ศึกตัว TOP ระหว่าง Toyota Fortuner VS Ford Everest

ประสบการณ์ใช้รถ | 13 มิ.ย 2562
แชร์ 0

ต้องยอมรับจริง ๆ ครับว่ารถอเนกประสงค์ในยุคสมัยนี้ได้รับความนิยมอย่างมาก นอกจากจะมีพละกำลังที่มากขับสบาย นอกจากนี้ด้วยรูปทรงที่มีขนาดสูงสามารถลุยได้ในถนนหลากหลายรูกแบบ พร้อมทั้งยังใส่ออฟชั่นเสริมความสะดวกสบาย พร้อมความปลอดภัยอย่างจัดเต็มไม่แพ้รถเก๋งอีกด้วย

ศึกตัว TOP ระหว่าง Toyota Fortuner VS Ford Everest

ศึกตัว TOP ระหว่าง Toyota Fortuner VS Ford Everest

ถ้าหากจะพูดถึงรถยนต์อเนกประสงค์ที่มีได้รับความนิยมในตลาดประเทศไทยที่สุดนั่นก็คือ Toyota Fortuner ด้วยยอดขายที่เป็นอันดับหนึ่งของรถกลุ่มนี้ แต่นอกจากนี้ยังมีคู่แข่งคนสำคัญที่เกิดขึ้นใหม่ อย่าง Ford Everest ถึงยอดขายจะดูเป็นรองแต่เรื่องของเทคโนโลยีและระบบต่าง ๆ ของรถนั้น ไม่เป็นรองเลย แถมยังได้ชื่อว่าเป็นรถที่มีความปลอดภัยมากที่สุดในกลุ่ม Segment Suv อีกด้วย ดังนั้นสิ่งที่เราจะมาคุยกันในวันนี้ก็เรื่องศึกของความสุดยอดของรถที่เป็นคู่แข่งกันอย่าง Toyota Fortuner และ Ford Everest นั่นเอง ลองมาดูกันดีกว่า ว่าใครจะน่าใช้มากกว่ากัน

Toyota Fortuner รถยนต์ที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับ 1 ในประเทศไทย

Toyota Fortuner รถยนต์ที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับ 1 ในตลาดรถเมืองไทย

ไฟหน้าหรูหราฟลูออฟชั่นแบบ Bi-Beam LED

ไฟหน้าหรูหราฟลูออฟชั่นแบบ Bi-Beam LED

Ford Everest รถอเนกประสงค์ที่ขึ้นชื่อว่ามีระบบความปลอดภัยที่ครบเครื่องที่สุดใน Segment

Ford Everest รถอเนกประสงค์ที่ขึ้นชื่อว่ามีระบบความปลอดภัยที่ครบเครื่องที่สุดใน Segment

Ford Everest มีขนาดที่ใหญ่โตกว้างขวางเป็นจุดเด่น

รถยนต์ Ford Everest มีขนาดที่ใหญ่โตกว้างขวางเป็นจุดเด่น

*สนใจซื้อรถมือสอง Ford Everest ราคาสวยๆ เชิญดูที่นี่

เปรียบเทียบการออกแบบ ดีไซน์ภายนอก

สำหรับภายนอกของทั้งสองค่ายนี้ก็ถือว่าสู่สีกันอยู่ด้วยอุปกรณ์พื้นฐานอย่างไฟคู่หน้าของ Toyota Fortuner นั้นเป็น Bi-Beam LED แต่ส่วนทาง Ford Everest นั้นเป็นแบบ HID ซึ่งทั้งสองแบบนี้ในกรณีการใช้งานจริงทาง Ford อาจจะมีความสว่างกว่าเล็กน้อย แต่ของ Fortuner นั้นจะมี LED ซึ่งดูสวยงามเช่นกัน เรียกได้ว่ากินกันไม่ลง ไฟท้ายของทั้งคู่เป็นแบบสมัยใหม่คือ LED ที่เฉียบคมเห็นชัดเจนไม่ว่าจะเป็นเวลากลางวันสำหรับรูปทรงของรถถ้าหากคุณชอบรถที่มีความอวบอั๋นบึกบึน Ford Everest นั้นตอบโจทย์อย่างแน่นอน ส่วนทางด้าน Toyota Fortuner นั้นจะออกไปในทางสปอร์ตแล้วมีความสุขมากด้วยเส้นสายมิติของตัวรถที่มีขนาดใหญ่แต่ดูเพียว

ดูเพิ่มเติม
>> ราคา Ford Everest (ฟอร์ด เอเวอเรสต์) 2018 เดือนกรกฎาคม 2561

>> 10 อันดับถนนน้ำท่วมบ่อยในกรุงเทพ

ภายในห้องโดยสารของ Toyota Fortuner มีความหรูหราและความสปอร์ตอย่างลงตัว

ภายในห้องโดยสารของ Toyota Fortuner มีความหรูหราและความสปอร์ตอย่างลงตัว

หน้าจอวิทยุแบบสัมผัส พร้อมระบบน้ำทาง Navigator

หน้าจอวิทยุแบบสัมผัส พร้อมระบบนำทาง Navigator

ภายให้ห้องโดยสารของ Ford Everest มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ครบครัน

ภายให้ห้องโดยสารของ Ford Everest มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ครบครัน 

Panoramic Moonroof ทำให้ Ford Everest ที่มีขนาดใหญ่ดูโปร่งขึ้นไปอีก

Panoramic Moonroof ทำให้ Ford Everest ที่มีขนาดใหญ่ดูโปร่งขึ้นไปอีก

เปรียบเทียบการออกแบบ ดีไซน์ภายใน

ถ้าหากจะพูดกันตรง ๆ ในส่วนของภายในถ้าความสวยงามนั้นอาจจะเป็นแล้วแต่ความชอบเลยก็ได้ เพราะทาง Toyota Fortuner นั้นจะดูแล้วมีความหรูหราเสียมากกว่าด้วยการดีไซน์คอนโซนหน้าให้ดูมีสัดส่วนที่ไม่ใหญ่มากพร้อมเล่นลายไม้พาดตัดในส่วนต่าง ๆ นอกจากนี้ระบบอำนวยความสะดวกพื้นฐานนั้นมีมาให้อย่างครบ แต่ถ้าจะพูดถึง Ford Everest นั้นภายในห้องโดยสารนั้นจะดูมีความใหญ่ โปร่งมากกว่า และนอกจากนี้สิ่งที่ถูกใจก็คือ มาตรวัดความเร็วที่มีหน้าจอแสดงผลการทำงานของตัวรถมาให้ถึง 2 จอ ดูแล้วมีความล้ำสมัยมาก ๆ แต่ในส่วนของพวกคอนโซนนั้นอาจจะดูเรียบๆ แอบมีความดุดันอยู่ไม่น้อย และที่สำคัญคือ Panoramic Moonroof ที่มีขนาดใหญ่อันนี้น่าจะถูกใจใครหลายคนอยู่ไม่น้อยทีเดียว

เครื่องยนต์รหัส 1GD-FTV ดีเซล 2.8 ลิตร 177 แรงม้า

เครื่องยนต์รหัส 1GD-FTV ดีเซล 2.8 ลิตร 177 แรงม้า

เปรียบเทียบเครื่องยนต์

Toyota Fortuner เครื่องยนต์ดีเซล 2.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 177 แรงม้า ที่ 3400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน – เมตร ที่ 1,600 – 2,400 รอบ/นาที ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์อัตโนมัติ CVT 6 สปีด ขับเคลื่อน 4 ล้อ สามารถปรับโหมดขับเคลื่อนได้ H2,H4,L4

เครื่องยนต์ EcoBlue TDCi 4  Bi-Turbo 2.0 ลิตร 213 แรงม้า

เครื่องยนต์ EcoBlue TDCi 4  Bi-Turbo 2.0 ลิตร 213 แรงม้า

*สนใจซื้อรถมือสอง Toyota Fortuner ราคาสวยๆ เชิญดูที่นี่

รถยนต์ Ford Everest เครื่องยนต์ดีเซล EcoBlue TDCi 4 สูบแถวเรียง ขนาด 2.0 ลิตร 1,996 ซีซี. พ่วงเทอร์โบคู่ (ทำงานร่วมกันระหว่าง High-Pressure (HP Turbo) เทอร์โบแรงดันสูง และ Low-Pressure (LP Turbo) เทอร์โบแรงดันต่ำ ควบคุมด้วยวาล์ว Bypass) กำลังสูงสุด 213 แรงม้า (PS) ที่ 3,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,750 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ พร้อมปุ่มเปลี่ยนเกียร์ Manual Mode + – ที่หัวเกียร์ ขับเคลื่อน 4 ล้อ Full-time 4WD พร้อมระบบ Terrain Management System

จะเห็นได้ว่าทางด้านเครื่องยนต์และระบบเกียร์ของ Ford Everest นั้นให้พละกำลังมามากกว่า และนอกจากนี้ระบบส่งกำลังนั้นยังเป็นเกียร์ Cvt 10 สปีด ที่มีความละเอียดมากว่าอีกด้วย ถ้าดู ๆ แล้วเรื่องขุมพลังนั้น Ford Everest นั้นกินขาด แต่นอกจากนี้อาจจะมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงในการใช้งานจริง อาจจะกินน้ำมันมากกว่าด้วยเครื่องยนต์แรงม้าสูง พร้อมระบบขับเคลื่อนแบบ 4WD แบบ  Full Time นั่นเอง

โครงสร้าง GOA เพื่อเพิ่มการดูดซับแรงกระแทรกทำให้ผู้ที่อยู่ในห้องโดยสารปลอดภัย

โครงสร้าง GOA เพิ่มการดูดซับแรงกระแทรกทำให้ผู้ที่อยู่ในห้องโดยสารปลอดภัย

เทคโนโลยีและความปลอดภัย

Toyota Fortuner

  • (Downhill Assist Control) ระบบการควบคุมแรงดันเบรกอัตโนมัติขณะขับลงทางชัน 
  • A-TRC (Active Traction Control) ระบบจะลดแรงขับที่ส่งไปยังล้อนั้น เพื่้อป้องกันล้อหมุนฟรี
  • HAC (Hill-Start Assist Control) ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน
  • TSC (Trailer Sway Control) ระบบควบคุมการส่ายของส่วนพ่วงท้าย
  • ระบบป้องกันล้อหมุดฟรี TRC (Traction Control) 
  • ระบบควบคุมการทรงตัว VSC (Vehicle Stability Control)
  • ระบบเบรก ABS (Anti-lock Braking System)
  • ระบบเสริมแรงเบรก BA (Barke Assist)
  • ระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Barke-force Distribution) 
  • โครงสร้างนิรภัย GOA ช่วยดูดซับแรงกระแทกเทคโนโลยีเสริมความแข็งแกร่งให้กับบริเวณห้องโดยสาร
  • ระบบถุงลมเสริมความปลอดภัย 7 จุด

>> รับข้อมูลรายละเอียดดูได้ในหมวดราคา: ฟอร์จูน เนอ ร์ มือ สอง ราคา

i4WD Terrain Management System ทำให้ Ford Everest นั้นสามารถลุยไปในทุกเส้นทางอย่างมั่นใจ

i4WD Terrain Management System ทำให้ Ford Everest นั้นสามารถลุยไปในทุกเส้นทางอย่างมั่นใจ

รถยนต์ Ford Everest

  • i4WD Terrain Management System ให้คุณขับขี่อย่างปลอดภัยบนทุกพื้นผิวถนน เพิ่มแรงดึงและเสริมการทรงตัวในขณะขับขี่
  • Water Wading and Ground Clearance ฟอร์ด เอเวอร์เรสต์ สามารถพาคุณลุยน้ำได้ลึกถึง 800 มิลลิเมตร
  • Hill Descent Control  ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางชัน
  • Electronic locking rear differential จะช่วยส่งอัตราเร่งจากเครื่องยนต์ไปสู่ล้อคู่หลังอย่างเต็มประสิทธิภาพ
  • BLIS and Cross-traffic alert ระบบตรวจจับรถในจุดบอดและตรวจจับรถขณะออกจากซองจอด
  • Active Park Assist ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ
  • Electronic Stability Control ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว
  • Panoramic Moonroof แบบปรับไฟฟ้า
  • ถุงลมนิภัย 7 ใบ

สรุป

ถ้าจะพูดถึงรถที่มีความคุ้มค่า ผมนั้นมองว่า Ford Everest นั้นจะเป็นรถที่มีความคุ้มค่ามากกว่า Toyota Fortuner ด้วยเหตุผลที่ว่าการซื้อรถในราคา 1 ล้านกลาง ๆ นั้นก็ควรจะเป็นรถที่มีออฟชั่นให้ใช้งานพร้อมความสะดวกสบาย นอกจากนี้พละกำลังเครื่องยนต์ขนาดนี้ถือว่าเป็นอะไรที่น่าสนใจเลยทีเดียว แต่ในทางกลับกันถ้าหากจะให้คะแนน Toyota Fortuner ก็คงจะเป็นเรื่องการใช้งานที่ทนทานและมีการันตรีที่สามารถไว้เนื้อเชื่อใจสามารถใช้งานได้ในระยะยาว 10 ปีขึ้นโดยมีการบำรุงรักษาที่ถูกต้อง นอกจากนี้ราคาขายต่อนั้นถือว่าดูดีเลยทีเดียวสำหรับรถจากค่าย Toyota รถทั้งสองคันนั้นมีจุดเด่นที่ต่างกันขึ้นอยู่ที่ว่า คันไหนจะตอบโจทย์กับคุณมากที่สุดนั่นเอง

ดูเพิ่มเติม
>> ท่วมสูงแค่ไหนก็ไม่กลัว ตามหารถมือสองลุยน้ำท่วม !!
>> รีวิว All-New Toyota Fortuner โฉมใหม่

ติดตามข่าวสารรถยนต์ คลิกที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้

ซีเค