6 ข้อควรทำ!! เตรียมตัวพร้อมรับมือ สำหรับขับรถในหน้าฝน

ประสบการณ์ใช้รถ | 13 พ.ค 2560
แชร์ 0

หน้าฝนกำลังเข้ามาเยือน แน่นอนว่าการใช้รถใช้ถนนเมื่อถนนลื่น ยากต่อการควบคุมส่งผลให้ง่ายต่อการเกิดอุบัติเหตุวันนี้ chobrod.com เลยขอนำเสนอการเตรียมตัวให้พร้อมรับหน้าฝนเมื่อต้องใช้งานรถบนท้องถนน มีอะไรต้องดูบ้างไปชมกัน

ที่ปัดน้ำฝนต้องปัดสะอาด

ถือว่าเป็นอุปกรณ์สำคัญมาก เมื่อฝนตกจะส่งผลโดยตรงกับทรรศนะวิสัยการขับขี่
ตรวจสอบที่ปัดน้ำฝนว่ายางของใบปัดอยู่ในสภาพดี ไม่เปื่อย กรอบ เพราะไม่เช่นนั้นเมื่อฝนตกแล้วใช้งาน
ที่ปัดน้ำฝนจะปัดได้ไม่สะอาด ทำให้การมองเห็นในการชับขี่แย่ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุได้ อีกอย่างที่สำคัญไม่แพ้กันก็เป็นน้ำในกระบอกพักน้ำฉีกกระจกก็ควรเติมให้เต็มอยู่เสมอเพื่อใช้ฉีดล้างทำความสะอาดกระจกเมื่อฝนตกได้
 
ที่ปัดน้ำฝน
 
ยางที่ใช้ต้องไม่เก่าเกินไป

ยางรถยนต์เมื่อใช้งานไปย่อมมีการเสื่อมสภาพ ยางทุกเส้นมีอายุการใช้งาน ไม่ควรมากเกิน 2 ปีหรือมากกว่าแสนกิโลเมตร ผู้ใช้รถควรตรวจสอบดอกยางว่าอยู่ในสภาพพร้อมใช้ ดอกยางควรหนามากกว่า 2 มิลลิเมตรไม่โล่งเตรียนจนแทบจะไม่เห็นลายดอกยาง ตรวจเช็คระดับลมยางให้อยู่ในเกณฑ์มาตฐาน จำไว้เสมอว่ายิ่งหน้าฝน ถนนยิ่งลื่นง่าย คุณภาพของยางที่ใช้จะยิ่งส่งผลต่อการขับขี่  ถ้ายางอยู่ในสภาพที่ไม่พร้อมใช้งานยิ่งเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
 
ยางรถยนต์
 
ระบบเบรคและช่วงล่างติดครบ สว่างชัดเจน

ระบบช่วงล่างไม่ว่าจะเป็น ระบบเบรค โช็คอัพหรือระบบควบคุมการหักเลี้ยว ควรให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ เช็คระดับน้ำมันเบรคให้อยู่ในระดับมาตฐาน ผ้าเบรคยังไม่หมด ระบบช่วงล่างตรวจสอบว่ามีการรั่วซึมของน้ำมันที่จุดไหนบ้างหรือเปล่า หน้าฝนเมื่อเกิดเหตุการ์ณไม่คาดฝัน ระบบช่วงล่างที่ดีสมบูณณ์นั้นจะช่วยให้คุณปลอดภัยจากสถานการ์ณไม่คาดฝันได้
 
 ระบบเบรค
 
ไฟหน้า ไฟท้าย ส่องสว่างชัดเจน

ไฟสัญญาณภายนอกรถต้องตรวจสอบว่าติดปกติส่องสว่าง ไม่มีดวงไหนเสีย ทั้งไฟหน้า ไฟเบรค ไฟเลี้ยว ไฟผ่าหมาก ไฟสัญญาณเป็นสิ่งที่ช่วยให้รถคันอื่นๆ จะสามารถมองเห็นรถคุณได้อย่างชัดเจนเมื่อยามที่ฝนตกหนัก ในช่วงที่ทรรศนะวิสัยของการมองเห็นจะลดน้อยลงไฟเหล่านี้จะช่วยได้มาก
 
ไฟสัญญาณภายนอกรถ
 
ลักษณะการขับต้องเหมาะสม

การขับขี่ก็ส่งผลต่อการเกิดอุบัติเหตุได้เช่นกัน ยิ่งถ้าหน้าฝนนี้แล้ว ยิ่งเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
ผู้ใช้รถท่านใดเคยเจอเหตุการ์ณฝนตกหนักแบบฟ้าเทลงมา หนักมากจนที่ปัดน้ำฝนเอาไม่อยู่แทบมองไม่เห็นรถคันข้างหน้ากันบ้างไหม ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ อย่าขับรถเร็วมากเกินไป ให้อยู่ในระดับ 40-60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพราะการเกิดสถานการณ์ที่ต้องเบรครถกระทันหัน เมื่อฝนตกหนักการมองเห็นรถคันข้างหน้าก็จะช้าลงการใช้ความเร็วไม่สูงมากจะช่วยได้
 
อีกแบบหนึ่ง ฝนเริ่มซาลงแต่ถนนยังไม่แห้ง ถนนยังมีความลื่นอยู่ก็ยังไม่ควรจะใช้ความเร็ว ยิ่งบางจุดของถนนอาจมีแอ่งน้ำขังอยู่ ถ้าขับลุยแอ่งน้ำไปในความเร็วสูง อาจทำให้เกิดอาการ ”เหินน้ำ” ของรถทำให้เสียการควบคุม เพราะฉะนั้นอย่าไว้ใจทาง ถึงแม้ฝนจะตกหนักหรือเบาก็ควรจะระมัดระวังในการขับเป็นดีที่สุด
 
ผู้ขับขี่สำคัญที่สุด

ไม่ว่าจะฤดูไหน ทั้งหน้าร้อน หน้าฝน ไม่ว่าจะเป็นรถมือหนึ่งป้ายแดง หรือรถมือสอง
การดูแลรถเพื่อให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานนั้นย่อมเป็นสิ่งสำคัญ เมื่อรถพร้อม สิ่งสำคัญที่สุดเหนือสิ่งอื่นใดคือผู้ขับขี่ต้องพร้อม มีสติก่อนสตาร์ททุกครั้ง ถ้ารู้ตัวเองว่าพักผ่อนไม่เพียงพอก็เลี่ยงที่จะขับรถ เพราะจะ   เสี่ยงต่อการหลับในได้และที่สำคัญ “เมาไม่ขับ” แค่นี้ก็จะช่วยให้ท่านสามารถเดินทางได้ถึงเป้าหมายได้โดยสวัสดิภาพแล้ว
 
และนี่คือประโยชน์ดีๆ ที่ทาง Chobrod.com นำมาฝากกันสำหรับทุกท่านที่ใช้รถใช้ถนนทั้ง 7 ข้อนี้สามารถใช้ได้กับรถทุกประเภท รถเก๋ง รถกระบะ รถป้ายแดง รถมือสอง หวังเป็นอยางยิ่งที่ผู้อ่านจะนำไปใช้เพื่อให้การเดินทางของท่านราบรื่นและปลอดภัย ขอให้มีความสุขกับหน้าฝนนี้ที่กำลังเข้ามา