จะโอนรถต้องรู้ พลาดไม่ได้กับเรื่องราวทุกเรื่อง ทั้งเอกสาร วิธีการดำเนินการ ค่าใช้จ่าย รวมไปถึงสถานที่สำหรับโอนรถ รวบรวมข้อมูลทุกเรื่องเอาไว้ให้หมดแล้วที่นี่
การโอนรถยนต์ คือ การโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์จากเจ้าของรถคนเก่าไปยังเจ้าของคนใหม่ โดยปกติแล้ว ผู้ที่ต้องดำเนินการโอนรถยนต์มักจะเป็นผู้ขายและผู้ซื้อรถยนต์มือสอง รวมถึงการโอนรถแบบยกให้ลูกเป็นมรดก หรือโอนรถให้ญาติ กรณีเจ้าของเดิมเสียชีวิต ซึ่งการโอนรถยนต์นั้น สามารถไปโอนด้วยตัวเองได้ที่กรมการขนส่งทางบก/สำนักงานขนส่งทางบก หรือมอบอำนาจให้ผู้อื่นไปโอนแทนก็ได้ นอกจากนี้ กรณีซื้อขายรถยนต์มือสอง หากไม่ทำการโอนตรง หรือก็คือให้ผู้ซื้อและผู้ขายไปยื่นเรื่องต่อหน้านายทะเบียนด้วยตัวเอง ก็สามารถใช้วิธีโอนลอยหรือการให้ผู้ขายรถยนต์ไปดำเนินการ แล้วส่งเอกสารที่เซ็นชื่อกำกับให้ผู้ซื้อแทนได้ ซึ่งจะทำให้ประหยัดเวลามากขึ้น
โอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ คืออะไร โอนรถให้ลูก โอนรถให้ญาติได้ไหม?
ค่าธรรมเนียมในการการโอนรถ เปลี่ยนเจ้าของ ราคาเท่าไหร่ ?
ค่าโอนรถเปลี่ยนชื่อเท่าไหร่? รวมค่าใช้จ่ายที่เต้องเตรียมเวลาไปทำเรื่องค่าโอนรถยนต์จะตกอยู่ที่ 1,905 บาท หรือจะเตรียมเงินไว้มากกว่านี้เผื่อไว้ในกรณีก็ได้เช่นเดียวกัน เมื่อเราเตรียมค่าใช่จ่ายเรียบร้อยแล้ว สิ่งที่สำคัญอย่างมาก และขาดไม่ได้เลยก็คือเอกสาร สิ่งที่เพื่อน ๆ ต้องเตรียมจะมีดังนี้
เตรียมหนังสือการจดทะเบียนรถยนต์ให้พร้อมเพื่อทำเรื่องโอนรถยนต์
เอกสารแบบคำขอโอน และรับโอน
1. นำรถเข้ารับการตรวจสอบ ที่งานตรวจสภาพรถยนต์ (ยกเว้นกรณีโอนปิดบัญชีจากผู้ให้เช่าซื้อไปยังผู้เช่าซื้อ ซึ่งเป็นผู้ครอบครองรถตามรายการจดทะเบียน ไม่ต้องตรวจสอบรถ)
2. ยื่นเรื่องโอนกรรมสิทธิ์และชำระค่าธรรมเนียม ที่งานทะเบียนรถ
3. รับใบคู่มือจดทะเบียนรถคืน
4. รับใบเสร็จรับเงิน ใบคู่มือจดทะเบียนรถ เครื่องหมายการเสียภาษี และแผ่นป้าย ทะเบียนรถ
ในกรุงเทพฯ มีสำนักงานกรมขนส่งทั้งสิ้น 5 สาขา หรือ 5 พื้นที่ดังนี้
ทั้งนี้ สิ่งสำคัญในการโอนกรรมสิทธิ์เจ้าของรถยนต์ ต้องระวังนั้นก็คือ การโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์จะต้องแจ้งต่อนายทะเบียนภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันโอน ซึ่งถ้าหากไม่ดำเนินการภายในระยะเวลาที่กำหนด ต้องระวางโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 2,000 บาท
สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1
การโอนรถยนต์ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ในกรุงเทพ บางครั้งผู้ขายกับผู้ซื้ออาจจะอยู่กันคนละจังหวัดกัน ดังนั้น เราสามารถโอนรถยนต์ข้ามจังหวัดได้ เพียงทำเรื่องส่งไปยังสำนักขนส่งแล้วแจ้งเจ้าหน้าที่ว่า “ขอใช้ทะเบียนรถเดิม” แล้วเจ้าหน้าที่ก็จะให้กรอกใบคำขอเพื่อเป็นหลักฐานว่าเจ้าของรถขออนุญาตให้รถในพื้นที่นั้นๆ โอนรถยนต์ข้ามจังหวัด ต้องใช้เอกสาร ดังนี้
ซึ่งการโอนรถแล้วไม่ตรวจสภาพ ไม่สามารถทำได้ เพราะต้องกรอกแบบฟอร์มการโอนรถก่อนยื่นเรื่องโอนรถยนต์กับนายทะเบียน และนำรถไปตรวจสภาพในภายหลัง ซึ่งต้องแจ้งเรื่องกับนายทะเบียนภายใน 15 วันนับตั้งแต่วันเริ่มเซ็นเอกสารโอนรถ หากเกินระยะเวลาที่กำหนดมีโทษปรับ 2,000 บาท
หลักฐานประกอบการโอนรถกรณีเจ้าของเสียชีวิต
สามารถไปโอนรถได้ที่ไหน
ขั้นตอนการโอนรถกรณีเจ้าของเสียชีวิต
1. นำรถเข้ารับการตรวจสอบ ที่ฝ่ายตรวจสภาพรถ (ยกเว้นกรณีโอนปิดบัญชีจากผู้ให้เช่าซื้อไปยังผู้เช่าซื้อ ซึ่งเป็นผู้ครอบครองรถตามรายการจดทะเบียน ไม่ต้องตรวจสอบรถ)
2. ยื่นตรวจสอบคำขอพร้อมหลักฐาน และผลการตรวจสอบรถ (ถ้ามี)
3. ชำระเงินค่าธรรมเนียม
4. รอรับเอกสารคืน
การโอนรถยนต์หากเตรียมเอกสารไปให้พร้อม แล้ว ณ ที่สำนักขนส่งไม่มีคนต่อคิวโอนรถยนต์เลย การดำเนินการจะใช้เวลาไม่นานเลยครับ เพียงแค่ 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น หรือนานที่สุดคือ 15 วันทำการ จะเห็นได้ว่า ทุกขั้นตอนง่ายมากหากผู้โอนและผู้รับโอนเตรียมเอกสารให้พร้อม เมื่อการโอนกรรมสิทธิ์เรียบร้อย ลำดับต่อไปก็สามารถขอกู้สินเชื่อทะเบียนรถยนต์กับสถาบันการเงิน หรือบริษัทสินเชื่อได้เลย!
และนี่ก็เป็นข้อมูลเกี่ยวกับการโอนรถ ค่าโอนรถ ที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ จะเห็นได้เลยว่าขั้นตอนในการทำนั้นไม่ยากอย่างที่คิดไว้เลยสักนิด เพราะเพียงแค่เรามีเอกสารหลักฐานครบ เราก็สามารถไปติดต่อโอนกรรมสิทธิรถยนต์ได้ที่สำนักงานขนส่งที่เราเดินทางสะดวก หรือที่ใกล้บ้านเราได้เลย
ดูเพิ่มเติม >>
เข้าดู ราคารถมือสอง ได้ที่นี่
FAQS
โอนรถยนต์เสียเท่าไหร่?
ค่าโอนรถยนต์ (ป้ายแดง) ค่าอากรแสตมป์ 10 บาท ค่าธรรมเนียมการโอน 105 บาท รวม 115 บาท
ค่าโอนรถยนต์ประกอบด้วยอะไรบ้าง
1.ค่าธรรมเนียมโอนรถยนต์ 105 บาท
2.ค่าอากรแสตมป์ 10 บาท
3.ค่าประเมินรถ 500 บาท ต่อการประเมินรถทุกๆ 100,000 บาท
4.ค่าเปลี่ยนป้ายทะเบียน 200 บาท (กรณีชำรุด) , ค่าเปลี่ยนเล่มทะเบียน 100 บาท (กรณีสูญหาย,ชำรุด)
การโอนรถ เปลี่ยนเจ้าของราคาเท่าไหร่?
โอนแบบเปลี่ยนชื่อบุคคล (กรณีไม่ใช่รถป้ายแดง) ค่าอากรแสตมป์ 10 บาท ค่าธรรมเนียมการโอน 105 บาท ค่าประเมินรถ 500 บาท รวม 515 บาท (ขนส่งเป็นผู้ประเมิน) ในกรณีมีการเปลี่ยนแปลงสภาพรถ เช่น ยกสูง โหลดเตี้ย ก็จะต้องเสียค่าวิศวกรประเมินรถเพิ่มอีก 5,000-8,000 บาท