ได้รถดี และถูกกว่า! กับ 6 เทคนิคต่อราคารถมือสอง

ประสบการณ์ซื้อขายรถยนต์ | 25 มิ.ย 2564
แชร์ 12

รู้จักกล้าที่จะขอ กล้าที่จะต่อรอง งัดวาทะศิลป์ที่มี มาใช้ให้เป็นประโยชย์ กับเทคนิคการเจรจา ต่อราคารถมือสอง ทำอย่างไร ให้ได้รถราคาที่ดีที่สุด จุดไหนที่ห้ามพลาด

เมื่องบประมาณคือปัจจัยสำคัญของการซื้อรถมือสอง และการได้รถที่ราคาคุ้มค่า เหมาะสมมากที่สุดคือสิ่งที่คนซื้อรถมือสองทุกคนต้องการ ช่วงราคาที่แตกต่างตามกำหนด ตามความพอใจของผู้ขาย และตามสภาพรถ ไม่ได้อิงจากโชว์รูมที่ราคาเท่ากันทุกคันเหมือนรถป้ายแดง นั่นคือโอกาสที่จะทำให้คุณได้รถราคาดีที่สุดในสภาพพร้อมใช้งาน และนี่คือเทคนิคต่อราคารถมือสองเพื่อให้คุณบรรลุเป้าหมายนั้น

1.เช็กราคากลาง

รู้ราคาตลาด และงบประมาณไว้ในใจเป็นสิ่งที่คุณต้องทำก่อนจะเข้าไปดูรถรุ่นที่สนใจ โดยเข้าไปเช็กราคากลาง ราคาขายต่อรถมือสองของรถรุ่นนั้นจากเว็บซื้อขายรถ โดยอิงจากปีผลิตของรถและความนิยม จะทำให้คุณเห็นราคากลางของรถรุ่นนั้น ๆ

เช็กราคากลาง
เช็กราคากลางของรถมือสอง

เมื่อถึงขั้นตอนการต่อรองราคากับผู้ขายหน้างาน คุณจะรู้ตัวเลขที่คุณพอใจว่ายอมจ่ายให้กับรถคันนั้นได้เท่าไร หลังจากตรวจสภาพรถ และลองขับเรียบร้อยแล้ว และเข้าสู่เทคนิคการต่อราคารถมือสองในขั้นต่อไป

2. วางมาดนิ่งไว้ก่อน

หลังจากตรวจสภาพ และได้ลองขับเรียบร้อยแล้ว รู้แก่ใจว่ารถสภาพตรงตามที่คุณปรารถนาไว้ เหมาะสมกับราคาที่อยู่ในใจของคุณ แต่ควรเก็บอาการ อย่าแสดงออกให้ผู้ขายรู้ว่าคุณอยากได้รถคันนั้นมากแค่ไหน บอกกับผู้ขายไปก่อนว่าขอเปรียบเทียบราคากับคันอื่นก่อน เผื่อผู้ขายต้องการขายรถให้กับคุณจริง ๆ อาจเสนอราคาขายที่ถูกกว่าให้คุณ เพื่อให้คุณพิจารณาซื้อรถของเขาง่ายขึ้น แค่นี้คุณก็อาจจะได้รถราคาถูกกว่าที่ผู้ขายตั้งไว้ตอนแรกแล้ว

3. สียังไม่ใช่ที่ชอบสุด

นอกจากต้องไม่แสดงอาการออกมาว่าชอบรถมือสองคันนั้น ๆ แล้ว ประโยคที่บอกกับผู้ขายว่าสีรถคันนั้นยังไม่ใช่สีที่โดนใจมากที่สุดก็เป็นอีกหนึ่งวิธี เพื่อให้ผู้ขายเสนอราคาที่ถูกลงเพื่อให้คุณตัดสินใจซื้อรถกับเขา

แจ้งจุดที่ไม่สนใจ
แจ้งจุดที่ไม่สนใจ ให้คนขายรู้สึกว่ารถของตนอาจจะไม่ถูกเลือก

รถมือสองในตลาด แม้ตัวเลือกในรุ่นเดียวกันจะมีมากมายหลายคัน แต่แน่นอนว่าจะให้รถมือสองที่สภาพดีและเป็นสีที่ถูกใจผู้ซื้อด้วยอาจมีน้อย ผู้ขายอาจเสนอราคาที่ถูกลงเพราะสีไม่ตรงใจผู้ซื้อ ให้เพื่อให้คุณยอมตัดใจซื้อรถของเขา

4. ติเพื่อต่อ

ในขั้นตอนการตรวจสภาพ คุณควรหาข้อติของรถคันนั้นว่ามีอะไรที่ต้องซ่อมบำรุง ไม่ว่าจะเป็นสภาพเครื่องยนต์ มีรอยรั่ว คราบน้ำมันติดอยู่หรือไม่ แอร์เย็นฉ่ำไหม แบตเตอรี่เปลี่ยนมาล่าสุดเมื่อไร จุดไหนของรถที่เมื่อซื้อไปแล้วต้องได้รับการแก้ไขทันที จากนั้นคำนวณยอดค่าซ่อมบำรุงต่าง ๆ รวมกันเพื่อนำไปต่อรองขอลดราคากับผู้ขาย

5. สังเกตอาการของผู้ขาย

เมื่อคุณโทรติดต่อคุยกับผู้ขาย จนถึงวันที่นัดดูรถจริง อย่าลืมสังเกตอาการพฤติกรรมของผู้ขายโดยเฉพาะถ้าเป็นรถมือสองที่เป็นรถบ้าน เจ้าของขายเอง ดูลักษณะคำพูดของผู้ขายว่าร้อนเงินหรือเปล่า รีบขายรถมากแค่ไหน หรือต้องการขายเพราะผ่อนไม่ไหว รถยังติดไฟแนนซ์

สังเกตพฤติกรรมของผู้ขาย
สังเกตพฤติกรรมของผู้ขาย เพื่อให้การต่อราคามีโอกาสที่มากขึ้น

ถ้าจับอาการได้ว่าเจ้าของรถรีบขายด้วยสาเหตุต่าง ๆ นั่นคือโอกาสของคุณที่จะขอลดราคาได้มากกว่าเดิม ร้อนเงินรีบขายมากก็ขอต่อได้มาก แต่คุณต้องมั่นใจที่จะซื้อรถคันนั้นแล้วด้วย หลังจากตรวจสภาพรถรวมไปถึงตรวจสอบเอกสาร ถ้าต่อราคากับผู้ขายแล้วเขายอมลดให้ตามตัวเลขที่คุณขอ แต่กลับไม่ซื้อมันก็จะดูน่าเกลียดไปสักหน่อย

6. บอกราคาที่คุณจะพร้อมซื้อในทันที

ใช้มาตรการเด็ดขาดซึ่งในข้อนี้คุณอาจต้องใช้ความนิ่ง ศาสตร์ศิลป์แห่งการต่อรองขั้นสูง และอย่าได้เกรงใจที่จะบอกตัวเลขของราคา ถูกกว่าที่ผู้ขายตั้งไว้มาก เมื่อคุณตรวจสภาพรถแล้วอยู่ในระดับที่คุณรับได้กับสภาพตามจุดต่าง ๆ และยินดีที่จะซื้อรถในราคาเท่านี้ก็บอกกับผู้ขายไปเลย ถ้าราคาต่อรองไม่ต่ำกว่าที่ผู้ขายหวังไว้มากเกินไปผู้ขายจะต้องคิดหนักกับโอกาสขายรถได้ที่กำลังรออยู่ แม้ราคาจะถูกกว่าที่ตั้งราคาไว้ตอนแรกมาก แต่รถจะมีคนซื้อในทันที เป็นใครก็ต้องคิดหนักกันทุกคน  

ทั้งหมดนี้คือ 6 เทคนิคต่อราคารถมือสองเพื่อให้ได้ราคาที่ถูกกว่า ได้รถสภาพที่คุณพอใจ แถมประหยัดเงินในกระเป๋า แฮปปี้ทุกนาทีที่ได้ขับแม้จะเป็นรถมือสอง แต่รับรองความคุ้มค่ากับเงินทุกบาทที่จ่ายไปแน่นอนถ้าคุณรองนำเทคนิคเหล่านี้ไปใช้

ดูเพิ่มเติม
>> ซื้อรถมือสอง ต้องถามอะไรบ้าง? พบกับ 7 คำถามที่พบบ่อยเมื่อจะซื้อรถมือสอง
>> 5 ข้อพิจารณาซื้อรถมือสอง “เน้นความคุ้ม ซื้อไป ไม่เหนื่อย”

เข้าดู รถมือสอง ได้ที่นี่