8 ปัจจัยที่ประกันใช้คิดค่าเบี้ยให้รถของคุณ
1. อายุและเพศผู้ขับขี่
อายุมีส่วนที่นำไปคิดค่าเบี้ยประกันโดยมองว่าถ้าผู้ขับขี่อายุน้อยจะมีความเสี่ยงมากกว่าทำให้ค่าเบี้ยประกันแพงกว่า เพศหญิงก็จะมีความเสี่ยงมากว่าค่าเบี้ยจะสูงกว่าผู้ชาย
ค่าเบี้ยประกันของผู้หญิงจะคิดแพงกว่าผู้ชาย
2. สถานภาพการสมรส
บริษัทประกันมองว่าผู้ขับขี่ที่สมรสแล้วจะมีความเสี่ยงน้อยกว่าคนที่ยังไม่ได้สมรส ค่าเบี้ยประกันจะถูกกว่า
>> ดูเพิ่มเติม:
- วิธีประหยัดค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์
- เริ่มวันนี้ !! เมาแล้วขับชน ประกันไม่จ่าย
3.ลักษณะการใช้รถ
ลักษณะการใช้งานและจำนวนผู้ขับขี่ส่งผลต่อค่าเบี้ยประกัน การใช้งานมากทั้งวัน ทุกวัน ก็จะมีความเสี่ยงมากกว่า หรือจำนวนผู้ใช้รถ มีระบุไว้ว่าใช้รถมากมายหลายมือในครอบครัวก็ย่อมมีความเสี่ยงมากกว่าค่าเบี้ยประกันจะคิดแพงกว่า
รถที่ใช้งานมากกว่า จะมีความเสี่ยงมากกว่า ค่าเบี้ยก็แพงกว่า
4. ประวัติการเรียกเคลม
ถ้าผู้ขับขี่ที่เคยมีประวัติการเรียกเคลมกับทางบริษัทประกัน ค่าเบี้ยประกันก็จะแพงกว่าหรือบางทีบริษัทประกันนั้นก็อาจจะไม่รับทำประกันให้กับผู้ขับขี่เลยก็ได้ ต้องหาบริษัทประกันอื่น
5. ยี่ห้อและรุ่นของรถ
รถยุโรปที่มีราคารถแพงกว่ารถญี่ปุ่น ค่าเบี้ยประกันจะสูงกว่า หรือแม้กระทั่งจะเป็นรถยี่ห้อเดียวกัน แต่ว่าเป็นคนละรุ่น รถที่ Segment ใหญ่กว่า ราคาค่าเบี้ยประกันก็จะแพงกว่า
ราคารถเป็นปัจจัยหนึ่งของค่าเบี้ยประกัน
6. ขนาดและประเภทของเครื่องยนต์
รถที่เครื่องยนต์มีขนาดเล็กราคาค่าเบี้ยประกันจะถูกกว่ารถที่มีเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ หรือประเภทเครื่องยนต์แบบธรรมดาก็จะมีราคาถูกกว่าเครื่องยนต์ที่มีระบบเทอร์โบ
7. ปีผลิตของรถ
รถปีใหม่กว่าค่าเบี้ยประกันจะสูงกว่าแม้เป็นรถรุ่นเดียวกันเครื่องยนต์เดียวกันก็ตาม หรือถ้ารถบางรุ่นที่เป็นปีเก่ามากก็บริษัทประกันอาจจะไม่รับทำประกันในบางประเภท เช่นรถเก่า 10 ปีขึ้นไปทางบริษัทประกันก็จะให้ทำประกันสูงสุดให้แค่ประกันชั้น 2 เท่านั้น
8. ซ่อมห้างหรืออู่นอก
ถ้าผู้เอาประกันต้องการที่จะซ่อมเฉพาะศูนย์เท่านั้น ค่าเบี้ยประกันจะสูงกว่ากรมธรรม์ที่ระบุไว้แค่ซ่อมอู่ เพราะคนส่วนใหญ่มองว่าซ่อมศูนย์ดูมีมาตฐานสูงกว่ารวมไปถึงเรื่องอะไหล่ที่ได้ก็จะเป็นของแท้แน่นอนจากศูนย์
และนี่คือปัจจัยหลักๆ ที่ทางประกันนำไปใช้เพื่อคำนวณค่าเบี้ยประกันรถยนต์ของคุณ นอกจากนี้ยังมีค่า Excess ที่เป็นค่าเสียหายส่วนแรกที่ผู้เอาประกันต้องตกลงกับทางบริษัทประกันว่าจะร่วมกันจ่ายในเมื่อเกิดกรณีต้องจ่ายค่าเสียหายซึ่งทาง
Chobrod.com เคยเขียนรายละเอียดเรื่องนี้ไว้แล้วลองหาอ่านกันดู ส่วนค่าเบี้ยประกันราคาจะมาก จะน้อยก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้น ลองหาประเภทที่เหมาะสมกับลักษณะการใช้รถของคุณ ในราคาค่าเบี้ยที่ยอมรับได้ รับรองว่าคุณจะขับรถได้อย่างอุ่นใจ และสบายกระเป๋า
>> ดูเพิ่มเติม:
- ซื้อรถมือสองที่มีประกันมากับรถ สามารถใช้ต่อได้ไหม ?
- ยกเลิกประกันรถยนต์ ทำง่าย แถมได้เงินคืน