ทำความรู้จัก McLaren 720S Ceramic Grey ซูเปอร์คาร์สีพิเศษราคาร่วม 30 ล้าน!

ประสบการณ์ใช้รถ | 30 ส.ค 2561
แชร์ 1

หลายคนคงจะได้เห็นข่าวที่ ชาวเน็ตแห่กันแชร์ในโลกโซเชียล เกี่ยวกับกรณีที่รถ McLaren 720S ของทายาทบีทาเก้น โดนรถกระบะชนท้าย ซึ่งเป็นซุปเปอร์คาร์สุดหรูมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท อื้อหือ.. ราคาขนาดนี้ถึงกันต้องอ้าปากค้าง


2018 McLaren 720S

พอเห็นราคาสูงขนาดนี้แล้วทุกคนคงอยากรู้ใช่ไหมคะว่าไอ้เจ้ารถราคาแพงๆเนี้ย มันพิเศษตรงไหนทำไมมันถึงได้แพงขนาดนี้  Chobrod ก็เลยจะพาทุกคนไปเราทำความรู้จัก McLaren 720S สีพิเศษ Ceramic Grey กันค่ะ ว่าทำไมราคาค่าตัวถึงได้สูง แล้วสีพิเศษที่ว่า มันพิเศษยังไง ต้องเพิ่มเงินอีกเท่าไหร่ ไปหาคำตอบกัน

ภาพจาก Instagram ทายาทบีทาเก้นที่ตกเป็นข่าว

ภาพจาก Instagram ทายาทบีทาเก้นที่ตกเป็นข่าว

Mclaren 720s Ceramic Grey คือ รถรุ่นพิเศษที่เป็นข่าวถูกกระบะชนท้ายในไทย รู้ไหมคะว่าเป็นรถที่มีคันเดียวในไทย ณ ตอนนี้!! (ไม่รวยทำไม่ได้นะคะเนี่ย แถมเจ้าของรถยังใจดีปานนั้น)   เพราะใช้เฉดสีพิเศษไม่เหมือนใคร พร้อมวัสดุเบาสุดเทพ  McLaren 720S จัดอยู่ใน Super Series ที่มาแทน 650Sโดยมีการเปลี่ยนดีไซน์ใหม่ที่แปลกใหม่ มีความสวยงามและความสะดวกสบายมากขึ้น พร้อมเครื่องยนต์ใหม่ และเทคโนโลยีล่าสุดจากทาง McLaren

ทำความรู้จัก McLaren 720S Ceramic Grey ซูเปอร์คาร์สีพิเศษราคาร่วม 30 ล้าน!

ทำความรู้จัก McLaren 720S Ceramic Grey ซูเปอร์คาร์สีพิเศษราคาร่วม 30 ล้าน! 

ตัวถังและ Body ของรถ

McLaren มีชื่อเสียงเรื่องการใช้ Carbon Fiber ในการผลิตรถ โดย McLaren เป็นผู้บุกเบิกที่นำ Carbon Fiber มาผลิตตัวถังรถยนต์ และปัจจุบันก็มีโรงงาน Carbon Fiber เป็นของตัวเอง

ในส่วนของ Chassis ของ Mclaren 720S ได้รับการพัฒนาตัวถังให้มีน้ำหนักเบายิ่งขึ้น ด้วยใช้เทคโนโลยี Carbon Fiber Monocoque เฉพาะของ McLaren ที่มีชื่อว่า Monocage II  ได้รับการพัฒนาต่อยอดจากเทคโนโลยีตัวถัง Monocage ของ Ultimate Series ที่อยู่ในรุ่น McLaren P1 ซึ่งเป็นรถระดับ Hypercar ของทาง McLaren  จุดเด่นคือมีน้ำหนักที่เบาและมีความปลอดภัยสูง ตัวรถออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์เพื่อความลู่ลม โดยเฉพาะการออกแบบด้านหน้าตัวรถใหม่ที่ไม่มีช่องดักลมเข้าสู่เครื่องยนต์แล้ว แต่อากาศจะถูกจัดระเบียบให้ไหลผ่านทางช่องประตู ก่อนจะไหลเข้าสู่เครื่องยนต์ซึ่งช่วงสร้างแรงกดท้ายได้เพิ่มขึ้นอีก 15% สปอยเลอร์หลังปรับขึ้นลงตามความเร็ว ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเบรกให้ดียิ่งขึ้น มิติตัวถังมีขนาด ยาว x กว้าง x สูง : 4,543 x 1,930 x 1,196 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ : 2,670 มิลลิเมตร น้ำหนักตัวรถ 1,283 kg (dry) / 1,419 kg (curb)

ในส่วนวัสดุของ Body รถนั้นผลิตจาก Carbon Fiber ทั้งชิ้นเช่นกัน อีกทั้งยังต้องดีไซน์และขึ้นรูปให้เหมาะสมกับหลัก Aerodynamic ทำให้ผลิตได้ยากและมีราคาแพง เวลาเกิดอุบัติเหตุ เราไม่สามารถนำ Carbon Fiber มาเคาะใหม่เหมือนกับรถทั่วไปได้ แถมเคสนี้ยังมีการฉีกขาดในส่วนของกันชนด้วย ทำให้เราจำเป็นต้องนำเขาพาทใหม่มาเปลี่ยนในส่วนของพาทที่ได้รับความเสียหาย

ดูเพิ่มเติม
>> 
ย้อนประวัติ Honda Jazz รถทันสมัยสไตล์วัยรุ่น
>> McLaren 570S Spider Design Edition กับความต่าง 5 สไตล์ที่เลือกได้

ตัวถังและ Body ของรถ

ตัวถังและ Body ของรถ

การออกแบบ

720S ได้มีการปรับปรุงประตูแบบใหม่ ประตูเป็นแบบ Twin-hinged Dihedral doors ให้มีการเข้าออกที่ง่ายขึ้น โดยเวลาเปิดจะเพิ่มระยะช่องว่างส่วนหลังคารถทำให้การ เข้า-ออก สะดวกมากยิ่งขึ้น

เครื่องยนต์

McLaren 720S มาพร้อมเครื่องยนต์ตัวใหม่ เป็นเครื่องยนต์เบนซิน วางกลาง  V8 90 องศา 4.0 ลิตร 3,994 ซีซี รหัส M840T Twin-Turbo แบบ Twin-scroll พร้อมเวสต์เกตไฟฟ้า 2 ลูก 32 วาล์ว จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Dual Clutch Transmission (DCT) 7 Speed ที่มีน้ำหนักเบาและเล็กที่สุด โดยมีชื่อเรียกว่า Sequential Shift Gearbox (SSG) ขับเคลื่อนล้อหลัง ให้แรงม้า 720PS (710hp) ที่ 7,250 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 770 N⋅m ที่ 5,500 รอบต่อนาที ความเร็ว 0-100 km/hr ใน 2.7 วินาที และ 0-200 km/hr ใน 7.8 วินาที วิ่ง 1/4 ไมล์ได้ภายใน 10.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 341 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พวงมาลัย แร็คแอนด์พีเนียน ควบคุมด้วย Electronic ผ่อนแรงไฟฟ้าตามความเร็วรถ

ด้านหน้า-หลัง : อิสระปีกนกคู่พร้อมระบบ Proactive Chassis Control II ซึ่งใช้ช่วงล่างแบบไฮโดรลิกอินเตอร์ลิงค์ ในแต่ละล้อจึงไม่ต้องติดตั้งเหล็กกันโคลงแบบดั้งเดิม ทำให้รถมีน้ำหนักลดลง เฟืองท้ายแบบปกติ กำกับการส่งแรงขับเคลื่อนระหว่างล้อซ้ายและขวาด้วย Brake Steer แยกจับเบรกแบบอิสระ

โหมดการขับขี่สามารถปรับได้ 3 โหมด นั้นคือ Comfort, Sport และ Track  สามารถปรับแยกกันได้ในส่วนของการตอบสนองของเครื่องยนต์ และ ช่วงล่าง อีกทั้งในโหมด Sport และ Track ยังมีในส่วนการปรับระดับ Varlable Drift Control ซึ่งเมื่อเปิดการทำงานแล้ว ผู้ขับขี่สามารถเลือกระดับการยึดเกาะถนนได้ หมายความว่า สามารถตั้งได้ว่าจะได้รถดริฟท์(ท้ายปัด) ไปกี่องศาเพื่อเพิ่มความเร้าใจให้ผู้ขับขี่

ซุปเปอร์คาร์สุดหรู

ซุปเปอร์คาร์สุดหรู

ระบบเบรก

เบรกของ McLaren 720S เป็นเบรกแบบ Carbon Ceramic จานเบรกหน้า 390 มิลลิเมตร จานเบรกหลัง 380 มิลลิเมตร ทำงานคู่กับ Active Rear Spoiler ที่ช่วยสร้าง  Airbrake ทำให้ McLaren 720S สามารถหยุดรถได้ จากความเร็ว 200-0 km/hr ใช้ระยะทางเพียง 117 เมตรและใช้ระยะเวลาเพียง 4.6 วินาที เท่านั้น

ภายใน

ในส่วนของเบาะรถจะเป็นเบาะหนังปรับไฟฟ้าได้ พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทางด้วยมือ (ขึ้น-ลงและเข้า-ออก) ระบบ Ambient Lighting ที่ช่วยเพิ่มความสวยงามในห้องโดยสาร หน้าจอเรือนไมค์ เป็นจอแบบ TFT แสดงผลหน้าตาที่แตกต่างกัน 3 แบบตามโหมดการขับขี่ได้แก่  Comfort, Sport, and Track ที่สามารถพับเก็บได้เพื่อเพิ่มอรรถรส และวิสัยทัศน์การขับขี่

สี Ceramic Grey

สี Ceramic Grey

สี

McLaren จะ Class ของสีออกเป็น 4 ระดับตามความยาก และความซับซ้อน ในการผลิตสีตัวนั้นออกมา ได้แก่ Standard / Special / Elite / MSO (McLaren Special Operation) ราคาของสีในแต่ละ Class ก็จะแตกต่างกันเริ่มต้นจาก Standard ที่ไม่ต้องเพิ่มเงิน ไปจนถึงระดับแพงที่สุดคือ MSO

สี Ceramic Grey ของ 720S คันที่เป็นข่าวนั้นอยู่ในระดับ MSO เป็นระดับที่สูงที่สุดของ Class สีและมีความยากและซับซ้อนในการผลิตสีตัวนี้มากที่สุดของทาง McLaren เพราะมาจากสำนักแต่งในค่ายดังกล่าวนั่นคือ MSO - McLaren Special Operation ที่ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อแต่งสวยให้ซูเปอร์คาร์แบรนด์นี้โดยเฉพาะ หากยังไม่พอใจเฉดนี้ ก็สามารถผสมขึ้นมาให้เป็นสไตล์ที่ชอบได้อีก เรียกว่าเป็นสีที่แพงชนิดที่ถ้าใครได้จ่ายค่าซ่อม คงหน้าซีดไม่น้อย นอกจากค่าทำสีใหม่แล้ว ยังมีค่าซ่อมอื่นๆ ที่แพงไม่แพ้กัน ซึ่งในส่วนของราคาที่ลูกค้าต้องจ่ายเพิ่มเพื่อให้ได้สี Ceramic Grey จะอยู่ที่ 1,779,900 บาท

แค่ค่าตัวรถก็ว่าแพงและยิ่งเจอค่าทำสีพิเศษให้เป็น Ceramic Grey ทำเอาช็อคไปเลยทีเดียวค่ะ! ราคาล้านกว่าบาทนี่มันซื้อรถตัวท็อปของหลายๆยี่ห้อได้เลยนะเนี่ย!! แต่ก็อย่างว่านะคะ คนที่มีเงินมากเพียงพอที่จะใช้จ่าย เค้าก็ต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุด สิ่งที่ชอบที่สุดให้กับตัวเอง ถ้ามันไม่เดือดร้อยตัวเราหรือคนอื่นก็จัดเต็มไปเลยค่าาา ส่วนใครที่ขับรถอยู่ตามท้องถนน เห็นรถซุปเปอร์คาร์ก็ต้องระวังให้ดีนะคะ นอกจากรถแพง สีแพง ค่าซ่อมยังแพง ถ้าหากไม่เจอคนใจดีแบบทายาทบีทาเก้นรับรองว่าถ้ากำลังเงินเราไม่เพียงพอ อาจจะมีล้มละลายกันได้ ขับขี่อย่างมีสติกันนะคะ Chobrod.com ขอฝากข่าวใหม่ๆไว้เท่านี้ ถ้ามีอะไรอัพเดทอีกจะมาส่งข่าวต่อให้ท่านผู้อ่านแน่นอนค่ะ ติดตามไว้ดีๆนะคะ 

ดูเพิ่มเติม
>> 
McLaren ยืนยันไม่ลุย SUV แต่ผลิตรถสปอร์ตไฮบริดและไฟฟ้าแทน
>> Honda NSX เพิ่มความแข็งแกร่งขึ้นในปี 2019 ด้วยการอัพเกรดระบบโครงสร้าง

ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่  
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดีและน่าเชื่อถือ เชิญที่นี