8 ปัจจัย ที่ประกันใช้คิดค่าเบี้ยให้รถของคุณ

ประสบการณ์ใช้รถ | 5 ก.ค 2560
แชร์ 1

เคยสงสัยบ้างไหม ว่าทำไมทุกปีที่คุณทำประกันรถยนต์ ค่าเบี้ยประกันถึงราคาต่างกัน แม้กระทั้งรถรุ่นเดียวกัน ปีเดียวกัน แต่ค่าเบี้ยประกันก็ยังไม่เท่ากันอีก เพราะว่าปัจจัยที่ทางประกันรถยนต์นำมาใช้ในการคิดค่าเบี้ยประกัน มาจากหลายๆด้านด้วยกัน วันนี้ Chobrod.com จะมาบอกคุณว่ามีอะไรบ้าง

ปัจจัยที่ประกันใช้คิดค่าเบี้ยให้รถ
8 ปัจจัยที่ประกันใช้คิดค่าเบี้ยให้รถของคุณ
 
1. อายุและเพศผู้ขับขี่

อายุมีส่วนที่นำไปคิดค่าเบี้ยประกันโดยมองว่าถ้าผู้ขับขี่อายุน้อยจะมีความเสี่ยงมากกว่าทำให้ค่าเบี้ยประกันแพงกว่า  เพศหญิงก็จะมีความเสี่ยงมากว่าค่าเบี้ยจะสูงกว่าผู้ชาย
 
 ค่าเบี้ยประกันของผู้หญิง
ค่าเบี้ยประกันของผู้หญิงจะคิดแพงกว่าผู้ชาย
 
2. สถานภาพการสมรส

บริษัทประกันมองว่าผู้ขับขี่ที่สมรสแล้วจะมีความเสี่ยงน้อยกว่าคนที่ยังไม่ได้สมรส ค่าเบี้ยประกันจะถูกกว่า

>> ดูเพิ่มเติม:
- วิธีประหยัดค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์
- เริ่มวันนี้ !! เมาแล้วขับชน ประกันไม่จ่าย

 
3.ลักษณะการใช้รถ

ลักษณะการใช้งานและจำนวนผู้ขับขี่ส่งผลต่อค่าเบี้ยประกัน การใช้งานมากทั้งวัน ทุกวัน ก็จะมีความเสี่ยงมากกว่า หรือจำนวนผู้ใช้รถ มีระบุไว้ว่าใช้รถมากมายหลายมือในครอบครัวก็ย่อมมีความเสี่ยงมากกว่าค่าเบี้ยประกันจะคิดแพงกว่า

รถที่ใช้งานมากจะมีความเสี่ยงมาก
รถที่ใช้งานมากกว่า จะมีความเสี่ยงมากกว่า ค่าเบี้ยก็แพงกว่า
 
4. ประวัติการเรียกเคลม

ถ้าผู้ขับขี่ที่เคยมีประวัติการเรียกเคลมกับทางบริษัทประกัน ค่าเบี้ยประกันก็จะแพงกว่าหรือบางทีบริษัทประกันนั้นก็อาจจะไม่รับทำประกันให้กับผู้ขับขี่เลยก็ได้ ต้องหาบริษัทประกันอื่น 
 
5. ยี่ห้อและรุ่นของรถ

รถยุโรปที่มีราคารถแพงกว่ารถญี่ปุ่น ค่าเบี้ยประกันจะสูงกว่า หรือแม้กระทั่งจะเป็นรถยี่ห้อเดียวกัน แต่ว่าเป็นคนละรุ่น รถที่ Segment ใหญ่กว่า ราคาค่าเบี้ยประกันก็จะแพงกว่า

ราคารถ
ราคารถเป็นปัจจัยหนึ่งของค่าเบี้ยประกัน
 
6. ขนาดและประเภทของเครื่องยนต์

รถที่เครื่องยนต์มีขนาดเล็กราคาค่าเบี้ยประกันจะถูกกว่ารถที่มีเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ หรือประเภทเครื่องยนต์แบบธรรมดาก็จะมีราคาถูกกว่าเครื่องยนต์ที่มีระบบเทอร์โบ
 
7. ปีผลิตของรถ

รถปีใหม่กว่าค่าเบี้ยประกันจะสูงกว่าแม้เป็นรถรุ่นเดียวกันเครื่องยนต์เดียวกันก็ตาม หรือถ้ารถบางรุ่นที่เป็นปีเก่ามากก็บริษัทประกันอาจจะไม่รับทำประกันในบางประเภท เช่นรถเก่า 10 ปีขึ้นไปทางบริษัทประกันก็จะให้ทำประกันสูงสุดให้แค่ประกันชั้น 2 เท่านั้น
 
8. ซ่อมห้างหรืออู่นอก

ถ้าผู้เอาประกันต้องการที่จะซ่อมเฉพาะศูนย์เท่านั้น ค่าเบี้ยประกันจะสูงกว่ากรมธรรม์ที่ระบุไว้แค่ซ่อมอู่ เพราะคนส่วนใหญ่มองว่าซ่อมศูนย์ดูมีมาตฐานสูงกว่ารวมไปถึงเรื่องอะไหล่ที่ได้ก็จะเป็นของแท้แน่นอนจากศูนย์
 
และนี่คือปัจจัยหลักๆ ที่ทางประกันนำไปใช้เพื่อคำนวณค่าเบี้ยประกันรถยนต์ของคุณ นอกจากนี้ยังมีค่า Excess ที่เป็นค่าเสียหายส่วนแรกที่ผู้เอาประกันต้องตกลงกับทางบริษัทประกันว่าจะร่วมกันจ่ายในเมื่อเกิดกรณีต้องจ่ายค่าเสียหายซึ่งทาง Chobrod.com เคยเขียนรายละเอียดเรื่องนี้ไว้แล้วลองหาอ่านกันดู ส่วนค่าเบี้ยประกันราคาจะมาก จะน้อยก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้น ลองหาประเภทที่เหมาะสมกับลักษณะการใช้รถของคุณ ในราคาค่าเบี้ยที่ยอมรับได้ รับรองว่าคุณจะขับรถได้อย่างอุ่นใจ และสบายกระเป๋า

>> ดูเพิ่มเติม:
- ซื้อรถมือสองที่มีประกันมากับรถ สามารถใช้ต่อได้ไหม ?
- ยกเลิกประกันรถยนต์ ทำง่าย แถมได้เงินคืน