6 วิธีดูแลรถกระบะให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ

รถกระบะ ใช้งานแบบพิเศษ ต้องดูแลเป็นพิเศษด้วย

1.ทำความสะอาดอย่าง “สม่ำเสมอ”

ด้วยรูปแบบการใช้งานของรถกระบะ ที่มักจะได้ทำหน้าที่ขนของ ขนสัมภาระอยู่บ่อยกว่ารถประเภทอื่นๆ ทำให้ต้องการการทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งสาเหตุที่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ เพราะลักษณะการใช้รถกระบะ มีสิทธิที่รถของคุณจะติดคราบบางอย่าง ที่หากปล่อยใว้ระยะเวลานานเกินไป อาจส่งผลเสียระยะยาวได้ ทั้งคราบน้ำมัน คราบสี  โดยควรทำความสะอาดทั้งภายในและภายนอก โดยภายนอกก็สามารถใช้วิธีการล้างแบบทั่วๆไป เช่นการล้างด้วยน้ำ ตามด้วยลงแวกซ็ ภายในก็ทำการดูดฝุ่น เช็ดถูตรงบริเวณต่างๆ วิธีการไม่สำคัญเท่ากับความสม่ำเสมอนะ

ดูเพิ่มเติม
>> เปิดประวัติ Audi ตำนานรถเยอรมัน
>> เช็คด่วน !! ใช้ใบขับขี่หมดอายุมีสิทธิ์ถูกจำคุก 3 เดือนพร้อมค่าปรับอีก 5 หมื่นบาท​
 

ทำความสะอาดให้สม่ำเสมอ

2. ตั้งศูนย์ถ่วงล้อ เช็คลมยางอยู่เสมอ

เนื่องด้วยรถกระบะนั้นออกแบบมาเพื่อให้บรรทุกน้ำหนักเยอะๆ ได้ ทำให้เมื่อขับขี่ไปได้ระยะทางหนึ่ง อาจทำให้ศูนย์ล้อผิดเพี้ยนไปจากเดิมซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ยางเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็วให้ยางและลมยางนั้นสำคัญมากในการใช้งาน และควรตรวจสอบให้ระดับลมยางนั้นเหมาะสมอยู่เสมอ เพราะการใช้งานลมยางที่อ่อนไปบรรทุกของหนักๆ นั้น นอกจากจะส่งผลเสียโดยตรงกับยาง ทำให้เครื่องยนต์ต้องทำงานหนักขึ้น และอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายขึ้น

ตั้งศูนย์ถ่วงล้อเมื่อมีโอกาส

3. ตรวจ เติม เปลี่ยน ของเหลวในรถยนต์อยู่เสมอ

รถกระบะก็เหมือนรถทั่วๆ ไปที่มีของเหลวต่างๆ คอยทำหน้าที่ต่างๆ ทั้งหล่อลื่นเครื่องยนต์รักษาอุณหภูมิ และอื่นๆ อีกมากมายโดยของเหลวแต่ละชนิดก็จะมีระยะการเปลี่ยนอยู่แตกต่างกัน โดยเจ้าของรถกระบะควรตรวจสอบระดับของเหลว และเปลี่ยนของเหลวแต่ละชนิดอย่างสม่ำเสมอตามคำแนะนำ

เช็คระดับ เปลี่ยนของเหลวในรถยนต์ตามคู่มือ

4. เช็คไดชาร์จและแบตเตอรี่รถยนต์สม่ำเสมอ

ไดชาร์จ หรือ อัลเทอร์เนเตอร์(Alternator) คือตัวปั่นไฟ(ผลิตไฟฟ้า) ที่ติดตั้งอยู่บนรถยนต์ เมื่อเครื่องยนต์ทำงาน เครื่องใช้ไฟฟ้าในรถยนต์ทั้งหมดก็จะได้รับ และแบตเตอรี่รถยนต์ ทั้งสองสิ่งนี้ควรได้รับการเช็คอย่างสม่ำเสมอเพื่อ

ไดชาร์จสำคัญในระบบไฟฟ้า ต้องตรวจสอบบ่อยๆ 

5. ตรวจสอบระบบไฟสม่ำเสมอ

หากใครใช้รถกระบะเพื่อการบรรทุกอยู่บ่อยๆ คงจะทราบดีว่าบางครั้งที่มีสัมภาระอยู่ที่หลังกระบะ บางครั้งก็ทำให้ทัศนวิสัยในการมองรถด้านหลังลดลงได้ ดังนั้น ไฟสัญญาณต่างๆ จึงเป็นส่วนสำคัญในการสื่อสารกับรถที่รวมถนน ดังนั้น ควรหมั่นตรวจสอบระบบไฟให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน โดยควรพกฟิวส์สำรองสำหรับเป็นอะไหร่ใว้เพื่อใช้ในยามฉุกเฉินด้วย

6. เปลี่ยนไส้กรองอากาศ (Air Filter)ตามระยะเวลาที่เหมาะสม

ไส้กรองอากาศมีหน้าที่สำคัญ คือ ดักฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกไม่ให้เข้าไปในเครื่องยนต์ แต่เมื่อใช้งานไปนาน ๆ อาจทำให้เกิดอาการอุดตัน  โดยลักษณะการใช้งานรถกระบะมักจะถูกใช้ในเส้นทางที่ทุรกันดาร หรือมีฝุ่นละอองเยอะ ดังนั้น ไส้กรองอากาศอาจจะเกิดการอุดตันได้ง่ายขึ้น ดังนั้นควรตรวจสอบและเปลี่ยนไส้กรองตามระยะเวลาและการใช้งานที่เหมาะสมด้วย

ดูเพิ่มเติม
>> 5 นวัตกรรมใหม่ๆเกี่ยวกับรถไร้คนขับในอนาคตอันใกล้นี้!
>> 5 อันดับแบรนด์รถกระบะขายดีที่สุดในไทย
 

ควรเปลี่ยนตามการใช้งาน ใช้งานที่ฝุ่นเยอะๆ ก็เปลี่ยนบ่อยหน่อย

การดูเเลรักษาเครื่องยนต์ของรถกระบะให้มีประสิทธิภาพดีอยู่เสมอนั้นจำเป็นต้องอาศัยความใส่ใจในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ไม่ว่าจะเป็นการทำความสะอาดอย่างตั้งศูนย์ถ่วงล้อเช็คลมยาง ตรวจเติมเปลี่ยนของเหลวในรถยนต์ เช็คไดชาร์จและแบตเตอรี่รถยนต์สม่ำเสมอ ตรวจสอบระบบไฟเปลี่ยนไส้กรองอากาศ (Air Filter)ตามระยะเวลาที่เหมาะสม นั้นๆ ก็จะช่วยให้รถกระบะของเราพร้อมที่จะใช้งานอยู่เสมอ

Chobrodขอฝากความรู้เกี่ยวกับรถยนต์ไว้เพียงเท่านี้และอย่าลืมแชร์ความรู้เกี่ยวกับเรื่องรถยนต์ของคุณให้เราด้วยโดยการให้ Comment ด้านล่างนี้ได้เลย 

ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่  
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดีและน่าเชื่อถือ เชิญที่นี่