10 คำถามเรื่องเกี่ยวกับยางที่ควรรู้

ประสบการณ์ใช้รถ | 29 พ.ย 2560
แชร์ 6

ยางเป็นส่วนหนึ่งในการเสริมประสิทธิภาพการขับขี่ หากยางสึกหรือเสื่อม นั่นหมายความว่าการเกิดอุบัติเหตุก็จะมีมากขึ้นด้วย ดังนั้น เราควรเข้าใจถึงการดูแลระกษายาง เพื่อจะให้มีความปลอดภัยในการขับขี่มากขึ้น ทั้งยังทำให้อายุการใช้งานยางยางขึ้น ซึ่ง 10 ข้อนี้ เป็นเรื่องเกี่ยวกับยางที่ควรรู้

วันนี้ chobrod.com จะมาแนะนำ 10  คำถามเรื่องเกี่ยวกับยางที่ควรรู้ ตามมาดูกันได้เลย

1. เมื่อไหร่ควรเช็คลมยาง

คุณควรเช็คลมยางอาทิตย์ละครั้ง ซึ่งควรเช็คในขณะที่ยางเย็นอยู่ หมายความว่ารถยังวิ่งได้ระยะทางไม่เกิน 1,5-2 กิโลเมตรหรือ 2-3 ชั่วโมงหลังการขับขี่ ถ้าหากเราเช็คในขณะที่รถยังมีความเร็วอยู่นั้น จะทำให้ค่าที่ได้คลาดเคลื่อน เพราะความดันในลมยางจะเพิ่มขึ้นตามอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น ที่สำคัญอุปกรณ์ที่ใช้เช็คลมยางควรเป็นอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน

2. ยางที่ใช้ควรเติมลมเท่าไหร่

สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งคือการเติมลมยางให้ได้อัตราที่ถูกต้อง ซึ่งควรเป็นไปตามทีอัตราที่ผู้ผลิตรถยนต์กำหนดไว้ โดยขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของรถแต่ละชนิด อัตราดังกล่าวนืทางผู้ผลิตรถยนต์จะระบุไว้ที่แผ่นโลหะหรือแผ่นสติ้กเกอร์ที่ติดไว้บริเวณเสากลางข้างตัวรถ สันประตู หรือช่องเก็บของภายในรถยนต์ นอกจากนี้ยังระบุไว้ในคู่มือการใช้รถอีกด้วย

ควรตรวจเช็คลมยางเสมอ
ควรตรวจเช็คลมยางเสมอ

3. ทำไมไม่ควรให้ยางลมอ่อน

การใช้ยางลมอ่อน หรือต่ำกว่าอัตราที่เหมาะสม นับเป็นอันตรายต่อการใช้งานของยาง ทำให้ยางนั้นเสื่อมเร็ว เนื่องจากในขณะที่รถวิ่ง ยางจะเกิดความร้อนสูงอย่างรวดเร็ว และมากกว่าที่ควรจะเป็น ความสามารถในการบรรทุกน้ำหนักจะลดลง อีกทั้งยังสิ้นเปลืองพลังงานมากขึ้น

4. การตั้งศูนย์ล้อคืออะไร

การตั้งศูนย์ล้อคือการทำให้ส่วนประกอบต่างๆที่เกี่ยวข้องกับระบบบังคับเลี้ยว ระบบช่วงล่าง และยาง ทำงานสัมพันธ์กันอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้รถวิ่งได้ตรง ซึ่งระบบช่วงล่างและระบบบังคับเลี้ยวของรถนั้น มีอะไหล่ที่เคลื่อนไหวขณะรถวิ่ง และย่อมทำให้รถสึกหรอ ศูนย์ล้อจึงผิดเพี้ยน เป็นผลทำให้รถวิ่งไม่ตรง แฉลบ และอาจเกิดอุบัติเหตุตามมา ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีการตั้งศูนย์ถ่วงล้อเพื่อให้ได้ค่าตามสเป็คของรถที่กำหนดไว้

การตั้งศูนย์ช่วยการควบคุมรถ
การตั้งศูนย์ช่วยการควบคุมรถ

5. ทำไมต้องมีการถ่วงล้อ

ถ้าหากยางและกะทะล้อกระจายน้ำหนักไม่ถูกต้อง จะทำให้รถที่กำลังวิ่งเกิดการสั่นสะท้าน ซึ่งส่งผลต่ออายุการใช้งานของยาง ระบบช่วงล่างของรถ รวมไปถึงความสะดวกสบายในการขับขี่ การถ่วงล้อจะช่วยให้เกิดการกระจายน้ำหนักของยาง ซึ่งสามารถทำได้ด้วยการเพิ่มน้ำหนัก ณ จุดใดจุดหนึ่งที่ขอบกะทะล้อ

6. ควรถ่วงล้อเมื่อไหร่

เมื่อมีการเปลี่ยนยางใหม่ การสลับยาง สลับกะทะล้อ เมื่อนำยางที่ใช้แล้วมาใส่กะทะล้อที่ใช้อยู่ เมื่อยางแตก และได้รับการปะเรียบร้อยแล้ว เมื่อมีการถอดยางออกจากกะทะล้อ เมื่อขณะรถวิ่งเกิดการสั่นสะเทือน เมื่อเกิดเหตุการณ์เหล่านี้ ควรส่งรถเข้ารับบริการศูนย์ถ่วงล้อ

7. ทำไมต้องปรับตั้งศูนย์ถ่วงล้อ

การที่รถมีศูนย์ถ่วงล้อที่ไม่ถูกต้องนั้น นอกจากจะทำให้ยางสึกแล้ว ยังทำให้ทิศทางของรถควบคุมไม่ได้อีกด้วย หากรถมีความผิดปกติในการควบคุม หรือยางที่ใช้อยู่สึก ไม่สม่ำเสมอ ควรเข้ารับการปรับตั้งศูนย์ถ่วงล้อ และต้ำป็นต้องเข้ารับการตรวจเช็ค

การดูแลยางช่วยเพิ่มความปลอดภัย
การดูแลยางช่วยเพิ่มความปลอดภัย

8. การสลับยางคืออะไร

จุดประสงค์ของการสลับยางคือ ให้ยางทุกเส้นสึกเท่าๆกัน ขณะที่ขับขี่จะได้ไม่สั่นสะเทือน ซึ่งในคู่มือมรการแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับการสลับยาง โดยควรสลับยางทุกๆ 9,000-13,000 กิโลเมตร หากเป็นรถใหม่ เมื่อขับครบ 10,000 กิโลเมตร ควรสลับยางทันที

9. ในการเลือกยางรถ ควรคำนึงถึงอะไร

ในการเลือกยางรถ สิ่งที่ควรคำนึงถึงคือ ประเภทรถยนต์ น้ำหนักของรถยนต์ว่าหนักหรือเบส สมรรถนะความเร็ว ลักษณะการขับขี่ สภาพพื้นผิวถนน สภาพภูมิอากาศ รวมทั้งควรใช้ยางให้เหมาะสมกับมาตรฐานที่ผู้ผลิตรถยนต์กำหนด อย่าใช้ยางขนาดต่ำกว่ายาวที่ติดรถมา เพราะรับน้ำหนักได้น้อยกว่า อีกทั้งควรใช้ยางชนิดเดียวกัน ดอกเดียวกันทั้งหมด เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพในการขับขี่

ควรเลือกยางให้เหมาะสมกับรถ
ควรเลือกยางให้เหมาะสมกับรถ

10. นิสัยการขับรถมีผลต่อยางหรือไม่

นิสัยการขับขี่มีผลต่อการสึกของยางรถ อย่างเช่น การออกรถและหยุดรถอย่างรุนแรง การหักเลี้ยวอน่างรุนแรง การขับรถปีนขอบถนน การขับเบียดฟุตบาท การขับโดยเหยียบสิ่งกีดขวาง หรือหลุม จะทำให้ยางสึกก่อนกำหนด ดังนั้นเพื่อเป็นการยืดอายุยาง ควรหลีกเลี่ยงนิสัยเหล่านี้

อ่านเพิ่มเติม
>>เรื่องน่ารู้....เกี่ยวกับยางรถยนต์
>>5 สาเหตุที่ทำให้ยางเสื่อมสภาพเร็วกว่าเวลาอันควร
>>สลับยางยืดอายุการใช้งาน เรื่องเล็กๆที่ไม่ควรมองข้าม