Amazon แสนยิ่งใหญ่ คลืบคลานเข้ามาในวงการรถยนต์

ประสบการณ์ใช้รถ | 21 ก.พ 2562
แชร์ 0

ชายผู้ร่ำรวยที่สุดในโลก ก็ยังสนใจวงการรถยนต์และสนใจในเรื่องการลงทุนในวงการรถยนต์ด้วย วันนี้ Amazon ที่ถูกสร้างขึ้นจากชายที่ชื่อว่าเจฟฟ์ เบซอส เรามาดูกันว่าเขาเข้ามาเล่นอะไรในวงการรถยนต์บ้าง

ถ้าพูดถึงบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก หลายๆคนอาจจะนึกถึง บิลล์ เกตส์ หรือ วอร์เรน บัฟเฟตต์  แต่ปัจจุบันนี้ชายผู้ที่ร่ำรวยที่สุดในโลกไม่ใช้ทั้งสองคนที่เอ่ยชื่อมา แต่เขาคือ เจฟ เบซอส เจ้าของอาณาจักร Amazon ที่คนทั้งโลกต่างรู้จักในปัจจุบัน แม้ว่าคนไทยส่วนใหญ่จะรู้จัก Amazon ในแง่ของการเป็นร้านกาแฟมากกว่า Amazon ของเจฟ เบซอส แต่รายได้จากการขาสินค้าและบริการของ Amazon โดยน้ำมือของเจฟ เบซอสนั้น มากมายชนิดที่คนไทยทั้งประเทศรวมกันก็มีหนาว

ชายที่ชื่อเจฟ เบซอส นี้เริ่มต้นธุรกิจของเขาจากการเป็นพนักงานในบริษัทด้านการเงินแห่งหนึ่ง และทำงานเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ต หลังจากที่เห็นว่าอินเตอร์เน็ตต้องกลายเป็นสิ่งที่คนทั้งโลกใช้แน่ๆ จึงผันตัวมาทำงานเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ตเต็มตัว โดยเริ่มจากการขายหนังสือ Online ในชื่อ Amazon ก่อนจะกลายมาเป็นผู้ให้บริการด้าน Cloud ที่โกยรายได้เกินปีละ 7พันล้านบาท กลายเป็นเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลกด้วยทรัพย์สินสุทธิราวๆ3ล้านล้านบาท และนั่นมาจากการทำธุรกิจด้านอินเตอร์เน็ตเป็นหลัก

เจฟ เบซอส มหาเศรษฐีเจ้าของ Amazon

เจฟ เบซอส มหาเศรษฐีเจ้าของ Amazon

ไม่รู้เพาะว่าวงการรถยนต์ราวกับเค้กชิ้นใหญ่ที่ทำให้ทุกคนอิ่มและอร่อยทุกครั้งที่ได้ส่วนแบ่งจากมันหรืออย่างไร วันนี้ขณะที่เจฟ เบซอส ยังคงร่ำรวยมหาศาลแต่ยังไม่หยุดแค่การขายหนังสือ online หรือให้บริการ Cloud เท่านั้น เพราะ Amazon ยังคลืบคลานเข้ามายังวงการรถยนต์ด้วย ไม่ใช่แค่เรื่องเดียวแต่มีหลายเรื่อง มาดูกันว่าเขาทำอะไรบ้างกับวงการรถยนต์

  1. รถยนต์ไฟฟ้า

การลงทุนในรถยนต์รถไฟฟ้าที่กระแสกำลังมาแรง และดีเซลกำลังกลายเป็นวายร้าย ทำให้ค่ายรถยนต์ต่างๆหันหน้ามาพัฒนารถยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้น แบรนด์หนึ่งที่เป็นผู้พัฒนารถยนต์ไฟฟ้าที่น่าจับตามองก็คือ Rivian ซึ่งเริ่มต้นจากการเป็น StartUp ในสหรัฐอเมริกา เหตุผลที่แบรนด์ Rivian น่าจับตามองเกี่ยวกับการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าก็คือ ด้วยความที่เป็น StartUp แต่การวางตำแหน่งทางการตลาดของตัวเองนั้นชัดเจนมาก คือ การผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในรูปแบบรถกระบะ และรถยนต์เอสยูวี ไม่เพียงเท่านั้นยังวางตำแหน่งตัวเองให้เป็นรถหรูไปด้วยพร้อมๆกัน ซึ่งปกติเราจะไม่ค่อยเห็น StartUp วางตำแหน่งตัวเองทางการตลาดแบบนี้เท่าไร นอกจากนั้นสมรรถนะก็ไม่ได้แย่ นั่นคือเหตุผลที่ทุกวันนี้หลายฝ่ายกำลังจับตามอง

มากกว่าจับตามองแต่อยากจับจองมาลงทุน

จากการประกาศตนเองสู่สาธารณะชนว่าเป็นแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าหรูที่สลัดคราบดีไซน์เดิมๆไปหมด เตรียมตัวที่จะยกระดับบริษัทตัวเองให้เข้าสู่วงการรถยนต์อย่างเต็มตัวชนิดที่ไม่ไว้หน้ารุ่นพี่ที่สั่งสมชื่อเสียงมายาวนานกว่าร้อยปี ทางRivian จึงเป็นรับแหล่งทุนใหม่ นั่นคือนโยบายหลักของการเป็น StartUp เลย และแหล่งทุนที่สามารถเข้ามาเป็นฐานที่มั่นคงได้ก็ไม่ใช่ใครอื่นในวงการเทคโนโลยีนั่นก็คือ Amazon นั่นเอง Amazon ก็สนใจอยากจะลงทุนใน Rivian ด้วยเช่นกัน การลงทุนนี้ ไม่เพียงแต่บริษัทด้านเทคโนโลยีเท่านั้น เพื่อให้สินค้ารถยนต์ของตัวเองพัฒนาไปอีกระดับ GM เองก็สนใจอยากลงทุนด้วยเช่นกัน เรียกว่าสองแรงประสานกันมาลงทุนใน Rivian จากสองอุตสาหกรรมของโลก นับว่าเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่สำหรับ Rivian จริงๆ

Rivian มีจุดยืนที่ชัดเจนว่าจะเป็นแบรนด์รถไฟฟ้าหรูประเภทกระบะและSUV

Rivian มีจุดยืนที่ชัดเจนว่าจะเป็นแบรนด์รถไฟฟ้าหรูประเภทกระบะและSUV

เพิ่มเติม
>>
Rivian R1T รถกระบะ Off-Road พลังงานไฟฟ้า คันแรกของโลก พร้อมเปิดขายปี 2020
>> ไม่ใช่แค่ อาจ แต่ยกเลิกการผลิต Chevrolet Volt จริง

ลงทุนกันมากน้อยแค่ไหน

เม็ดเงินที่ทั้ง Amazon และ GM จะใส่เข้ามาในการลงทุนกับ Rivian นั้นคาดการณ์กันไว้ว่าน่าจะประมาณ 30,000 – 60,000 ล้านบาท และการลงทุนในครั้งนี้ ไม่ใช่การควบรวมกิจการ หรือว่าการครอบครองสัดส่วนการถือหุ้น แต่เป็นการร่วมมือกันนับเม็ดเงินมาพัฒนาต่อยอดค้นคว้าสิ่งใหม่ๆต่างๆอย่างแท้จริง

การร่วมธุรกิจกันของ Amazon, GM และ Rivian น่าจะสร้างอะไรใหม่ๆได้ในวงการรถยนต์แน่ๆ

การร่วมธุรกิจกันของ Amazon, GM และ Rivian น่าจะสร้างอะไรใหม่ๆได้ในวงการรถยนต์แน่ๆ

  1. การเป็นตัวช่วยในการขายรถยนต์

การขายสินค้าเป็นงานถนัดของ Amazon การเป็นนายหน้าก็เช่นกัน Amazon มีบริการหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า Amazon Vehicles ฟังเผินๆเหมือนกับว่า Amazon ขายรถยนต์ แต่จริงๆแล้วไม่ใช่เช่นนั้น บริการชื่อนี้ของ Amazon คือเป็นตัวช่วยให้ลูกค้าที่สนใจรถยนต์สามารถหารถยนต์และเปรียบเทียบรถยนต์ต่างๆได้ก่อนซื้อ แต่จะไม่สามารถซื้อรถยนต์ได้จากบริการนี้ สิ่งที่สามารถซื้อได้คือชิ้นส่วนประดับยนต์ต่างๆ หรือจะอ่านรีวิวที่เป็นประโยชน์ได้ทั้งรถยนต์ใหม่และเก่า การบริการแบบนี้จะให้ข้อมูลรถยนต์แก่ลูกค้าได้อย่างชัดเจนขึ้น ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ใหม่ของ Tesla หรือรถยนต์เก่าๆอย่าง Ford Mustang ที่ 65 ก็สามารถหาข้อมูลได้ ที่ผ่านมา Tesla Model S ใน Amazon Vehicles นี้ได้รับการโหวตสูงสุดซึ่งผลแบบนี้ส่งผลต่อยอดขายอย่างแน่นอน ทีนี้ค่ายรถยนต์ต่างๆก็จำเป็นต้องพัฒนารถยนต์ให้ดีขึ้นและดีขึ้น เพราะหากคุณภาพแย่และลูกค้ามาเจอข้อมูลใน Amazon Vehicles ยอดขายคงเละไปกันใหญ่

*สนใจซื้อรถ Ford Mustang มือสอง, Tesla Model S มือสอง ราคาสวยๆ กดดูที่นี่ได้นะครับ

ให้ข้อมูลแก่ลูกค้าในรถยนต์รุ่นต่างของ Amazon

ให้ข้อมูลแก่ลูกค้าในรถยนต์รุ่นต่างของ Amazon

Amazon ให้รายละเอียดของรถยนต์ทั้งรุ่นทั้งราคาและสเปก เรียกว่าครบ

Amazon ให้รายละเอียดของรถยนต์ทั้งรุ่นทั้งราคาและสเปก เรียกว่าครบ

      3. การขายรถยนต์ online

การตกแต่งดีเลอร์ให้ดูดีมีระดับ นับเป็นเทคนิคอย่างหนึ่งในการแสดงออกถึงภาพลักษณ์ของแบรนด์ แต่หลังจากที่รถยนต์สามารถขายผ่าน online ได้ ก็นับเป็นก้าวสำคัญในการขยายช่องทางการขายรถยนต์อย่างแท้จริง เพราะไม่ว่าจะซื้อที่ไหน รถยนต์ที่ได้มาก็แทบจะไม่ต่างกัน หากรถยนต์คันนั้นเป็นคันที่เราหมายปองไว้แล้วทั้งสเปกและราคา ไม่ว่าจะซื้อจากเซลล์แมนหรือว่าซื้อจากเว็บไซต์ ก็แทบให้ผมไม่ต่างกัน

รถยนต์ก็เอามาขายOnlineแล้วในAmazonเริ่มกันที่ Fiat

รถยนต์ก็เอามาขายOnline แล้วใน Amazon เริ่มกันที่ Fiat

Amazon มีการร่วมมือกับค่ายรถยนต์ Fiat ค่ายผู้พัฒนารถยนต์จากประเทศอิตาลี ทำให้สามารถซื้อรถยนต์จากเว็บไซต์ได้ในปัจจุบัน ดังนั้นใครที่สนใจซื้อรถยนต์ Fiat สามารถซื้อได้จากร้านค้าออลไน์ของ Amazon ได้เลย โดยรถยนต์ที่นำมาขายร่วมกับ Amazon นั้นมีด้วยกันทั้งหมด3รุ่นคือ Fiat 500, Fiat 500L และ Fiat Panda แต่การนำมาขายแบบนี้จะดึงใจผู้ซื้อได้ไม่ใช่แค่เรื่องความสะดวกสบายเท่านั้น แต่เป็นส่วนลดในขณะที่ซื้อต่างหาก เพราะว่าจะได้ราคารถยนต์จากการซื้อผ่านเว็บไซต์ที่ถูกลงไปถึง 33%เมื่อเทียบกับการซื้อผ่านโชว์รูม ตัวเลขนี้ช่างเย้ายวนใจทำให้หลายๆคนหันไปซื้อรถยนต์ด้วยวิธีนี้กันแล้ว ซึ่งหลังจากทำรายการเสร็จ เพียง2สัปดาห์ก็ได้รถมาใช้ และแน่นอน การขายแบบนี้น่าจะทำให้ยอดขายของ Fiat ขายดีขึ้นด้วย

การร่วมมือกันทำมาหากินของ Amazon กับ Fiat ทำให้ Win-Win ทั้งสองฝ่าย

การร่วมมือกันทำมาหากินของ Amazon กับ Fiat ทำให้ Win-Win ทั้งสองฝ่าย

นี่คือบริการคร่าวๆของ Amazon ที่ใช้รถยนต์มาช่วยในการสร้างธุรกิจให้กับตนเองไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้า การให้ข้อมูลด้านรถยนต์ หรือแม้แต่ขายรถยนต์ Online เลย จากจุดเล็กๆของการขายหนังสือ Online กลายเป็นชายที่ร่ำรวยที่สุดในโลกแบบนี้ นับว่าควรเอาเป็นแบบอย่างจริงๆ  โดยเฉพาะการร่วมลงทุนพัฒนารถยนต์น่าจะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้วงการรถยนต์แน่ๆ

เพิ่มเติม
>>
Telenav จับมือ Amazon ยัดระบบเสียง Alexa เข้าไปในไกด์นำทางในรถ
>> เมื่อ Alexa มาอยู่ในรถยนต์ SEAT

ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่  
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้