Honda Jazz (ฮอนด้า แจ๊ซ) รถยนต์นั่งแบบแฮตช์แบ็ก 5 ประตู ในแบบ B-Segment ที่ครองใจลูกค้าทั่วโลกพลิกโฉมความต้องการใช้รถยนต์ของลูกค้า ด้วยดีไซน์แปลกใหม่ การขับขี่คล่องตัว เต็มไปด้วยประโยชน์ใช้สอย จึงเป็นที่นิยมไปทั่วโลก
Honda Fit (ชื่ออีกชื่อหนึ่งของ Honda Jazz)
สำหรับคำว่า Fit เป็นอักษรที่มาจากคำว่า "Fit" (ฟิต) ในภาษาอังกฤษ มีความหมายว่า Just right และ Perfect โดยใช้ชื่อนี้ในญี่ปุ่น, แคนาดา, สหรัฐอเมริกา, อเมริกาใต้, จีน และไต้หวัน เป็นต้น แต่ชื่อ "Fit" ความหมายและการออกเสียงในบางประเทศนั้น อาจจะดูไม่เหมาะนัก Honda จึงใช้ชื่อ "Jazz" (แจ๊ซ) ในประเทศไทย, เวียดนาม, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย, อินเดีย, ออสเตรเลีย, ฮ่องกง, ฟิลิปปินส์, โอเชียเนีย, แอฟริกา และในแถบยุโรป เป็นต้น
ขอย้อนกลับไปช่วงก่อนปี 2001 ... หลังจากที่ Honda เลิกขาย Honda City (เวอร์ชั่นญี่ปุ่น) ไปไม่นานนัก ในเดือนตุลาคม 1996 Honda ได้เริ่มต้นผลิตรถรุ่น "Logo" ในรูปแบบ Sub-Compact 3 ประตู และ 5 ประตู (GA3/4/5) ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.3 ลิตร ออกมาจำหน่ายในตลาดญี่ปุ่น รวมถึงส่งออกไปยังต่างประเทศ เช่น แถบเอเชียบางประเทศและในยุโรป แต่ไม่ประสบความสำเร็จด้านยอดขายนัก ทีนี้ฮอนด้าจึงขอแก้มือใหม่ ใช้แนวคิดใหม่ในการออกแบบ จนออกมาเป็น "Honda Fit"
ดูเพิ่มเติม
>> Honda Jazz (Fit) Comfort Edition 2018 รุ่นใหม่ไม่ง้อฟิล์ม
>> Honda NSX เพิ่มความแข็งแกร่งขึ้นในปี 2019 ด้วยการอัพเกรดระบบโครงสร้าง
HONDA JAZZ โฉม1
HONDA JAZZ Generation ที่ 1 (พ.ศ. 2544-2551)
ฮอนด้า แจ๊ซ โฉมที่ 1
Honda Jazz รุ่นแรก สร้างขึ้นภายใต้รหัสโครงการ MK พัฒนาให้มีรูปทรงคล้ายรถ MPV ย่อส่วน บนพื้นฐานโครงสร้างใหม่ "Global Small Platform" มาพร้อมเครื่องยนต์แบบใหม่ "i-series" ภายใต้หลักการพัฒนาแบบ "SMALL MAX Series" (Mileage MAX, Fun MAX, Coolness MAX และ Personal MAX) ชูจุดเด่นด้วยการเป็นรถยนต์ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา อเนกประสงค์ หลากหลายการใช้งาน ประหยัดน้ำมันและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมเทคโนโลยี G-Force Control เพื่อความปลอดภัย ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุขึ้น
ระหว่างการพัฒนา ทีมวิศวกรและทีมพัฒนาได้ลงเก็บข้อมูลต่างๆ กับผู้บริโภค โดยหัวหน้าทีมออกแบบและพัฒนารถรุ่นนี้คือ Yoshiyuki Matsumoto และต้องแสดงให้เห็นถึงแนวคิดในการพัฒนารถยนต์ของฮอนด้า ภายใต้แนวคิด "Man Maximum, Machine Minimum" โดยให้ความสำคัญทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร และฉีกออกไปจากคู่แข่งในตลาดตอนนั้น
รูปทรงภายนอกออกแบบตามหลัก "ZENSHIN (Zhen Shin) Cabin Form" ลู่ลมตามหลักอากาศพลศาสตร์ เน้นประหยัดน้ำมัน ไฟหน้ากลมโตแบบ "Bubble Canopy" กลมกลืนไปกับตัวรถ กระจังหน้าขนาดเล็ก เนื้อที่เครื่องยนต์ไม่ยาวนัก กระจกด้านข้างตัวรถแบ่งเป็น 4 ส่วน ประตูบานหน้าแบ่งการเปิดได้ 3 ตอน เปิดได้กว้างสุดถึง 970 มม. ช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระ แม็กเฟอร์สันสตรัท หลังแบบกึ่งอิสระแบบ Torsion Beam H Type พร้อมไฟท้ายรูปทรงแบบ "Cylinder Design" และมีสีรถให้เลือกมากมายนับ 10 สี
ภายในของ Honda Jazz
ห้องโดยสารภายในออกแบบให้คนขับเป็นศูนย์กลางบน "Sporty & Personal" แผงคอนโซลเรียบง่าย โดดเด่นด้วยหน้าปัดทรงกลมขนาดใหญ่แบบสปอร์ต วิทยุแบบ Bulit-In ดูกลมกลืน จัดวางถังน้ำมันไว้บริเวณใต้เบาะนั่งคู่หน้า เบาะนั่งภายในห้องโดยสารแบบ "Ultr Seat" ปรับพับได้หลายรูปแบบ ทั้ง Utility Mode, Long Mode, Tall mode และ Refresh Mode นอกจากจะสามารถพับแยกแบบ 60:40 เพื่อเพิ่มพื้นที่ได้แล้ว ยังสามารถยกเก็บเบาะนั่งแบบราบหรือพับขึ้น เมื่อต้องการวางสัมภาระทรงสูงได้ พร้อมเนื้อที่เก็บสัมภาระด้านท้ายมากถึง 382 ลิตร
แถลงข่าวเปิดตัวจำหน่ายญี่ปุ่นในวันที่ 21 มิถุนายน 2001 (ปี 2544) มาพร้อมกับจุดเด่นของความอเนกประสงค์ในการใช้งาน ซึ่งถูกใจคนเมืองและคุณผู้หญิงเป็นอย่างยิ่ง ทำให้ได้รับความนิยมทันทีที่เปิดตัว! พร้อมคว้ารางวัล Car of the Year Japan 2001-2002 ไปในทันที!
Honda Jazz ในไทย
สำหรับ Honda Jazz ในไทยได้เปิดตัวในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2546 ณ สยามสแควร์ (ซึ่งช้ากว่าประเทศญี่ปุ่นประมาณ 2 ปีกว่า โดยในบ้านเราเวลานั้น Honda เปิดตัวจำหน่าย Honda City ไปก่อน) โดย Honda Jazz รุ่นนี้มาพร้อม Motto "Jazz Up Your Life" ชูจุดเด่นด้วยการเป็นรถขับสนุก ประหยัดน้ำมัน และห้องโดยสารภายในแบบ Space Magic ใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ และอีกจุดเด่นคือระบบพวงมาลัยแบบ Steermatic ในรุ่นเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT กดปุ่ม +- เปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยได้ 7 สปีด มีให้เลือกเฉพาะเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร ในราคา 542,000-644,000 บาท
ใช้ พอลล่า เทเลอร์ เป็นพรีเซนเตอร์ เจาะกลุ่มตลาดวัยรุ่นอายุ 18-30 ปี และคนวัยทำงานใหม่ๆ (กลุ่มคน Young at Heart ก็ได้ด้วยเช่นกัน) รวมถึงผู้หญิง ซึ่งได้รับความนิยมในบ้านเราสุดขีด สร้างยอดจอง 10,000 คันแรกในระยะ 2 เดือนหลังเปิดตัว ถือเป็นปรากฏการณ์การจองรถที่สูงมากในตลาด ทำให้ Honda Jazz กลายเป็นรถ Sub-Compact ที่ขายได้สูงสุดในประเทศไทยนับแต่เปิดตัวมา ถึงขนาดที่บรรดาบริษัทห้างร้านต่างๆ ต้องซื้อไปเป็นของรางวัลสำหรับแจกให้คนร่วมสนุกชิงโชคของสินค้านั้นๆ เป็นจำนวนมาก
ดีไซน์ Honda Jazz
ต่อมาในเดือนมิถุนายน 2004 Honda ที่ญี่ปุ่น ได้ปรับโฉม Minorchange ด้วยการออกแบบชุดกันชนหน้าแบบสปอร์ต ไฟหน้ามีทั้งแบบรมดำ และสีตัวรถสอดใส่เข้าไปเพิ่ม เพิ่มไฟเลี้ยวกระจกมองข้าง ไฟท้ายแบบ LED รมดำ พร้อมอุปกรณ์เพิ่มเติมอีกหลากหลายอย่างทั้งภายนอกและภายใน ส่วนในไทยในวันที่ 28 กุมภาพันธุ์ 2549 ฮอนด้า ได้เปิดตัว Honda Jazz (Minorchange) มาพร้อม Slogan โฆษณา "Make The Move." "ขยับชีวิตให้มีสีสัน กับความสนุกเร้าใจใหม่" เพื่อชนกับคู่แข่งในตลาดอย่าง Toyota Yaris ที่ออกมาในช่วงนั้นพอดี
HONDA JAZZ โฉม2
HONDA JAZZ Generation ที่ 2 (พ.ศ. 2551-2557)
ฮอนด้า แจ๊ซ โฉมที่ 2
Honda Jazz (Minorchange) ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร แบบ i-DSi และ VTEC เหมือนเดิม พร้อม 3 รุ่นย่อย ได้แก่ S, V และ SV งวดนี้ชูจุดเด่นด้วยการใช้สีเหลือง Helios Yellow Pearl ที่เป็นสี Premium กำลังได้รับความนิยมอย่างสูงในญี่ปุ่น ออกแบบด้านหน้าและด้านหลังดูโฉบเฉี่ยวแบบรถสปอร์ต ไฟท้ายแบบ LED เริ่มลดรุ่นย่อยของรุ่นเครื่องยนต์ i-DSi ลง แล้วเน้นไปกับรุ่นเครื่องยนต์ VTEC มากขึ้น ในราคา 539,000-705,000 บาท (สีเหลือง เฮลิออส มีเฉพาะรุ่น SV และต้องเพิ่มเงินอีก 10,000 บาท)
ขณะที่รุ่น SV จะมีอุปกรณ์เพิ่มเติมจากรุ่นปกติ คือ โคมไฟหน้าด้านในสีเดียวกับตัวรถ, สปอยเลอร์หลัง, กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว, เบาะสีดำ, กุญแจรีโมท, มาตรวัดเรืองแสง, กระจกมองข้างปรับและพับด้วยไฟฟ้า, มือจับเปิดประตูด้านในโครเมียม และไฟอ่านแผนที่
Honda Jazz เปิดตัวเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2551 ณ โรงแรม เซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ มาพร้อม Slogan โฆษณา "I'm So Jazz" กับรูปทรงอันโดดเด่นและอเนกประสงค์ รองรับพลังงานทางเลือกใหม่ "แก๊สโซฮอล์ E20" ระบบเกียร์ชุดใหม่แบบอัตโนมัติ 5 สปีด (ของเดิมเป็นแบบ CVT 7 สปีด) ซึ่งเซ็ทมาเป็นพิเศษสำหรับเมืองไทย.
เลือกใช้พรีเซ็นเตอร์อย่าง มาริโอ เมาเร่อร์และมารีญา
โดย ฮอนด้า เลือกใช้พรีเซ็นเตอร์วัยใส (ในตอนนั้น) อย่าง มาริโอ เมาเร่อร์ และ มารีญา พูนเลิศลาภ มาแทนที่ พอลล่า เทเลอร์ ซึ่งเป็นพรีเซ็นเตอร์ในการเปิดตัว Jazz รุ่นแรก มาพร้อม 3 รุ่นย่อย S, V และ SV ในราคา 550,000 - 695,000 บาท
ในเดือนมิถุนายน 2552 Honda ประเทศไทย กระตุ้นตลาดเพิ่มทางเลือกให้แก่ลูกค้า ด้วยรถสีขาว Brilliant White Pearl ภายใต้ชื่อรุ่น "Wise Edition" ครอบคลุมทุกโมเดลของฮอนด้าในขณะนั้น รวมถึง Jazz ด้วย มาพร้อมสปอยเลอร์หลังแบบ Tail Gate กระจังหน้าแบบสปอร์ต และจักรยานเสือภูเขาซึ่งใส่ไว้ด้านหลังรถ มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น V AT ในราคา 642,000 บาท และรุ่น V AT (SRS) ในราคา 662,000 บาท
ในเดือนกรกฎาคม 2553 Honda ได้แนะนำ Jazz รุ่นพิเศษ "Active Plus" มาพร้อมชุดอุปกรณ์ตกแต่งที่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น กันชนหน้า-หลังดีไซน์ใหม่ กระจังหน้าและสเกิร์ตข้างแบบสปอร์ต สปอยเลอร์หลัง และล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว ดีไซน์สปอร์ต พร้อมป้ายสัญลักษณ์ "Active Plus" ส่วนด้านความปลอดภัย เพิ่มไฟตัดหมอกดีไซน์ใหม่ และสัญญาณกะระยะหลัง 4 จุด ซึ่งนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น มีให้เลือก 2 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ รุ่น V AT ในราคา 679,500 บาท และรุ่น V AT (SRS) ในราคา 699,500 บาท และมี 3 สี ได้แก่ สีขาวทาฟเฟต้า, สีเหลืองเฮลิออส (มุก) และ สีฟ้าเซรูเลียน (เมทัลลิก)
เปิดตัว Honda Jazz Minorchange เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2554 ณ เอสพลานาด รัชดา โดยนับแต่เปิดตัว ฮอนด้า แจ๊ซ โฉมแรกในปี 2546 จนถึงปี 2554 ทำสถิติยอดขายในไทยไปแล้วมากกว่า 130,000 คัน ... มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่น คือ รุ่น S รุ่น V และรุ่นสูงสุด SV โดยทั้ง 3 รุ่นใช้เครื่องยนต์ i-VTEC ขนาด 1.5 ลิตร 120 แรงม้า สามารถใช้ได้กับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 และระบบเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด โดยในรถรุ่น S สามารถเลือกระบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีดได้ ในราคา 590,000-715,000 บาท
"Honda Jazz JP" เวอร์ชั่นส่งตรงจากญี่ปุ่น
เมื่อช่วงน้ำท่วมใหญ่ปี 2554 มาถึง โรงงานผลิตรถยนต์ฮอนด้า ในสวนอุตสาหกรรมโรจนะ จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในครั้งนี้ด้วย โดยรถยนต์ที่ได้รับความเสียหายจำนวนรวม 1,055 คัน มี Honda Jazz จำนวน 213 คัน ที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม ซึ่งทาง Honda เริ่มต้นการทำลายรถยนต์ตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2554
Honda จึงต้องนำ "Honda Jazz JP" เวอร์ชั่นส่งตรงจากญี่ปุ่น เข้ามาจำหน่ายในช่วงปี 2554 เพียงรุ่นเดียวเท่านั้น ชูสีส้ม "Orange Sunset" เป็นรูปเด่น ในราคา 747,000 บาท อุปกรณ์มาตรฐานแตกต่างจากเวอร์ชั่นไทยนิดหน่อย อาทิเช่น โคมไฟหน้าที่มาพร้อมไฟหน้า HID ปรับระดับสูง-ต่ำได้ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ และถุงลมนิรภัยอัจฉริยะ i-SRS และม่านนิรภัยด้านข้าง เป็นต้น
Honda Jazz Hybrid IMA
ในวันที่ 26 กรกฎาคม 2555 Honda ได้แถลงข่าวเปิดตัว Honda Jazz Hybrid IMA ถือเป็นรถไฮบริดรุ่นแรกของกลุ่ม Sub-Compact ในประเทศไทย โดยรับประกัน 5 ปี ทั้งระบบ ประกอบด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า อุปกรณ์ควบคุม แบตเตอรี่ไฮบริดและระบบสายไฟไฮบริด แบบไม่จำกัดระยะทาง พร้อมรับสิทธิคืนภาษีรถยนต์คันแรก ในราคา 768,000 บาท
Jazz Modulo
มาถึงเดือนมกราคม 2556 Honda ได้เปิดตัว "Jazz Modulo" โฉบเฉี่ยวกับกระจังหน้าโครเมียมแบบโครมดำ และสเกิร์ตดีไซน์สปอร์ตรอบคัน สปอยเลอร์หลังสุดเท่ พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน มีให้เลือก 3 สี กับ สีแดงแรลลี่ สีขาวทาฟเฟต้า และ สีดำคริสตัล (มุก) จำนวนจำกัด เฉพาะรุ่น V AT ในราคา 682,500 บาท เป็น Honda Jazz รุ่นธรรมดา เพิ่มสีแดงมาให้เลือกด้วย
HONDA JAZZ โฉม3
HONDA JAZZ Generation ที่ 3 (พ.ศ. 2557-ปัจจุบัน)
ฮอนด้า แจ๊ซ โฉมที่ 3
Honda Jazz เจเนอเรชั่นที่ 3 เปิดตัวเมื่อวันที่ 5 กันยายน 2013 ในประเทศญี่ปุ่น มีการพัฒนาแบบ "The World Best Functional Compact" พร้อมกับ "Exciting H Design" ได้แก่ High Tech, High Tension และ High Touch ออกแบบใหม่สไตล์สปอร์ตแบบ "Crossfade Monoform" ตั้งแต่กระจังหน้าจรดไฟท้าย สะท้อนถึงความปราดเปรียว เปี่ยมไปด้วยพลัง ด้วยการออกแบบเส้นสาย Character Line ด้านข้างตัวรถที่คมชัด จึงเพิ่มความปราดเปรียวให้กับส่วนบน ในขณะที่ส่วนล่างยังให้ความแข็งแกร่ง มั่นคง นับเป็นการออกแบบที่ผสานกันได้อย่างลงตัว
Honda Jazz
สำหรับเวอร์ชั่นไทย Honda แถลงข่าวเปิดตัว Honda Jazz รุ่นนี้ในวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 (ปี 2014) ณ BITEC บางนา (ซึ่งตรงกับวันเดียวกับที่คณะ คสช. ทำรัฐประหารพอดี!) โดย Honda Jazz เน้นการสื่อสารการตลาดไปยังกลุ่ม Gen Me ที่มีไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย เป็นคนรุ่นใหม่ยุคดิจิตอลที่เน้นการสื่อสารออนไลน์ มาพร้อมเครื่องยนต์ i-VTEC 1.5 ลิตร 117 แรงม้า ผสานเกียร์ CVT ใหม่ ที่พัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม พร้อมระบบช่วยขับขี่แบบประหยัดน้ำมัน Eco Assist และรองรับพลังงานทางเลือก E85 พร้อมกับมัลติฟังก์ชั่นที่ล้ำสมัย ครบครันด้วยเทคโนโลยีและมาตรฐานความปลอดภัย
ให้สมรรถนะการขับขี่ที่แรงเร้าใจของเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว i-VTEC ให้แรงม้าสูงสุด 117 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดที่ 14.9 กก-ม. ที่ 4,700 รอบ/นาที พร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ใหม่ ที่ได้รับการพัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม ช่วยประหยัดน้ำมันได้ดียิ่งขึ้น ให้อัตราเร่งที่ดีเยี่ยม ตอบสนองทุกการขับขี่ได้อย่างสนุกมากขึ้น ด้วยระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยแบบ 7 สปีด ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ และรองรับน้ำมัน E85
ย้อนประวัติ Honda Jazz รถทันสมัยสไตล์วัยรุ่น
มาพร้อมกับ 6 รุ่นย่อย ได้แก่ S MT, S AT, V, V+, SV และ SV+ ในราคาตั้งแต่ 555,000-754,000 บาท ทั้งยังมี 2 สีใหม่ให้เลือก ได้แก่ สีเหลืองแอทแทรค (มุก) ใหม่ และน้ำเงินบริลเลียนท์ สปอร์ตตี้ (เมทัลลิก) ตั้งเป้าการจำหน่าย 20,000 คัน ภายในหนึ่งปี
*** ดูเพิ่มเติมราคา ฮอนด้าแจ๊ส 2020 มือสอง ที่มีขายในประเทศไทย
ในวันที่ 15 พฤษภาคม 2015 สำหรับ Honda Fit Shuttle ในประเทศญี่ปุ่น ก็ถึงวาระเปลี่ยนโฉมใหม่ โดยแยกออกจาก Fit ไปเลยในชื่อ "Shuttle" แต่พื้นฐานต่างๆ ก็ยังคงใช้ร่วมกับรุ่น Fit และ Grace (หรือ Honda City ในไทย) เหมือนเดิม
กล่าวโดยรวมแล้ว Honda Fit หรือ Jazz ทั้ง 3 เจเนอเรชั่น นับเป็นรถยนต์ที่ประสบความสำเร็จที่สุดอีกรุ่นหนึ่งของฮอนด้า มอเตอร์ ด้วยยอดจำหน่ายที่มากถึงหลายล้านคันทั่วโลก ในระยะเวลา 16 ปี ร้อยกว่าประเทศ และกวาดรางวัลแห่งความสำเร็จมาแล้วทั่วโลก
Honda Jazz รุ่นปรับโฉม
Honda Jazz รุ่นปรับโฉม
ฮอนด้า แจ๊ซ รุ่นปรับโฉมนั้นได้เผยโฉมในประเทศไทยเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 มีการเปลี่ยนแปลงภายนอกเล็กน้อย โดยการออกแบบกระจังหน้า-กันชนหน้าและกันชนหลังใหม่ และเพิ่มรุ่นย่อยใหม่คือรุ่น RS และ RS+ ซึ่งรุ่นย่อยนี้จะมาทดแทนรุ่นย่อย SV และ SV+ รุ่นย่อยใหม่นี้จะมีการออกแบบให้ดูมีความสปอร์ตกว่ารุ่นธรรมดา ซึ่งเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่ได้มีการใช้รุ่นย่อยนี้หลังจากที่ต่างประเทศได้ใช้กันมานาน
Honda Jazz Phoenix Orange Pearl
ส่วนการเปลี่ยนแปลงภายในคือ เพิ่มกระจกมองข้างพับด้วยไฟฟ้าและไฟอ่านแผนที่ในรุ่น V, V+ และเพิ่มสวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัยในรุ่น V[3] ชุดเครื่องเสียงหน้าจอ 6.8 นิ้ว ไม่มีช่องใส่ CD (ตั้งแต่แจ๊ซรุ่นปี 2016 เป็นต้นมา) หลังคาภายในห้องโดยสารสีดำ และเบาะนั่งหุ้มผ้าสีดำแบบสปอร์ตตกแต่งด้วยด้ายสีส้ม
รุ่น RS นี้จะมีกันชนหน้าและกันชนหลังที่แตกต่างจากรุ่นย่อยปกติ อีกทั้งได้ไฟหน้าแอลอีดีแบบมัลติรีเฟลกเตอร์กับไฟเดย์ไทม์ในโคมเดียวกันและไฟตัดหมอกแบบฮาโลเจนธรรมดา ในขณะที่รุ่นย่อยปกติได้ไฟหน้าแบบฮาโลเจนเช่นเดิม และมาพร้อมสีใหม่คือสีส้มมุก (Phoenix Orange Pearl)
เป็นยังไงกันบ้างคะ ประวัติของ Honda Jazz มีมายาวนานถึง 17 ปีกันเลยทีเดียว และแม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน รถรุ่นนี้ก็ยังคงทำยอดขายให้ Honda ได้เป็นอย่างดี คงเพราะรถรุ่นนี้ตอบโจทย์วัยรุ่นจนไปถึงวัยทำงาน มีสไตล์ที่ทันสมัย มีฟังก์ชั่นครบครัน และมาในราคาที่ไม่สูงจนเกินไป จะว่าไปพออ่านประวัติแล้วก็น่าซื้อเหมือนกันน้าา ใครที่กำลังเล็งรถรุ่นนี้ไว้อยู่ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีเลยค่ะ Chobrod ขอฝากความรู้เกี่ยวกับรถยนต์ไว้เพียงเท่านี้และอย่าลืมแชร์ความรู้เกี่ยวกับเรื่องรถยนต์ของคุณให้เราด้วยโดยการให้ Comment ด้านล่างนี้ได้เลย
ดูเพิ่มเติม
>> มาส่องรถสุดเท่ห์จากภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ “Transformers 5 The Last Knight”
>> รถยนต์กับป้ายโฆษณาโดนๆ
ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดีและน่าเชื่อถือ เชิญที่นี