เช็คก่อนซื้อ! จะซื้อรถบรรทุกมือสองต้องตรวจสอบอะไรบ้าง

ประสบการณ์ซื้อขายรถยนต์ | 28 ก.พ 2562
แชร์ 4

หลากหลายธุรกิจที่จำเป็นต้องดำเนินกิจการขนส่งสินค้า หรือหากไม่แล้วก็ต้องติดต่อใช้บริการบริษัทขนส่ง แต่ในยุคเศรษฐกิจเช่นนี้ การมีรถบรรทุกจัดส่งเป็นของตัวเองอาจจะคุ้มค่ากว่าการไปจ้างบริษัท แต่หากจะให้ไปซื้อรถบรรทุกใหม่ก็อาจจะเสียค่าใช้จ่ายโดยไม่จำเป็น เพราะราคารถถบรรทุกไม่ได้ถูก ๆ เหมือนรถทั่วไป ด้วยปัญหาเรื่องราคาที่เป็นปัจจัยสำคัญ รถบรรทุกมือสองอาจเป็นคำตอบที่ดีแก่ธุรกิจของคุณ

การจะซื้อรถบรรทุกสักคัน ใช่ว่าจะมีวิธีเลือกซื้อหรือการตรวจสอบเหมือนรถยนต์มือสองทั่ว ๆ ไป เพราะความที่เป็นรถขนาดใหญ่และใช้งานเฉพาะ การเลือกซื้อจึงจำเป็นต้องได้รับการตรวจสอบ ตรวจเช็คอย่างถี่ถ้วน ซึ่งวิธีการตรวจสภาพรถบรรทุกมือสองก่อนตัดสินใจเลือกซื้อนั้นเป็นเช่นไรกันบ้าง วันนี้ทาง Chobrod.com จะมาแนะนำแก่ท่านผู้อ่านทุกท่านกันค่ะ

ตรวจเช็คอะไรบ้างหากจะซื้อรถบรรทุกมือสอง

ตรวจเช็คอะไรบ้างหากจะซื้อรถบรรทุกมือสอง

ดูเพิ่มเติม

>> HINO คาด “ตลาดรถบรรทุก”เมืองไทยแข่งดุเดือดแน่
>> 4 ข้อควรระวัง !! เมื่อไปอยู่ใกล้ๆกับรถคอนเทนเนอร์

 

1. ตรวจเช็คโครงสร้างและแชสซีก่อนซื้อรถบรรทุกมือสอง

ขึ้นชื่อว่าเป็นรถบรรทุกย่อมหมายถึงการนำไปใช้งานที่สมบุกสมบัน และยิ่งเป็นมือสองด้วยแล้ว นั่นแสดงให้เห็นว่าเป็นรถที่ผ่านอะไรมาค่อนข้างมากมาย และด้วยการใช้งานที่ผ่านงานหนักมา อาจมีผลต่อเรื่องของโครงสร้างรถ และนั่นคือสิ่งที่เราจำเป็นจะต้องตรวจสอบ 

โครงสร้างและแชสซี

โครงสร้างและแชสซี ของตัวรถบรรทุกเป็นส่วนที่สำคัญที่ควรมีสภาพที่สมบูรณ์

วิธีตรวจสอบง่าย ๆ โดยให้สังเกตรอยตะเข็บหรือรอยต่อตามจุดต่าง ๆ เพื่อตรวจว่ามีร่องรอยการเฉี่ยวชนจากอุบัติเหตุมั้ย ดูให้แน่ใจตรงตามขอบประกระจก ขอบประตู รวมไปถึงส่วนที่เป็นขอบยางต่าง ๆ ซึ่งเป็นจุดที่จะแตกต่างจากรถยนต์เพราะจะสังเกตได้ยาก การตรวจสอบดูตรงบริเวณยางจะพอให้เห็นร่องรอยว่ามีการใช้งาน บรรทุกหนักมากน้อยเพียงใด หรือมีประวัติการเฉี่ยวชนหรือไม่ อีกทั้งอย่าลืมตรวจสอบตะขอยึดกันชนที่เชื่อมต่อกับแชสซีส์ซึ่งเป็นจุดสำคัญว่าคดหรือเบี้ยวไหม รวมไปถึงส่วนแก้มหลับที่ต่อกับเสาหลังคาหรือตัวเฟรม ซึ่งเป็นชิ้นส่วนที่สำคัญมาก เพราะไม่สามารถซ่อมแซมได้ให้เหมือนเดิมหากชำรุดและนั่นหมายถึงความแข็งแรงคงทนที่ลดลงไม่ควรเสี่ยงที่จะซื้อ และตรวจสอบไปที่ฝากระโปรงกับประตูรถว่าปิดสนิทดีด้วยหรือเปล่า สุดท้ายลองดูโครงสร้างโดยรวมว่าสัดส่วนสมบูรณ์แบบเพียงใด

 

2.ตรวจเช็คเครื่องยนต์และระบบเกียร์ก่อนซื้อรถบรรทุกมือสอง

เครื่องยนต์ของรถบรรทุก

เครื่องยนต์ของรถบรรทุกที่ดีควรไม่มีการดัดแปลงเพราะจะลดทอนประสิทธิภาพการทำงานได้

ตรวจสอบการเดินเครื่องว่าได้รอบการเดินครบ 2000 รอบหรือไม่ หากเกินกว่านั้นแสดงว่าระบบคลัซต์มีปัญหา และตรวจสอบว่าเครื่องยนต์หลวมหรือแน่น หากสตาร์ทรถแล้วมีไอของน้ำมันเครื่องแสดงว่าเครื่องหลวมแล้ว และมีเสียงอะไรที่ดังผิดปกติหรือเปล่าขณะที่เครื่องกำลังเดิน ที่สำคัญเช็ครุ่นเครื่องยนต์ให้แน่ใจว่าเป็นเครื่องเดิมหรือเครื่องที่ดัดแปลงมา เพราะเครื่องดัดแปลงประสิทธิภาพจะไม่ดีเท่ากับเครื่องเดิม หากพบว่าเป็นเครื่องที่ดัดแปลงมาให้เจรจาสอบถามกับผู้ขายว่าเราสามารถยอมรับการดัดแปลงได้หรือไม่ หรืออาจใช้เป็นช่องทางการต่อรองราคาก็ได้ค่ะ รวมไปถึงตรวจสอบควันว่ามีกลิ่นเหม็นฉุนหรือมีควันดำหรือเปล่า เพราะอาการเหล่านี้มาจากสาเหตุการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์นั่นเอง

*สนใจตลาดรถบรรทุก Suzuki Carry มือสอง , Hino มือสองราคาสวยๆ กดดูที่นี่ได้นะคะ

 

3.ตรวจเช็คสภาพตัวถังภายนอกก่อนซื้อรถบรรทุกมือสอง

ยางอะไหล่

ยางอะไหล่จะเป็นสิ่งที่บ่งบอกร่องรอยการใช้งานของรถบรรทุกได้ดี

ส่วนใหญ่ผู้ที่ซื้อรถมือสองมักจะเอามือเดินเคาะรอบ ๆ ถังรถ เพื่อตรวจสอบว่าเคยมีประวัติการทำสีหรือไม่ หรือเช็คว่าตรงไหนที่มีสนิมเกาะ รถที่ทำสีแล้วมักจะมีการโป๊วสี ยิ่งโป๊วสีหน้ามาก หมายถึงเกิดอุบัติเหตุและซ่อมแซมมาหลายครั้ง ลองไล่เคาะเพื่อดูเสียงที่แตกต่างกัน โดยไล่เคาะฟังเสียงและพิจารณาความหนาบางของรอบตัวรถ ถ้ามีจุดไหนที่มีเสียงดังทึบ ๆ นั่นหมายความว่ามีโอกาสที่จะทำสีมาก่อน แต่ถ้าเสียงโปร่งทุกระดับของการเคาะนั่นถือว่าดีในระดับหนึ่ง อีกส่วนสำคัญคือการตรวจสอบร่องรอยและสนิมเช็คให้ดีว่ามีการเกิดสนิมที่ตรงไหนหรือไม่อย่างไร ทั้งนี้หากเราพบจุดที่ไม่ถึงพอใจให้ลองเสนอหรือเจรจาผู้ขายช่วยซ่อมแซมส่วนนี้ให้ดีก่อนจะทำสัญญาซื้อขายก่อนได้ค่ะ ทั้งนี้รวมไปถึงตรวจสอบยางอะไหล่ และเครื่องมือต่างๆ แม่แรง ประแจว่าครบถ้วนหรือเปล่า เพราะเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ควรมีติดรถเอาไว้ค่ะ

 

4.ตรวจเช็คสภาพภายในตัวรถและห้องโดยสารก่อนซื้อรถบรรทุกมือสอง

ภายในตัวรถและห้องโดยสาร

ภายในตัวรถและห้องโดยสารมีอุปกรณ์สำคัญต่าง ๆ มากมายที่จำเป็นต้องอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน

แม้จะเป็นรถที่มีโครงสร้างข้างหลังใหญ่และมีส่วนด้านหน้าที่มีพื้นที่ดูไม่กว้างมากมายแต่ภายในตัวรถและห้องโดยสายก็มีจุดสำคัญที่จำเป็นจำต้องเก็บรายละเอียดให้ดี โดยให้ตรวจสอบว่าอุปกรณ์ต่าง ๆ ยังสามารถใช้งานได้ปกติดี สามารถใช้งานได้จริงและตรงกับการใช้งาน เช่นระบบแอร์ ลองดูว่าพัดลมดังหรือเปล่า หรือคอมแอร์เสียงดังตลอดแต่จะเงียบเมื่อปิดแอร์ แสดงว่าคอมแอร์มีปัญหา หรือถ้าคันเร่งสึกแต่เลขไมล์ดูน้อยอย่างผิดสังเกต ให้จับผิดตั้งข้อสงสัยว่าอาจมีการกลับเลขไมค์ขึ้น รวมไปถึงระบบสั่งการต่าง ๆ สามารถใช้งานได้ทุกปุ่ม โดยเฉพาะระบบสั่งงานของกระจกซึ่งเป็นจุดสำคัญสำหรับรถใหญ่จำเป็นต้องมีสภาพที่สมบูรณ์แบบและพร้อมใช้งาน
ในส่วนของเบาะนั่งอาจเป็นอะไรที่หลีกเลี่ยงสภาพเสื่อมโทรมได้ยาก เพราะเป็นจุดที่ใช้งานเป็นประจำ หากไม่ได้มีการชำรุดฉีกขาดหรือเลอะเทอะจนน่าเกลียด เพียงแค่มีสภาพหมองหรือซีดและแฟบก็ยังถือว่าอยู่ในสถานะที่รับได้ ขอให้มีการปรับนั่งได้ก็ถือว่าเพียงพอ

เพราะเป็นรถที่ใหญ่จึงจำเป็นต้องพิถีพิถันในการตรวจสอบก่อนเลือกซื้อ

เพราะเป็นรถที่ใหญ่จึงจำเป็นต้องพิถีพิถันในการตรวจสอบก่อนเลือกซื้อ

การตรวจสอบดังกล่าวเป็นการตรวจสอบเบื้องต้น หากอยากจะซื้อขายแน่นอนให้ทดลองขับจะเป็นการตรวจเช็คที่ดีที่สุด และที่สำคัญสิ่งที่ควรตรวจสอบให้ถูกต้องและครบถ้วนนั่นก็เอกสาร และเนื่องด้วยเป็นรถเฉพาะทางแนะนำว่าการเลือกซื้อนั้นควรมีผู้ชำนาญการไปร่วมตรวจสอบเป็นการดีกว่า

เพราะเป็นรถใหญ่อาจจะต้องใช้เวลามากกว่าการตรวจสอบรถส่วนบุคคล แต่หากเราใส่ใจและพิถีพิพันในการตรวจสอบ จะทำให้เราได้รับรถบรรทุกมือสองที่มีคุณภาพและใช้งานต่อไปได้ยาวนานคุ้มค่าแน่นอนค่ะ

ดูเพิ่มเติม

>> เทคนิค “เลือกรถมือสอง” ให้เหมือน “ได้รถมือหนึ่ง”
>> ได้รถดี และถูกกว่า! กับ 6 เทคนิคต่อราคารถมือสอง

ติดตามข่าวสารรถยนต์ คลิกที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรตรงนี

ANNOiNA
Avatar

ANNOiNA

บรรณาธิการ
ทุกอย่างมีเหตุและผลของมันเสมอ