แอร์รถไม่เย็น มีแต่ลม เกิดจากอะไร ?

ประสบการณ์ใช้รถ | 12 ก.ค 2566
แชร์ 0

เคยไหม ? แอร์รถไม่เย็น มีแต่ลมออกมา จนในรถร้อนอบอ้าวไปหมด ขับรถไปก็ทรมาน ปัญหานี้เกิดจากอะไร เหตุผลที่แอร์รถไม่เย็นคืออะไร มีสาเหตุจากไหน หาคำตอบได้ในบทความนี้

ผู้ใช้รถหลายคนอาจจะเคยประสบปัญหา แอร์รถไม่เย็น มีแต่ลมออกมา ไม่มีความเย็นเลย หรือช่องแอร์เริ่มมีความเย็นน้อยลง ปรับอุณหภูมิลงเท่าไหร่ก็ไม่เย็นสักที ทำให้เกิดความร้อนอบอ้าวภายในรถ จะเปิดกระจกก็ลำบากเพราะแดดประเทศไทยไม่อำนวยสักเท่าไหร่ สร้างความทรมานในการขับขี่ไปอีก! แล้วเหตุผลที่แอร์รถไม่เย็นนั้นเกิดจากอะไร ? มีสาเหตุจากไหน ? หาคำตอบได้ในบทความนี้ 

แอร์รถไม่เย็น มีแต่ลม

กรองแอร์อุดตัน

สาเหตุหนึ่งที่ทำให้แอร์รถไม่เย็น คือ การที่มีคราบสกปรก หรือเชื้อราเข้าไปสะสมภายในช่องแอร์ จนทำให้กรองแอร์อุดตัน ส่งผลให้ระบบปรับอากาศทำงานได้ไม่เต็มที่ กรองแอร์ตันลมไม่ออก ทำให้แอร์รถไม่เย็น หรือเย็นน้อยลงนั่นเอง 

ระบบไฟมีปัญหา

เหตุผลที่แอร์รถไม่เย็น สันนิษฐานได้ว่าอาจเป็นเพราะระบบไฟไม่ทำงาน เช่น คอมเพรสเซอร์ไม่ทำงาน หรือไฟฟ้าลัดวงจร จนทำให้แอร์รถหยุดทำงาน ซึ่งกรณีนี้จะเกิดขึ้นได้กับรถที่ผ่านการใช้งานมาอย่างยาวนาน 

แอร์รถไม่เย็น มีแต่ลม

แอร์รถยนต์รั่ว

หากน้ำยาแอร์รั่วไหล ความเย็นในช่องแอร์จะค่อย ๆ ลดลง จนมีแต่ลมออกมาเท่านั้น สามารถตรวจสอบได้โดยการใช้น้ำสบู่ทาบริเวณท่อ หากจุดไหนมีฟองอากาศออกมาก็แสดงว่าแอร์รั่ว ควรนำเข้าอู่หรือศูนย์ให้ช่างเปลี่ยนใหม่โดยเร็วที่สุด

คอมเพรสเซอร์แอร์มีปัญหา

หัวใจของระบบปรับอากาศ คือ คอมเพรสเซอร์ (Compressor) หรือเครื่องอัดไอ ซึ่งมีหน้าที่ทำให้เกิดความเย็นภายในรถ หากคอมเพรสเซอร์แอร์มีปัญหา อาจทำให้แอร์รถไม่เย็นได้ โดยอาการที่บ่งบอกว่าคอมแอร์ใกล้เสีย เช่น เสียงดังจากคอมแอร์, คอมแอร์ไม่หมุน, คอมแอร์ไม่ตัด หรือตัดบ่อยเกินไป เป็นต้น ควรให้ช่างผู้เชี่ยวชาญตรวจเช็กและแก้ไขให้ 

แอร์รถไม่เย็น มีแต่ลม

มอเตอร์พัดลมแอร์เสีย

เมื่อใช้งานไปนาน ๆ แน่นอนว่าอุปกรณ์บางชิ้นในรถยนต์อาจเกิดการชำรุดหรือเสื่อมสภาพได้ มอเตอร์พัดลมแอร์ที่มีอายุการใช้งานของมันก็เช่นเดียวกัน หากมอเตอร์พัดลมแอร์รถเสื่อมสภาพ จะเกิดเสียงดังและมีอาการสั่นเมื่อพัดลมหมุนทำงาน เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่แอร์รถไม่เย็น ควรเปลี่ยนใหม่ให้เร็วที่สุด

หากถามว่า แอร์รถไม่เย็น และมีแต่ลมออกมา แก้ไขอย่างไร ? วิธีแก้ไขที่ง่ายที่สุดคือการนำเข้าอู่หรือศูนย์บริการให้ช่างผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบอย่างละเอียดและแก้ไข-ซ่อมแซม หรือเปลี่ยนใหม่ให้ แต่ถ้าสามารถตรวจเช็กและแก้ไขด้วยตัวเองได้ ก็ทำเองได้เลย เพื่อลดค่าใช้จ่าย

อ่านเพิ่มเติม >>