ทำความรู้จัก "Cabriolet" เปิดประทุน กับรถทั้ง 5 รุ่นที่ต่างชาติต้องยกนิ้ว

ประสบการณ์ใช้รถ | 28 มี.ค 2562
แชร์ 4

คงเคยได้ยินกันมาบ้างว่า รถยนต์บางยี่ห้อ จะมีคำที่บ่งบอกชื่อรุ่นของตัวเองกับคำว่า "Cabriolet" แนบท้ายรุ่นบ้าง หลายคนคงสงสัยใช่หรือไม่ ว่าเจ้าคำนี้มันหมายความว่าอะไร

วันนี้ Chobrod จะพาไปทำความรู้จักกับรถยนต์ที่ถูกเรียกว่า Cabriolet ว่ามันคืออะไร และทำไมมันถึงถูกเรียกเช่นนั้น อีกทั้งส่วนใหญ่ คำๆ นี้ มักจะเป็นการบ่งบอกชื่่อรุ่นกับแบรนด์รถยนต์หรู กลุ่มรถสปอร์ต หรือกลุ่มรถพรีเมี่ยมอีกด้วยสิ ว่าแล้วก็ไปเริ่มกันเลย

Cabriolet เข้าใจง่ายๆ คือ "รถเปิดประทุน" นั่นเอง หมายความว่ามันจะเป็นรถยนต์ที่เปิดหลังคาได้นั่นเอง แต่ประเภท Cabriolet จะถูกแบ่งว่าเป็นรถยนต์ 2 ที่นั่งหรือมากกว่าก็ได้ จะแตกต่างจากรถประเภท Roadster ที่จะเน้นเป็นทรงสปอร์ต 2 ที่นั่งที่เปิดหลังคาได้มากกว่า แต่กระนั้น คำว่า Cabriolet ส่วนใหญ่แล้วจะถูกเรียกในรถยนต์ยี่ห้อหรูจากฟากฝั่งยุโรปมากกว่า เช่น Mercedes BMW หรือ Porsche ก็ยังมีคำเรียกว่ารุ่น Cabriolet เช่นกัน

Cabriolet รถยนต์เปิดประทุน ที่แน่นอนว่ามันอยู่ในฝันของใครหลายคน

Cabriolet รถยนต์เปิดประทุน ที่แน่นอนว่ามันอยู่ในฝันของใครหลายคน 

หรือหากเราจะเรียกง่ายว่า Cabriolet คืออะไร ก็ขอให้เรียกว่า "รถเปิดประทุน" หรือ "รถเปิดหลังคา" ก็เรียกได้อย่างไม่เคอะเขินมากนัก เพราะการจะไปเรียก Cabriolet หรือถอดออกมาว่า คาบริโอเล่ ก็ดูจะยากเกินไปเล็กน้อย

แต่แน่นอนว่าหลายคนคงมองว่า Cabriolet หรือรถเปิดประทุน อาจจะไม่เหมาะกับบ้านเรา เพราะอากาศที่ร้อนอบอ้าวแทบจะทุกนาที หรือคนไทยอาจจะ "อาย" เกินไปที่จะขับรถเปิดประทุนบนท้องถนน เพราะรู้สึกว่าสายตาหลายคู่จับจ้องเข้ามายังเจ้าของรถนั่นเอง แต่หากเรามองว่า อากาศในยามเช้า หรือยามเย็น โดยเฉพาะเมื่อขับรถ Cabriolet ไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ทั้งทะเล ภูเขา การเปิดหลังคาเปิดประทุนรับลมธรรมชาติ ก็เป็นอะไรที่น่าจะส่งผลความสุขให้เราได้ไม่น้อย

ดูเพิ่มเติม
>> 
Mazda MX-5 RF Sport Black เตรียมลงตลาดแดนผู้ดีปลายพฤษภาคม
>> BMW i8 Roadster 2018 เปิดตัวที่มาเลเซีย

ลองนึกภาพเปิดประทุน รับลมเย็นๆ ปะทะใบหน้า ผ่านความเร็วราวๆ สัก 40-60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง วิวข้างหน้าเป็นถนนสวยๆ เลียบด้านข้างเป็นท้องทะเลกว้างๆ ไปกับคนรู้ใจ รถยนต์  Cabriolet น่าจะช่วยสร้างบรรยากาศนี้ได้แน่นอน

ทำความรู้จัก

ทำความรู้จัก "Cabriolet" เปิดประทุน

แต่เอาล่ะ ไปดูกันดีกว่าว่า หากจะใช้งานเจ้ารถยนต์ที่ถูกเรียกว่า Cabriolet มันต้องมีวิธีอย่างไรบ้าง เผื่อผู้อ่านจะสนใจหามาสักคันไว้ครอบครอง

1. สภาพอากาศ เป็นเรื่องสำคัญ - นั่นเพราะเป็นที่รู้กันดีว่าว่าอุณหภูมิบ้านเรามันร้อนระดับตับแตก แต่ก็ใช่ว่าหากใครที่ครอบครองรถยนต์เปิดประทุนจะไม่สามารถใช้งานการเปิดหลังคาได้ เพราะช่วงเวลาดีๆ ยังมีให้เปิดหลังคารับลมรับอากาศสดชื่นเสมอ อย่างเช่นในเวลาเช้าตรู่ แสงแดดอ่อนไม่ร้อนมากเกินไป หรือช่วงเย็นที่แดดร่มลมตก ก็เหมาะจะพารถยนต์คู่ใจที่เปิดประทุนได้ใช้งานรับลมเหมือนกัน แต่แน่ล่ะก็ต้องคำนึงถึงสภาพแวดล้อมในขณะนั้นบนเส้นทางที่จะขับขี่ไปด้วย เพราะต่อให้ลมเย็นแค่ไหน แต่เปิดแล้วมีฝุ่นพิษ ควันไอเสีย มลพิษ ก็ไม่น่าจะเปิดหลังคามาสูดดมอากาศเท่าไหร่ นี่ไม่ต้องพูดถึงขณะฝนตก เพราะแน่นอนว่ามันเปิดไม่ได้แน่ๆ

2.เปิดประทุนแล้ว กระจกก็ปิดได้นะ - เพราะเมื่อเปิดประทุนอาจจะทำให้ลมอากาศขณะที่เราขับรถไปนั้นไหลเวียนเข้ามาในรถยนต์มากเกินไป อาจทำให้สิ่งของกระจัดกระจายก็ได้ หรือลมปะทะใบหน้าจนเกินไปด้วย การเปิดกระจกทั้งสองด้านขึ้นมาในระดับที่เหมือนกับยังไม่ได้เปิดประทุนก็จะช่วยได้มากทีเดียวกับการลดปริมาณลมในห้องโดยสาร และยังช่วยลดเสียงรบกวนจากภายนอกได้อีกด้วย

3.ระยะเวลาเปิด-ปิดหลังคา ต้องจำให้ได้ - รถยนต์ Cabriolet แต่ละรุ่นก็จะมีระยะเวลาเปิดปิดหลังคา "ไม่เท่ากัน" เพราะบางรุ่นเปิดปิดได้เร็วในระยะ 10-15 วินาที บางรุ่นอาจจะต้องใช้เวลามากกว่าราวครึ่งนาที อย่างไรก็ตาม การเปิดปิดหลังคาก็ควรจะทำในตอนที่รถหยุดนิ่งจะดีที่สุด แม้รถยนต์  Cabriolet บางรุ่นจะเคลมได้ว่า เปิดปิดหลังคาได้แม้จะใช้ความเร็วไม่เกินตามที่กำหนดไว้ก็ตาม ทั้งนี้ การเปิดปิดขณะรถหยุดนิ่งก็เพื่อรักษาระบบการทำงานของเจ้า  Cabriolet เอาไว้ให้ใช้งานได้นานๆ และที่ต้องจำระยะเวลาให้ชัด เพราะขณะเปิดประทุนอยู่หากมีฝนตกลงมาก็จะได้คำนวณการปิดหลังคาได้ก่อนจะเปียกฝน

เปิดประทุนแบบนี้ ขับไปที่ไหนก็ต้องมอง

เปิดประทุนแบบนี้ ขับไปที่ไหนก็ต้องมอง

ทั้ง 3 ข้อข้างต้นพอจะเป็นแนวทางให้ใช้ประโยชน์กับการเปิดปิดหลังคาของรถยนต์ที่ถูกเรียกว่า Cabriolet ว่าต้องทำอย่างไรกันบ้าง ถัดจากนี้เราไปหา 5 อันดับรถยนต์เปิดประทุน หรือเจ้า  Cabriolet กันหน่อยดีกว่า ว่ากูรูรถยนต์ทั่วโลกให้ค่ายไหนเอาไว้บ้าง ว่าแล้วก็เริ่มจากตัวแรกกันก่อนเลย

1รถ Cabriolet เปิดประทุนน่าซื้อ MAZDA MX-5

เป็นตัวเปิดประทุนตัวแรกจากค่ายญี่ปุ่น ที่ฝรั่งก็เรียกเช่นกันว่ามันเป็น Cabriolet ทรงสปอร์ตของ MAZDA MX-5 ถือว่าครองใจคอรถยนต์ไม่น้อย เพราะเล็กกระทัดรัด และขับไปไหนใครๆ ก็ต้องเหลียวมองแน่นอน ยิ่งกับการเปิดประทุนรับลมด้วยแล้ว ไม่ต้องบอกเลยว่าทุกสายตาจะต้องจับจ้อง สนนราคาก็ไม่ถูกไม่แพง ยังพอหาทางครอบครองกันได้ เพราะค่าตัวอยู่แถว 270,000 บาท

MAZDA MX-5 อีกหนึ่งรถที่เรียกว่า Cabriolet ที่น่าจะครอบครองได้ไม่ยาก

MAZDA MX-5 อีกหนึ่งรถที่เรียกว่า Cabriolet ที่น่าจะครอบครองได้ไม่ยาก 

2. รถเปิดประทุน 4 ที่นั่ง BMW SERIES 4 Convertible

ถือได้ว่าคอรถยนต์มอบให้ว่ามันเป็นรถยนต์เปิดหลังคาแบบ 2 บุคคลิก เพราะจะเท่แบบเปิดประทุนรับลมกับ 4 ที่นั่ง แถมยังมีที่เก็บสัมภาระได้อีกถึง 200 ลิตร มันเหมาะทั้งจะเดินทางไกล หรือขับเท่ๆ รับลมได้ มันจึงเป็นรถที่ทั้งเท่ และใช้งานได้จริง รถเบนซ์เปิดประทุนราคาตัววิ่งอยู่แถวๆ 4,299,000 บาท  

BMW SERIES 4 Convertible ที่ถูกเรียกว่ารถสองบุคลิก

เบนซ์เปิดประทุน 4 ที่นั่ง BMW SERIES 4 Convertible

3.รถ Cabriolet เปิดประทุนน่าซื้อ Mercedes-Benz C-Class C 300 Cabriolet AMG Dynamic

ตัวนี้ก็หรูมาจากเยอรมัน ไฮไลท์คือหลังคาเปิดประทุน ที่สามารถกางเปิดหรือพับปิดได้ในเวลาเพียง 21 วินาที โดยทำงานได้ที่ความเร็วไม่เกิน 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่สนนราคาค่าตัวหากอยากได้ครอบครอง ก็ต้องเตรียมเงิน 4,240,000 บาท ไปสู่ขอ

อีกหนึ่งรถเบนซ์ เปิดประทุน กับ Mercedes-Benz C-Class C 300 Cabriolet AMG Dynamic

อีกหนึ่งรถเบนซ์ เปิดประทุน กับ Mercedes-Benz C-Class C 300 Cabriolet AMG Dynamic

4.รถ Cabriolet เปิดประทุนน่าซื้อ ​Audi TT RS Roadster

หากเบื่อกับ TT ของค่ายสี่ห่วงแบบหลังคาแข็ง ต้องหันมาสนใจตัวนี้ที่เปิดประทุนได้ แถมขับไปยังเท่ตามสไตล์สปอร์ตแต่อ้วนกลม นอกจากจุดเด่นที่อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 3.9 วินาที หลังคาซอฟต์ท็อปพับเก็บได้ภายใน 10 วินาทีเท่านั้น แต่ราคาค่าตัวหากใครสนใจ ก็บอกกันเอาไว้เลยว่าอยู่ที่ 3,500,000 บาท

Audi TT RS Roadster อีกหนึ่งสปอร์ตที่เปิดหลังคารับลมได้เหมือนกัน

Audi TT RS Roadster อีกหนึ่งสปอร์ตที่เปิดหลังคารับลมได้เหมือนกัน 

5.รถ Cabriolet เปิดประทุนน่าซื้อ ​Porsche 718 Boxster

นี่ก็การันตีตัวแรงอยู่แล้วจากค่ายเยอรมันอีกตัว ระยะเวลาเปิดปิดหลังคา หรือการเปิดประทุนอาจจะไม่ต้องไปสนใจมาก แต่ให้สนว่ามันทำความแรงได้ดีทีเดียว เพราะอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 4.7 วินาที ขณะที่ความเร็วสูงสุดทำได้ 275 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แถมยังมีอัตราสิ้นเปลือแค่ 12.3-17.5 กิโลเมตรต่อลิตรเท่านั้น แต่กลับราคานี้สิครับ ถ้าใครจะอยากครอบครอง บอกได้เลยว่า เริ่มต้นที่ 7,200,000 บาท

Porsche 718 Boxster รถเปิดหลังคา แถมความแรงตามแบบฉบับอีก

Porsche 718 Boxster รถเปิดหลังคา แถมความแรงตามแบบฉบับอีก 

เป็นไงกันบ้าง หวังว่าบทความนี้จะทำให้ผู้อ่านทุกท่านรู้จักกับรถยนต์เปิดประทุน หรือที่เรียกกันหรูๆ ว่า Cabriolet อีกหนึ่งศัพท์ในวงการรถยนต์ ว่าแต่ว่า อยากจะครอบครองกันบ้างสักคันหรือเปล่า แสดงความคิดเห็นกันไว้หน่อยครับ

ดูเพิ่มเติม
>> 
เอาใจสายชิลล์ ... รวบรวมรถเปิดประทุนมือสองราคาไม่เกิน 4-5 แสนบาท
>> BMW 8 Series Convertible 2018 เปิดประทุนสุดหรูจากตราใบพัดฟ้า

ติดตาม ตลาดรถบ้าน ซื้อขายกันเอง ด้ที่นี่
ติดตามเรื่อง รีวิวรถยนต์ใหม่ ได้ที่นี่
ติดตามเรื่อง ราคารถยนต์ใหม่ๆได้ที่นี่

กอล์ฟ กันติพิชญ์