยนต์อย่าง MG TD และขายมันทิ้งไปเพื่อซื้อ Porsche 356 Speedster ในเวลาต่อมา

Porsche 356 Speedster ที่ถูกตกแต่งอย่างเป็นเอกลักษณ์
Porsche 356 Speedster ที่ถูกตกแต่งอย่างเป็นเอกลักษณ์

แต่เพียงไม่นาน ชายหนุ่มตัดสินใจไปซื้อ Porches 550 Spyder และได้ตั้งชื่อให้กับมันว่า Litter Bastard และลงทุนตกแต่งไอตัวเล็กวายร้ายชิ้นนี้ให้มีรูปแบบเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง กับการเปลี่ยนเบาะใหม่ ติดสติกเกอร์ตกแต่ง รวมถึงการแปะหมายเลข 130 เอาบนบริเวณฝาบนกระโปรงรถ พร้อมพ่นสีชื่อของมันบนตัวรถบ่งบอกความเป็น Litter Bastard  อย่างชัดเจน ด้วยฝีมือการรังสรรค์จากช่างแต่งรถมากฝีมือจากฮอลลีวูดผู้มีนามว่า จอร์จ แบร์ริส (George Barris)

Litter Bastard รถคันล่าสุดและคันสุดท้ายของเจมส์ ดีน
Litter Bastard รถคันล่าสุดและคันสุดท้ายของเจมส์ ดีน

โดยไอเจ้าตัวเล็กของดีน คือรถสปอร์ตขนาด 1,500 cc ด้วยเครื่องยนต์ทรงพลังในยุคนั้นอย่าง Flat-4 ให้กำลัง 110 แรงม้าที่ 7,800 รอบต่อนาที ตัวถังอะลูมิเนียมมีน้ำหนักเบา และอยู่ในฐานะรถแข่งแบบเต็มสูบ ไม่ใช่เป็นเพียงรถที่คาบเกี่ยวระหว่างรถบ้านกับรถแข่งเหมือนเจ้า 356 คันที่เขาครอบครองก่อนหน้า และพิเศษที่เป็นรุ่นที่ผลิตออกมาจำนวนจำกัดเพียง 50 คันเท่านั้น แต่เจมส์ ดีน ก็สามารถคว้ามาเป็นเจ้าของได้สมใจนึก

คำเตือนจากเพื่อนร่วมวงการ

หลังจากได้ครอบครอง Little Bastard ในแบบฉบับที่ตนต้องการ เจมส์ ดีน ได้พามันไปอวดสายตาแก่เพื่อนฝูงของเขา ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ อเล็ก กินเนสส์  (Alec Guinness) ชายที่เราคุ้นเคยกันดีในบทบาทของ Obi-Wan Kenobi จากภาพยนตร์ชื่อดังอย่าง Star Wars ผู้ที่เมื่อเห็นรถของเจมส์ ดีน เมื่อวันที่ 23 กันยายน 1955 เขาก็ถึงกับรู้สึกถึงความพิศวงอันน่าสะพรึ่งกลัวที่แอบซ่อนอยู่ และได้เอ่ยปากเตือนว่า ให้หลีกเลี่ยงการขับรถคันนี้ในช่วง 7 วันเพราะจะเกิดเหตุอันตรายร้ายแรงขึ้นกับเขาได้


อุบัติเหตุที่ทำให้เจมส์ ดีน เสียชีวิต และรถเหลือแต่ซาก
อุบัติเหตุที่ทำให้เจมส์ ดีน เสียชีวิต และรถเหลือแต่ซาก
อุบัติเหตุที่ทำให้เจมส์ ดีน เสียชีวิต และรถเหลือแต่ซาก

ใครจะไปคิดว่าคำเอ่ยทักนั้นจะเป็นความจริง เมื่อในอีก 7 วันต่อมา ในวันที่ 30 กันยายน 1955 เจมส์ ดีน ได้เสียชีวิตลงจากอุบัติเหตุทางถนน ขณะที่เขากำลังโดยสารรถของเขาเพื่อดินทางไปยังสนามแข่งขันที่เมืองซาลินาส พร้อมกับช่างประจำรถซึ่งในระหว่างที่กำลังเดินทางบนถนนทางหลวงหมายเลข 41 รถยนต์ Porches 550 Spyder ของนักแสดงหนุ่ม ได้เข้าปะทะเข้ากับรถยนต์ Ford Tudir Coupe 1950 ที่วิ่งสวนทางข้ามเลนมาอย่างรุนแรง ส่งผลให้เจมส์ ดีน เสียชีวิตคาที่  และเจ้าตัวเล็กของเขาเหลือแต่ซาก แต่ขณะที่ช่างที่นั่งมาด้วยมีเพียงอาการบาดเจ็บ โดยทางผู้ขับรถคู่กรณีได้บอกว่าเขามองไม่เห็นรถ Porches 550 Spyder ของเจมส์ ดีน ที่ขับสวนมาเลย

ตำนานบทใหม่ที่เริ่มขึ้น

เรื่องของชายผู้เป็นตำนานได้จบลงไปในวัย 24 ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลายคนอาจมองว่ามันเป็นเพียงอุบัติเหตุ ถ้าไม่เป็นเพราะว่าเรื่องราวของ Little Bastard ได้เริ่มต้นความลึกลับขึ้นมา จนกลายมาเป็นตำนานบทใหม่ที่เล่าถึงความอาถรรพ์ของมัน

จอร์จ แบร์ริส ช่างแต่งรถระดับฮอลลีวูด กับเจมส์ ดีนและรถของชายหนุ่ม
จอร์จ แบร์ริส ช่างแต่งรถระดับฮอลลีวูด กับเจมส์ ดีนและรถของชายหนุ่ม

เมื่อ จอร์จ แบร์ริส ช่างแต่งรถฮอลลีวูด ได้ขอซื้อซากรถทีเ่กิดอุบัติเหตุนั้นไปในราคา 2,500 เหรียญ เพื่อหวังจะนำอะไหล่และชิ้นส่วนตัวถังของรถที่ยังสามารถใช้งานได้อยู่ไปจำแนกแยกขา และก็เกิดเหตุขึ้นเมื่อความอาถรรพ์ทำงาน เพราะยังไม่ทันที่จะได้นำมันไปออกขาย ซากของ Spyder ที่กำลังถูกควบคุมให้ถูกยกลงมาจากรถบรรทุก ได้เกิดพลัดร่วงหล่นลงมาทับขาของจอร์จ และทำให้ขาของเขาหักในทันที

ความบังเอิญ หรือมันคือการเดินทางของคำสาป

อาจจะมองว่าเป็นความบังเอิญ ที่มีคนต้องเจอเหตุการณ์ร้ายแรงจากเจ้า Little Bastard นี้เป็นครั้งที่สอง แต่มันไม่ใช่แค่นั้น เพราะความอาถรรพ์ของมันเหมือนว่าจะเพิ่งเริ่มทำงาน เพราะมีผู้โชคร้ายรายต่อไปเกิดขึ้น หลังจากที่จอร์จ สามารถส่งต่ออะไหล่ได้สำเร็จแก่คุณหมอคนหนึ่ง ผู้ซึ่งมีใจรักในการแข่งรถ ที่ได้ซื้อเครื่องยนต์ของมันไปติดตั้งในรถ Porsche 550 สำหรับการแข่งขันของเขา และมันได้เกิดอุบัติเหตุขึ้นในขณะที่เขากำลังลงแข่งขันในสนาม ส่งผลให้เสียชีวิตลงในทันทีพร้อมกับเพื่อนร่วมการแข่งขันอีกคนที่เกิดการเฉี่ยวชนกันในสนาม

เครื่องยนต์ Porsche 356 Speedster 130
เครื่องยนต์ Porsche 356 Speedster 130

ความอันตรายของเจ้าตัวเล็กวายร้ายยังคงทำงานอย่างต่อเนื่อง จากการที่มีนักแข่งอีกรายที่ไม่ได้คิดจะท้าทายเพราะไม่ทราบถึงความร้ายกาจของ Little Bastard มาก่อน เขาได้นำเกียร์ของมันมาติดตั้งในรถของตัวเอง และมันได้เกิดเหตุที่ตอกย้ำความบ้าคลั่งอันเลวร้ายนี้ เมื่อรถของเขาได้เกิดอุบัติเหตุจนบาดเจ็บสาหัส สร้างชื่อให้ความเฮี้ยนของ Little Bastard ถูกกล่าวขานขึ้นมาในฐานะรถต้องคำสาปอย่างเต็มรูปแบบ

ซากของ Little Bastard ที่ถูกนำไปถอดอะไหล่เพื่อแยกขาย และนำไปจัดแสดงโชว์
ซากของ Little Bastard ที่ถูกนำไปถอดอะไหล่เพื่อแยกขาย และนำไปจัดแสดงโชว์

หลังจากที่ผู้คนเริ่มจะทราบถึงความอาถรรพ์ของรถ Porsche Spyder 550 หมายเลข 130 คันนี้ ทางหน่วยงานตำรวจทางหลวงของ L.A. และทางสภาพื้นที่ของลอสแองเจอริส ได้ตัดสินใจซื้อซากที่ยังมีอยู่ของเจ้าวายร้าย เพื่อนำไปจัดแสดงเป็นอุทาหรณ์ของพวกตีนผี และสร้างเป็นสื่อประชาสัมพันธ์ในหัวข้อว่าด้วยเรื่องของ อุบัติเหตุ สามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่ขณะที่กำลังตั้งแสดงโชว์อยู่นั้น อยู่ดี ๆ ซากนั้นก็หลุดออกจากแท่นที่ใช้ยึดไว้และหล่นมาทับชายหนุ่มที่ยืนดูอยู่จนได้รับบาดเจ็บสาหัสไปอีกคน

ซากหายไป แต่ตำนานยังอยู่

ซึ่งในการนำออกไปแสดงนั้น มันจะถูกจับขนขึ้นใส่รถบรรทุกและมันก็เกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้นอีกไม่รู้จบ เมื่อพบว่ามันดีดตัวเองออกมาจากกระบะรถบรรทุกอยู่บ่อยครั้งในขณะที่วิ่งอยู่บนทางหลวง และมีครั้งหนึ่งที่คนขับรถบรรทุกได้เสียหลักประสบอุบัติเหตุจนตัวเองกระเด็นออกมานอกรถ และถูกซากรถหมายเลข 130 นี้ลอยมาทับจนเสียชีวิต

เจมส์ ดีน และ Little Bastard สองตำนานโลกไม่ลืม
เจมส์ ดีน และ Little Bastard สองตำนานโลกไม่ลืม

ความเลวร้ายของรถต้องสาปมันมากเกินจนกระทั่งทางเจ้าหน้าที่เริ่มจะรับมือไม่ไหวอีกต่อไป พวกเขาได้ตัดสินใจนำมันขึ้นรถบรรทุกอีกครั้ง และครั้งนี้เป็นการจัดส่งครั้งสุดท้ายเพื่อจำนำมันกลับไปคืนแก่จอร์จ แบร์ริส แต่สุดท้ายเมื่อถึงปลายทางกลับพบว่าซากของไอตัวเล็กได้หายไปอย่างไร้ร่องรอยและแม้จะมีผู้ตั้งรางวัลเอาไว้ให้แก่ผู้ที่พบมัน แต่ก็ไม่มีใครได้พบมันอีกจนกระทั่งปัจจุบัน

แม้จะเป็นเรื่องที่หาคำอธิบายไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ มันจะเป็นเพียงเรื่องบังเอิญที่เรื่องเลวร้ายต่าง ๆ ล้วนเกี่ยวข้องกับ Porsche Spyder 550 หมายเลข 130 หรือเปล่า หรือมันจะเกิดจากความอาถรรพ์จริง ๆ หรือเรื่องทั้งหมดนี้มันมีเบื้องหลังอะไรที่มากกว่านี้ ไม่ว่าจะแบบไหน ชื่อของ Little Bastard ของเจมส์ ดีน ก็กลายเป็นสัญลักษณ์ของความอาถรรพ์ที่ขึ้นชื่อระดับโลก

ดูเพิ่มเติม
>> Black Volga เปิดตำนานรถลักพาตัว
>> นิตยสารรถเก่า ที่รุ่นลุงรุ่นน้า อาจเคยสะสม

เข้าดู รถบ้านมือสอง ได้ที่นี่

ANNOiNA
Avatar

ANNOiNA

บรรณาธิการ
ทุกอย่างมีเหตุและผลของมันเสมอ