เป็นที่พูดถึงไปทั่วโลก กับเหตุการณ์ รถ Tesla เกิดอุบัติเหตุจนมีผู้เสียชีวิต จากการตรวจสอบพบว่าไม่มีคนขับรถในตอนเกิดการชน คาดอาจเกี่ยวกับระบบ Full Self-Driving
หากจะพูดการเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ อาจจะไม่ใช่เรื่องที่ดูแปลกใหม่หรือชวนหยิบยกให้เป็นที่พูดถึง เพราะเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอยู่ในทุกวัน แต่สิ่งที่ทำให้ข่าวนี้เป็นที่พูดถึงไปทั่วโลกและได้รับความสนใจ นั่นเป็นเพราะอุบัติเหตุครั้งนี้ที่ร้ายแรงจนถึงขั้นมีผู้เสียชีวิต มีการตรวจสอบพบว่า ไม่มีคนนั่งที่ตำแหน่งคนขับ
เวลา 23.25 น. ตามเวลาท้องถิ่นของรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา วันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา มีรายงานอุบัติเหตุร้ายแรง จากรถเก๋งไฟฟ้ายี่ห้อ Tesla Model S รุ่นปี 2019 ที่ขับมาด้วยความเร็วสูง และเกิดเสียหลักขึ้นมาในจังหวะที่เข้าโค้ง จนรถหลุดจากถนนไปเป็นระยะทาง 100 ฟุต และไปชนต้นไม้ ก่อนเกิดไฟไหม้อย่างรุนแรง
สภาพรถ Tesla คันที่เกิดอุบัติเหตุ
โดยทันทีที่เกิดการเสียหลักพุ่งชน ผู้ที่เห็นเหตุการณ์ได้แจ้งหน่วยกู้ภัยให้มาควบคุมสถานการณ์ และช่วยเหลือคนในรถ แต่ไม่ทันการณ์ พบร่างผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 2 คน เป็นชายอายุ 59 และ 69 ปี ติดอยู่ในซากรถที่ถูกเผาไหม้ไปทั้งคัน ซึ่งในเหตุการณ์พบว่าแบตเตอรี่ของรถที่ติดตั้งไว้ด้านหน้า เกิดการลุกไหม้อย่างต่อเนื่อง และใช้เวลาร่วม 4 ชั่วโมงกว่าจะหาทางดับลงได
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่า ผู้เสียชีวิตทั้งสองราย ไม่มีใครนั่งประจำการตำแหน่งคนขับเลย คนหนึ่งอยู่ที่ที่นั่งผู้โดยสารด้านหน้า อีกคนอยู่ที่เบาะหลัง ทำให้สรุปได้ว่า รถคันนี้เข้าสู่โหมด Autopilot แบบ Full Self-Driving (FSD) ซึ่งเป็นเฟิร์มแวร์ที่เพิ่งอัปเดตมาเมื่อไม่นานนี้
โดย FSD นั้น เคยปล่อยรุ่นทดสอบมาแล้ว ก่อนที่ทางผู้พัฒนาจะตัดสินใจปล่อยให้ผู้ใช้งานได้ซื้อและดาวน์โหลดเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งระบบนี้จะช่วยให้รถสามารถควบคุมการขับขี่ได้ด้วยตัวเองแบบ100% ทั้งการเลี้ยว การเปลี่ยนเลน เปิดไฟเลี้ยว หรือส่งสัญญาณใด ๆ ที่เรียกได้ว่าเป็นนวัตกรรมรถไร้คนขับอย่างสมบูรณ์
Tesla Model S ปี 2019
และสำหรับเหตุการณ์อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนี้ หนึ่งในภรรยาของผู้เสียชีวิตได้ให้ข้อมูล ว่าสามีได้พูดถึงฟีเจอร์ดังกล่าว และบอกกับตนว่าจะออกไปขับรถ จึงคาดการณ์ได้ว่าเจ้าของรถต้องการนำรถไปทดสอบระบบการขับขี่ที่เพิ่งอัปเกรดมาใหม่ นั่นทำให้ทางสังคมเกิดความคลางแคลงใจว่า สาเหตุการเกิดอุบัติเหตุของรถ Tesla มาจากระบบดังกล่าวหรือไม่
หากจะย้อนดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้พบว่าจนถึงปัจจุบัน มีกรณีที่เกี่ยวข้องกับการชนและอุบัติเหตุจากรถเทสลามากถึง 27 กรณี โดยมี 3 กรณีที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่นานมานี้ และมีหลายกรณีที่เกิดขึ้นจากความผิดพลาดของระบบของรถ และสร้างความไม่ไว้ใจวางในฟังก์ชัน Autopilot ของ Tesla เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรก หากเป็นความผิดพลาดของระบบจริง เพราะเคยมีผู้เสียชีวิตในการขับขี่ของระบบนี้มาแล้วเมื่อปีก่อนล่าสุดทางประธานบริษัท อีลอน มัสก์ ได้ออกมาเผยข้อมูลว่า ทางเทสลา ได้ทำการตรวจสอบข้อมูลแล้ว และพบว่าระบบ Autopilot ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุครั้งนี้
ข้อความจาก Twitter ของอีลอน มักส์
นอกจากนี้ อีลอน มัสก์ได้โพสต์ข้อความผ่านบัญชีทวิตเตอร์ว่า อรถยนต์ของเทสลาที่เปิดใช้ระบบ Autopilot มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุน้อยกว่ารถยนต์ธรรมดาเกือบ 10 เท่า โดยอ้างอิงจากรายงานอุบัติเหตุช่วงไตรมาสแรกของปี 2021
แต่ถึงอย่างนั้น การสร้างความเชื่อมั่นด้วยคำพูดอาจยังไม่ใช่คำยืนยันที่มั่นคงนัก และทางตัวผู้ใช้งานเองก็ต้องเพิ่มความรอบคอบในการใช้งานระบบนี้ด้วย และในทุกวันนี้เอง รถยนต์ของเทสล่า ก็ยังมีการกำกับข้อความเอาไว้ว่า ถึงแม้จะใช้งานระบบ Autopilot แต่เพื่อความปลอดภัย ก็ควรนั่งในตำแหน่งของคนขับอยู่ เพียงแต่ไม่ต้องจับพวงมาลัยเท่านั้นเอง
ดูเพิ่มเติม
>> ยังไม่ได้เงิน แต่กล้าส่งมอบรถ เจาะข่าวร้อน ตุ๋นซื้อ MG 16 คัน
>> MG Cyberster ไฮเปอร์คาร์ไฟฟ้า ดีไซน์สไตล์ล้ำ ๆ แรงบันดาลใจจากเกม
เข้าดู ราคารถยนต์มือสอง ได้ที่นี่