แน่นอนว่าไม่ใช่รถที่บินได้ แต่ยังคงเป็นพัฒนาการของรถที่น่าสนใจและอะไรใหม่ๆที่มันเจ๋งมากขึ้น
ในขณะที่สมาร์ทโฟนเริ่มบางลงและมีความเร็วความเสถียรรวมถึงฟังก์ชั่นต่างๆที่เพิ่มมากขึ้น เซลฟี่สวย ถ่ายรูปชัดจนแทบจะใช้งานแทนกล้องจริงๆนั้น พัฒนาการที่น่าทึ่งของอุตสาหกรรมรถยนต์ก็กำลังจะเปลี่ยนโลกใบนี้ ไม่ว่าจะเป็นยานพาหนะไฟฟ้าที่ปล่อยควันที่เป็นอันตรายน้อยลง หรือปัญญาประดิษฐ์ที่สร้างรถยนต์ไร้คนขับที่ใช้ได้ในชีวิตจริงนวัตกรรมเหล่านี้กำลังจะมีผลกระทบมากที่สุดในชีวิตของคุณ
5 นวัตกรรมใหม่ๆเกี่ยวกับรถไร้คนขับในอนาคตอันใกล้นี้!
มาดูกันดีกว่าค่ะมา 5 ข้อของนวัตกรรมเหล่านั้นที่จะพัฒนามากขึ้นมีอะไรกันบ้าง
1.ยานยนต์ไฟฟ้าที่ได้รับการปรับปรุง
ก่อนที่รถยนต์ไฟฟ้าจะกลายเป็นกระแสหลักอย่างแท้จริงแนวทางการแข่งขันควรปรับปรุงภายในของเครื่องยนต์ ทั้งการเพิ่มแบตเตอรี่ให้มีความจุที่มากกว่ารวมถึงตัวเก็บประจุยิ่งยวดที่มีคุณภาพ ตัวเก็บประจุยิ่งยวดจะมีความหนาแน่นของพลังงานที่เพียงพอเพื่อให้สามารถขับขี่ได้ไกลเกินกว่าระยะทาง 300 ไมล์ที่ยานพาหนะไฟฟ้าในปัจจุบัน มีการวิจัยแสดงให้เห็นว่าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนมีพลังงานมากกว่าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนซึ่งมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 180 วัตต์ต่อชั่วโมงเมื่อเทียบกับลิเธียมไอออนแบบเดิมที่กำลัง 100-120 วัตต์ต่อชั่วโมง ถ้าพูดถึงเทคโนโลยีใดที่อุตสาหกรรมยานยนต์มีแนวโน้มว่าจะพัฒนา? ก็คงจะได้เห็นกันเร็วๆนี้นะคะ ที่ แต่ Elon Musk ได้กล่าวว่าความก้าวหน้าในการขนส่งทางไฟฟ้ามีแนวโน้มที่จะมาจากตัวเก็บประจุยิ่งยวด มากกว่าจากแบตเตอรี่
ดูเพิ่มเติม
>> Volvo ผู้ดีส่งเครื่องยนต์ T5 ติดตั้งในกลุ่มรถใหญ่ลงตลาด
>> BlueTec ชื่อนี้มีดีอะไร
ภาพจำลองอนาคตของรถไร้คนขับ
2. การชาร์จอย่างรวดเร็วและไร้สาย
ในขณะที่เราพูดถึงเรื่องของแบตเตอรี่ไปแน่นอนว่าต้องพูดถึงเทคโนโลยีการชาร์จ หากบริษัทรถยนต์เลือกที่จะลงทุนกับตัวเก็บประจุยิ่งยวด ยานพาหนะไฟฟ้าสามารถชาร์จได้ภายในไม่กี่นาทีแทนที่จะเป็นชั่วโมง ! เร็วสุดอะไรสุดเลยค้าาา ถ้าให้ขับรถจากลอนดอนมายังสกอตแลนด์น่ะหรอ? คุณอาจต้องหยุดรถเพียง 10 นาทีแทนที่จะต้องใช้เวลา 40 นาทีในการชาร์จแบต นอกจากนี้ยังมีบริษัทหลายแห่งที่ทำงานเกี่ยวกับการชาร์จแบบไร้สายซึ่งจะทำให้การเป็นเจ้าของและใช้ชีวิตกับรถยนต์ไฟฟ้าได้ง่ายขึ้นอย่างแน่นอน
5 นวัตกรรมใหม่ๆเกี่ยวกับรถไร้คนขับในอนาคตอันใกล้นี้!
3. ระบบการขับรถอัตโนมัติหรือรถไร้คนขับอย่างเต็มรูปแบบ
หากผู้ผลิตรถยนต์เชื่อว่ามันเป็นไปได้ เราจะได้เดินทางในรถยนต์ไร้คนขับ ในช่วงเวลาเร็วที่สุดราวๆปี 2025 รถยนต์จะติดตั้งเซ็นเซอร์ที่ช่วยให้ยานพาหนะสามารถมองเห็นสภาพแวดล้อมได้ 360 องศา ประเภทของเซ็นเซอร์ที่ใช้จะขึ้นอยู่กับผู้ผลิต แต่ส่วนใหญ่จะใช้ LIDAR (light detection and ranging) เรดาร์เลเซอร์และกล้องวิดีโอร่วมกัน
สิ่งเหล่านี้จะทำให้รถมีมุมมอง 360 องศาด้วยระบบ AI ขั้นสูงเพื่อตีความข้อมูลจากเซ็นเซอร์ ทำให้รถอยู่บนท้องถนนและตอบสนองต่อสถานการณ์ต่างๆตามที่เกิดขึ้น ในขณะที่รถขับไปเอง เคลื่อนที่ไปตามคำสั่ง คุณจะสามารถผ่อนคลายและดื่มด่ำกับซีรี่ส์ Netflix ที่คุณชื่นชอบได้ในแบบที่คุณต้องการ ยอดเยี่ยมเลยใช่ไหมล่ะคะ
สื่อสารกับรถได้
4. การสื่อสารกับรถได้และรถสามารถโต้ตอบกับทุกสิ่งได้อย่างฉับไว
เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องความปลอดภัยและจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับอนาคตของรถยนต์ไร้คนขับ การพัฒนาเรื่องการสื่อสารกับยานพาหนะโดยที่เราสามารถคุยกับรถของเราได้เป็นเรื่องที่เจ๋งมากๆ หากรถยนต์ทุกคันมาพร้อมกับเทคโนโลยีนี้ก็จะช่วยให้รถมีความสามารถที่สูงขึ้นในการเดินทางไปในที่ต่างๆ ถ้าสมมติเดินทางไปแล้วรถเกิดขัดข้องหรือจะเกิดอุบัติเหตุ ก็จะมีสัญญาณแจ้งเตือนขึ้นมาให้คุณเบี่ยงหลบหรือจอดรถได้อย่างปลอดภัยเหมือนที่ Vision เตือน Ironman ในหนังยังไงอย่างงั้น และอาจจะได้รับการพัฒนาให้รถสื่อสารกับป้ายบอกทาง สัญญาณไฟจราจร หรือคำเตือนต่างๆเกี่ยวกับการจราจรที่แออัดให้เราเลี่ยงเส้นทางนั้นๆได้สบาย
รถยนต์กับปัญญาประดิษฐ์
5. รถยนต์กับปัญญาประดิษฐ์
ความก้าวหน้าในปัญญาประดิษฐ์ (AI) จะเป็นแรงผลักดันหลักที่อยู่เบื้องหลังรถไร้คนขับ ความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดที่รถปลอดภัยจะต้องเอาชนะคือความจริงที่ว่าไม่มีสถานการณ์ที่จะเข้ามาเหมือนกันเลย นอกจากนี้รถจะต้องตอบสนองต่อการจราจรทางเท้าและสภาพถนนที่ไม่ซ้ำกัน นั่นคือสิ่งที่จะต้องให้ปัญญาประดิษฐ์เข้ามาช่วยพัฒนา
ไม่มีทางที่วิศวกรจะสามารถทำนายและเขียนคำแนะนำสำหรับทุกสถานการณ์ได้ ดังนั้นผู้ผลิตยานยนต์จะต้องใช้ข้อมูลขนาดใหญ่และการเรียนรู้เกี่ยวกับเครื่องจักรเพื่อให้รถทำงานเหมือนกับมนุษย์ขับเอง ต้องใช้พลังงานในการประมวลผลและเซ็นเซอร์ขั้นสูงจำนวนมาก แต่ก็มีบางบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในบรรดารถยนต์ต่างๆก็ทุ่มเทการลงทุนในการวิจัย AI ทั้งหมด AI จะไม่เป็นประโยชน์กับคนขับรถเท่านั้น บริษัทต่างๆยังพัฒนาระบบการเรียนรู้ที่สามารถบันทึกการขับขี่ในชีวิตประจำวันของคุณและทำให้ทุกสิ่งง่ายขึ้น ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณฟังวิทยุคลื่น 93.5 ตอนเช้าที่ไปทำงาน ขากลับตอนเย็นคุณฟัง 105.5 รถจะเรียนรู้พฤติกรรมนี้ และเปลี่ยนให้คุณโดยอัตโนมัติ
เท่าที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นความก้าวหน้ารวมถึงการปรับปรุงความคิดเกี่ยวกับรถยนต์ไร้คนขับที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งแน่นอนว่าถ้ามันเกิดขึ้นจริงๆถือว่าโลกเราได้เจอกันการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่แน่นอน การที่เราได้เห็นความตื่นตาตื่นใจกับเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นในหนัง กำลังจะมาให้เราเห็นและจับต้องได้จริงเร็วๆนี้แล้ว! น่าตื่นเต้นมากๆ
ดูเพิ่มเติม
>> เพลินตาเพลินใจไปกับบรรดาสาวสวยจากงาน “Big Motor Sale 2018”
>> Waymo สานต่อโปรเจครถไร้คนขับจาก Google พัฒนาจนได้ทดลองรับส่งผู้โดยสารจริง
Chobrod ขอฝากความรู้เกี่ยวกับรถยนต์ไว้เพียงเท่านี้และอย่าลืมแชร์ความรู้เกี่ยวกับเรื่องรถยนต์ของคุณให้เราด้วยโดยการให้ Comment ด้านล่างนี้ได้เลย
ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดีและน่าเชื่อถือ เชิญที่นี