ประวัติความเป็นมาของค่ายยักษ์ “ISUZU ยกระดับมาตรฐาน นำความเชื่อมั่นสู่สากล”

ประสบการณ์ใช้รถ | 7 ส.ค 2561
แชร์ 10

หากพูดคำว่า อีซูซุ แน่นอนว่าทุกคนก็ต้องคิดถึงรถยนต์คันแกร่งสี่ล้อ ที่รูปลักษณ์และการทำงานที่เป็นเอกลักษณ์ เชื่อว่าทุกๆ บ้านคงจะมีรถยนต์รุ่นนี้เอาไว้ครอบครองอยู่แล้วแน่ๆ เพราะ อีซูซุ ถือว่าเป็นรถยนต์พื้นฐานที่หลายๆ บ้านมักจะมองเอาไว้ วันนี้เราชาว Chobrod เลย นำประวัติของ อีซูซุ มาฝากเพื่อนๆ เอาซะเลย จะได้รู้กันว่าเขามีความเป็นมาอย่างไรบ้าง ไปดูพร้อมๆ กันเลยค่ะ

ประวัติความเป็นมาของค่า ISUZU

ประวัติความเป็นมาของค่า ISUZU

สวัสดีจ้าเพื่อนๆ ชาว Chobrod วันนี้เดี๊ยนมีประวัติจากค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่มาฝากเพื่อนๆ กันด้วยล่ะ นั่นก็คือประวัติของค่ายรถยนต์ ISUZU นั่นเอง หลายๆ คนคงคิดเหมือนเดี๊ยนว่า รถยนต์ค่ายนี้เขามีที่มาอะไรยังไง วันนี้เราจะมาเจาะลึกถึงเรื่องนั้นกันอย่างแรกถ้าพูดถึงเจ้ารถยนต์ยี่ห้อนี้ ทุกคนก็คงจะนึกถึงความแกร่งในขุมพลังของเจ้ารถยนต์ยี่ห้อนี้อย่างแน่นอน แต่วันนี้เดี๊ยนจะเจาะลึกไปยังรากของค่ายรถแบรนด์นี้ให้เพื่อนๆ ได้รู้จักกันมากยิ่งขึ้น แน่นอนว่า คุณจะต้องหลงรัก ... แบบที่เราหลงรักแบรนด์รถยนต์คันนี้ ไปชมพร้อมๆกันเลย

ดูเพิ่มเติม
>> กว่า 100 ปีที่โลดแล่น กับแบรนด์ “อีซูซุ – ISUZU” ผู้ครองบัลลังก์ “ยนตรกรรมแห่งความแกร่งเกินนิยาม”
>> Design รถของค่ายรถยนต์ BMW

โลโก้ ISUZU

โลโก้ของค่ายรถยนต์ ISUZU

บริษัท อีซูซุ มอเตอร์ จำกัด เป็นผู้ผลิตยานพาหนะส่วนบุคคล ยานพาหนะเพื่อการพาณิชย์ และ รถบรรทุกของหนัก มีสำนักงานใหญ่ในโตเกียว, ประเทศญี่ปุ่น ในปี พ.ศ. 2548 อีซูซุ คือ ผู้ผลิตรถบรรทุกขนาดกลางและขนาดใหญ่ที่มากที่สุดในโลก โดยมีฐานการผลิตอยู่ที่เมืองฟูจิซะวะ และยังมีที่ จังหวัดโทะจิงิ และจังหวัดฮกไกโด อีกด้วย

ประวัติของรถยนต์ อีซูซุ

ในประเทศไทย ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ยี่ห้ออีซูซุในประเทศไทยคือ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด และมีบริษัทตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ยี่ห้ออีซูซุตามภูมิภาค ครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ และ มีโรงงานประกอบในประเทศไทย คือ อีซูซุ มอเตอร์ ( ประเทศไทย ) จำกัด โดยที่ตั้งของโรงงานจะอยู่ ที่จังหวัดสมุทรปราการ และ จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยอีซูซุในประเทศไทยเริ่มมีการดำเนินการตั้งแต่เมื่อ พ.ศ. 2500 ส่วนใหญ่แล้วอีซูซุจะประกอบรถกระบะ รถบรรทุก และรองลงมาจะประกอบรถยนต์เอนกประสงค์

ในช่วง พ.ศ. 2534-2540 อีซูซุได้ประกอบรถกระบะให้กับค่ายรถยนต์อื่น คือ ฮอนด้า และ โอเปิล(สมัยนั้นรถของจีเอ็มในประเทศไทย ยังเป็น โอเปิล ไม่ใช่ เชฟโรเลต) เนื่องจากฮอนด้า และ จีเอ็ม(สมัยนั้นยังเป็นโอเปิล) ยังไม่มีรถกระบะเป็นแบรนด์ของตัวเอง แต่อยากจะมีส่วนร่วมในรถกระบะบ้าง จึงให้อีซูซุประกอบให้ โดยฮอนด้าใช้ชื่อว่า ฮอนด้า ทัวร์มาสเตอร์ ส่วนโอเปิล(จีเอ็ม)ใช้ชื่อว่าโอเปิล แคมโป้ แต่ยอดขายย่ำแย่มาก

ในช่วง พ.ศ. 2539-2546 อีซูซุก็ยังไม่มีรถเก๋งเป็นแบรนด์ของตัวเอง จึงให้ฮอนด้าประกอบให้ โดยให้ชื่อว่า อีซูซุ เวอร์เท็กซ์ ถึงแม้ว่ารุ่นนี้จะเป็นรุ่นแรกที่เป็นรถซีดาน หรือรถเก๋งรุ่นแรกของอีซูซุประเทศไทย และใช้พรีเซนเตอร์ชื่อดังอย่าง ริชาร์ด เกียร์ แต่กลับทำยอดขายได้ย่ำแย่แต่ก็ขายได้ดีกว่ากระบะของฮอนด้าและโอเปิล โดยเลิกผลิตในปี พ.ศ. 2545 ในปี พ.ศ. 2545 ทางอีซูซุจึงได้เปิดตัวรถกระบะที่สมบูรณ์แบบที่สุดของอีซูซุเท่าที่เคยมีมา คือ อีซูซุ ดีแมคซ์ ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทย และอีก 2 ปีถัดมา ได้มีการเปิดตัว อีซูซุ มิว-เซเว่นซึ่งเป็นรถเอนกประสงค์ที่ดัดแปลงจากรถกระบะ

ISUZU D-MAX

ISUZU D-MAX

เบื้องหลังของอีซูซุดีเซล

ในปี พ.ศ. 2476 บริษัท อิชิกาว่า ออโต้โมทิฟ เวิร์คส์ จำกัด ได้ร่วมทุนกับ บริษัท ดีเอที ออโต้โมทิฟ แมนูแฟ็คเจอริ่ง เพื่อก่อตั้งบริษัทใหม่ภายใต้ชื่อ บริษัท ออโต้โมบิล อินดัสตรีส์ จำกัด และได้ทุ่มเทในการพัฒนาเครื่องยนต์ดีเซล ซึ่งในสมัยนั้นยังไม่ได้มีการพัฒนาเชิงพาณิชย์แม้ในประเทศก้าวหน้าอย่างประเทศแถบยุโรปหรือแถบอเมริกาเหนือก็ตาม ต่อมาภายในปี พ.ศ. 2479 บริษัทได้ประสบความสำเร็จในการพัฒนาเครื่องยนต์ดีเซลระบบหล่อเย็นด้วยอากาศสองรุ่นชื่อ DA6 และ DA4 ซึ่งเป็นต้นแบบของรถยนต์รุ่นอื่นๆ ที่ตามมาในปัจจุบัน

รถยนต์ยี่ห้อ ISUZU

รถยนต์ยี่ห้อ ISUZU

>> ดูเพิ่มเติม isuzu มือสอง ที่นี่

มาตรฐานการเป็นรถกระบะอันดับหนึ่งในประเทศไทย   

นับว่าเป็นว่านานถึง 19 ปีที่รถยนต์ อีซูซุ นั้นได้ครองใจชาวไทยโดยการเป็นเจ้าแห่งตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน สาเหตุหลักๆ ที่สำคัญนั้นก็คือ ทางแบรนด์ อีซูซุได้ตีโจทย์และเข้าใจตลาดรถกระบะในเมืองไทยได้ดี และเขาก็ผลิตรถยนต์ออกมาได้ตรงตามความต้องการของคนไทยมากที่สุด ดังนั้นจึงทำให้ รถกระบะ อีซูซุ ได้ยึดครองความเป็นเจ้าแห่งรถกระบะในประเทศไทยนั่นเอง ซึ่งหลักๆ นอกจากจะเป็นพวกเครื่องยนต์ที่แข็งแกร่งแล้ว อีซูซุยังคำนึงถึงความประหยัดในการใช้งานและค่าซ่อมบำรุงอีกด้วย ขณะที่ยี่ห้ออื่นๆ เน้นไปที่เครื่องขุมพลังมากกว่าการประหยัดน้ำมันโดยส่วนใหญ่ ถึงแม้ว่ายี่ห้อแรกๆ ที่ทางแบรนด์ออกมานั้นราคาน้ำมันในสมัยก่อนก็ไม่ได้แพงมากเหมือนสมัยนี้ แต่ปัจจุบันทางอีซูซุก็ยังคงเน้นไปที่การประหยัดน้ำมันมากกว่ายี่ห้ออื่นๆ เช่นเดิม

อีซูซุ มักเป็นผู้ริเริ่มในด้านตลาดรถยนต์กลุ่มนี้

1.เป็นกระบะเจ้าแรกที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล หัวฉีด ไดเร็คอินเจ็คชั่น

2.เป็นกระบะเจ้าแรกที่ทำแค็บ (ประมาณช่วงปี พ.ศ. 2528)

3.เป็นกระบะเจ้าแรกที่เอาเกียร์อัตโนมัติมาใช้ เพื่อความสะดวกสบายสำหรับผู้ขับขี่

4.เป็นกระบะเจ้าแรกที่เอาเทอร์โบมาใช้

5.เป็นกระบะเจ้าแรกที่ทำกระบะขับเคลื่อน 2 ล้อ ยกสูงจากโรงงาน (isuzu d-max hi-lander)

6.ศูนย์บริการที่มีมากกว่าเจ้าอื่นๆ

7.ราคาอะไหล่ไม่แพง และใช้ได้ทนทาน นาน

และนี่ก็เป็นประวัติความเป็นมาของเจ้ากระบะอันดับหนึ่งในประเทศไทยอย่าง อีซูซุ นั่นเองนะคะ ที่แน่ๆ คือความประหยัดน้ำมันและความแกร่งของรถยนต์ยี่ห้อนี้ได้ใจคนไทยไปเต็มๆ เลยล่ะ แต่ละรุ่นที่ออกมานั้นก็เน้นความประหยัดน้ำมันและเครื่องยนต์ไม่แพ้กัน วันนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องราวดีๆ ที่เดี๊ยนนำมาฝากเพื่อนๆ ชาว Chobrod กันนะคะ ติดตามข่าวสารต่างๆ ได้ที่ Chobrod.com อีกเช่นเคยจ้ะ สำหรับวันนี้เดี๊ยนฃาไปก่อน สวัสดี

ดูเพิ่มเติม
>>
 Isuzu ออกแคมเปญ แค่ทดลองขับก็มีสิทธิ์รับสิทธิ์ซื้อ MU-X ราคา 50%
>> 10 ข่าวเด่นประจำสัปดาห์วันที่ 28 ก.ค. - 4 ส.ค. 2018