5 สัญญาณที่บอกว่ารถของคุณถึงเวลาเปลี่ยนยางแล้ว!!!

ประสบการณ์ใช้รถ | 21 มิ.ย 2562
แชร์ 6

หลายคนมีความเชื่อว่ายางรถยนต์นั้นค่อยเปลี่ยนเมื่อวิ่งถึงระยะที่กำหนดคือครบ 50,000 กิโลเมตร หรือนับปีตามอายุยาง ซึ่งอันที่จริงแล้วเราไม่จำเป็นต้องรอให้ยางหมดอายุแล้วถึงค่อยเปลี่ยน เพราะอาจมีเหตุอื่น ๆ ที่ส่งสัญญาณว่าเราจำเป็นต้องเปลี่ยนยางแล้ว

ยางรถยนต์เป็นส่วนที่สำคัญเป็นอย่างมาก เพราะเป็นจุดที่ต้องรับแรงกดจากรถทั้งคัน อีกทั้งต้องวิ่งออกไปรับกับสภาพถนนที่คาดเดาไมได้เลยว่าจะต้องเจอรูปแบบไหน ทั้งเจอฝุ่น กรวด หิน ดิน น้ำเป็นส่วนที่สมบุกสมบันเป็นอย่างมาก อีกทั้งอากาศเมืองไทยมีสภาพเหมือนเป็นเมืองร้อนอยู่ตลอดเวลา ยางรถยนต์ก็รับความร้อนมาจนเกิดอาการเสื่อมได้ง่ายได้เช่นกัน

ดูอย่างไรให้รู้? กับ 5 สัญญาณที่บอกว่ารถของคุณถึงเวลาเปลี่ยนยางแล้ว

ดูอย่างไรให้รู้? กับ 5 สัญญาณที่บอกว่ารถของคุณถึงเวลาเปลี่ยนยางแล้ว

แต่ด้วยความที่เป็นส่วนที่สำคัญของรถ จึงควรใส่ใจเรื่องของยางรถยนต์ให้เป็นพิเศษ อย่ามองว่ายังไม่ถึงกำหนดตามระยะทางหรือถึงอายุขัยของมัน ถ้าเกิดยางผ่านการใช้งานมามากมายอาการเสื่อมย่อมอาจเกิดได้ไวกว่าอายุที่กำหนด ดังนั้นจึงควรสังเกตอาการให้ดี ๆ ว่ามีสัญญาณอะไรบ้างที่บ่งบอกว่ารถของคุณถึงเวลาเปลี่ยนยางแล้ว

1. ดอกยางเหลือน้อยไปถอยยางใหม่

ดอกยางรถยนต์นั้นจะช่วยรีดน้ำเมื่อยามที่เราต้องขับรถบนถนนที่มีน้ำขังหรือบนพื้นถนนที่เปียก โดยดอกยางรถยนต์นี้จะช่วยให้ผิวหน้าของยางรถยนต์สามารถเกาะถนนได้ปกติ แต่ถ้าหากดอกยางเกิดสึกเหลือดอกน้อยจะมีโอกาสสูงที่รถจะเสียหลักลื่นไถลได้

ดอกยางสึกทำให้ประสิทธิภาพในการเกาะถนนลดลง

ดอกยางสึกทำให้ประสิทธิภาพในการเกาะถนนลดลง

โดยปกติแล้วดอกยางใหม่จะมีความลึกอยู่ที่ประมาณ 8-9 มิลลิเมตร ถ้าดอกยางเหลือไม่ถึง  3 มิลลิเมตร ให้รีบเปลี่ยนยางทันที โดยการดูดอกยางนั้น สังเกตด้วยตาเปล่าก็ได้ หรือตรวจสอบโดวยใช้ไม้ขีดไฟทิ่มลงไปในยางรถยนต์ ถ้าจิ้มลงไปจนสุดแล้วยังเห็นหัวไม้ขีดสีแดง แสดงว่าดอกยางเหลือน้อยกว่ากว่าที่จะใช้งานได้อีกต่อ

2. ยางมีรอยรั่วใหญ่ ควรรีบไปเปลี่ยนทันที

รอยรั่วของยางที่ใหญ่เกินไปไม่สามารถแก้ปัญหาได้ด้วยการปะ

รอยรั่วของยางที่ใหญ่เกินไปไม่สามารถแก้ปัญหาได้ด้วยการปะ

เมื่อเกิดยางรั่ว หลายคนอาจใช้วิธีปะยางแทนการเปลี่ยนเส้นใหม่ เพราะคิดว่าประหยัดเงินได้มากกว่า แต่การปะยางนั้นมีข้อจำกัดคือควรทำในบริเวณที่มีรอยรั่วขนาดไม่เกิน 1 ใน 4 นิ้ว และเกิดขึ้นในบริเวณหน้ายางเท่านั้น ไม่ควรปะยางบริเวณแก้มหรือขอบยางเพราะไม่มีประโยชน์ รวมถึงรอยรั่วที่ใหญ่มากกว่าขนาดที่กล่าว การเปลี่ยนยางเส้นใหม่จะเป็นวิธีการแก้ไขปัญหาที่ได้ผลดีและปลอดภัยต่อรถและตัวคุณเองในอนาคตมากกว่า

ดูเพิ่มเติม
>> 
Five FACT : 5 วิธีการรับมือหากยางรั่วควรแก้ยังไง?
>> รู้ไว้ใช่ว่า ... อายุการใช้งานของ “ยางอะไหล่” สามารถใช้งานได้นานเท่าใด ?

3. ยางบวมตึง ถึงเวลาต้องเปลี่ยน

ยางบวมเสี่ยงต่อการระเบิดได้

ยางบวมเสี่ยงต่อการระเบิดได้

อาการยางยวมเกิดจากโครงสร้างภายในยางที่ถูกวางแบ่งออกเป็นชั้นๆ ด้วยเส้นใยโลหะที่ถักร้อยเรียงกันเกิดการบิดเบี้ยวที่มาจากหลายสาเหตุ เช่นการเสียดสีอย่างแรงจากชนขอบฟุตบาท หรือขับรถตกหลุม อีกสาเหตุหนึ่งอาจเกิดจากการที่ยางไม่ได้คุณภาพ หรือจากการที่ลมยางอ่อนหรือเติมลมยางเกิน ทำให้เกิดอาการบวมปูดขึ้นมา  ลองสังเกตด้วยตัวเองด้วย หากแตะเนื้อยางแล้วพบว่ายางแข็ง หรือจิกเล็บลงไปไม่เห็นรอยแสดงว่าหน้ายางเสื่อมสภาพแล้ว ให้รีบเปลี่ยนยางทันที หากยังให้รถวิ่งต่อความร้อนในล้อจะเกิดการสะสมมากขึ้น เพิ่มแรงดันและอาจดันจุดที่บวมให้แตกระเบิดได้ ในที่สุด

4. แก้มยางรถยนต์แตก ไม่แปลกที่ควรเปลี่ยน

ยางที่เกิดรอร้าวควรรีบเปลี่ยนทันที

ยางที่เกิดรอร้าวควรรีบเปลี่ยนทันที

ถึงดอกยางจะยังดี แต่แก้มยางมีรอยปริ รอยแตก รอยร้าวเป็นเส้น ๆ นั่นก็เป็นสัญญาณเตือนว่าถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนยางแล้วเช่นกัน เพราะการเกิดรอยร้าวอาจเสี่ยงให้เกิดยางระเบิดได้ในขณะที่ขับรถด้วยความเร็วสูง โดยอาการแก้มยางแตกนี้สาเหตุอาจมาจากการที่รถเกิดตกหลุม หรือขับรถแล้วยางเบียดฟุตบาท  ทำให้ขอบยางที่จะต้องเบียดชิดกับขอบกระทะล้อแม็กไม่สามารถแนบชิดกันได้ แก้มยางฉีกขาดเสียหาย ทำให้ลมยางรั่วซึมออกมา

5. ยางส่งเสียงดัง ให้ระวัง รีบตรวจสอบด่วน

คอยเฝ้าสังเกตุอาการ ฟังเสียงผิดปกติจากยางขณะขับรถ

คอยเฝ้าสังเกตุอาการ ฟังเสียงผิดปกติจากยางขณะขับรถ

รู้จักอาการยางหอนไหม? คือการที่ได้ยินเสียงผิดปกติที่ดังมาจากล้อขณะที่เรากำลังขับขี่ ซึ่งเสียงนั้นเกิดจากความผิดปกติจากยาง อาการยางหอนอาจเกิดขึ้นเพราะสภาพยางที่แข็งเนื่องจากผ่านการใช้งานมานานแล้ว เวลาวิ่งยางจะมีแรงตกกระทบกับพื้นถนนทำให้เกิดเสียงขึ้นมา ถ้าเนื้อยางยิ่งแข็งมาก จะยิ่งเสียงเกิดอาการอื่น ๆ ตามมาที่อาจก่อนให้เกิดอันตรายได้ หรืออาจเกิดจากการสึกของยาง เช่นการสึกขอบหรือสึกเป็นลูกคลื่น เวลาใช้งานไปยางจะมีเสียงดังมากกว่าปกติเนื่องจากสัมผัสกับพื้นถนนที่ไม่เรียบสนิททำให้เวลาหน้ายางกระทบกับพื้นจะไม่เรียบและเกิดเสียง ให้ตรวจเช็คช่วงล่าง และลองทำการสลับยางดูอาการยางหอนอาจจจะหายไปแต่อาจจะไม่หายขาดเพราะยางกิดอาการสึกไม่เรียบแล้ว ลักษณะอาการเหล่านี้การเปลี่ยนอย่างให้จะช่วยแก้ปัญหาได้ดีกว่า

ขอเสริม เรื่อง Tip เเนะนำขั้นตอนเปลี่ยนยางอะไหล่ด้วยตนเอง

เพราะยางเป็นส่วนที่สำคัญและจำเป็นที่จะต้องใส่ใจ หมั่นตรวจดูรถยนต์ของคุณหากพบอาการดังกล่าวตามที่ว่าไป ให้รีบทำการเปลี่ยนในทันที และถ้าทั้งหมดที่กล่าวมายางของคุณไม่ได้เข้าข่ายหรือพบอาการใด ๆ ให้ทำการเปลี่ยนยางเมื่อครบกำหนดอายุการใช้งาน เพื่อเป็นการอายุการใช้งานรถยนต์สุดรักของคุณให้ยาวนานขึ้น

ดูเพิ่มเติม
>> 
บอกลายางรั่ว Michelin พัฒนา "ยางไร้ลม" ใช้งานจริงอีก 5 ปี
>> รถดับกลางน้ำทำยังไงดี! มาดูวิธีเอาตัวรอดเมื่อรถดับกลางน้ำท่วม พร้อมแนะนำ 5 ไอเท็มที่ควรมีไว้สำหรับการขับรถหน้าฝน

ติดตามข่าวสารรถยนต์ คลิกที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้

ANNOiNA