เจาะละเอียด รถไฟฟ้า Nissan LEAF ทำไมถึงแพง ?

ประสบการณ์ซื้อขายรถยนต์ | 4 ธ.ค 2561
แชร์ 2

เปิดราคามา เล่นทำผู้ที่สนใจในรถพลังงานทางเลือก Nissan LEAF “คอตก” กันเป็นแถว เมื่อตัวเลขราคาของรถคันนี้พุ่งไปแตะเกือบ 2 ล้านบาท ! อยู่ที่ 1,990,000 บาท ทำไมมันถึงแพงจัง ? วันนี้ Chobrod จะพาคุณไปหาคำตอบพร้อม ๆ กัน

เจาะละเอียด รถไฟฟ้า Nissan LEAF ทำไมถึงแพง ?

เปิดตัวไปแล้วภายในงาน Motor Expo 2018 กับ Nissan LEAF ที่พกพามาพร้อมกับความล้ำกับพลังงานขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าเต็มรูปแบบ EV เพียวไม่มีเครื่องยนต์ผสม มาพร้อมกับความหวังของคนไทยที่จะได้เห็นรถไฟฟ้าวิ่งกันจนเต็มถนน ช่วยลดมลพิษทางอากาศ แม้หลายคนจะมองว่าไกลตัว สำหรับประเทศไทยในตอนนี้ แต่ก็มีคนไทยไม่น้อยเหมือนกันที่อยากใช้รถประเภทนี้กันแล้ว 

คนไทยอยากใช้รถไฟฟ้า 
ผลจากการวิจัยโดย Frost & Sullivan ที่ปรึกษาด้านการสำรวจและวิจัยผู้บริโภคเกี่ยวกับเทคโนโลยี ระบุว่าผู้ใช้รถในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กว่า 37% พร้อมแล้วที่จะเลือกใช้รถไฟฟ้าเป็นรถคันต่อไป อีกทั้งประเทศไทยยังติดอันดับ 1 ใน 3 ของประเทศที่มีความต้องการใช้รถยนต์ EV มากที่สุดอีกด้วยจากการสำรวจ ตัวเลขมีดังต่อไปนี้  

  1. ฟิลิปปินส์ 46% 
  2. ไทย 44% 
  3. อินโดนีเซีย 41%

คนไทยถือว่าตื่นตัวไม่น้อยกับกระแสพลังงานสะอาดจากรถ EV 

แม้จะเป็นเรื่องใหม่สำหรับคนไทย แต่ถ้ามองในวงกว้างต้องบอกว่ารถพลังงานไฟฟ้าหรือรถ EV นั้นไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไปแล้ว ทั่วโลกต่างส่งเสริมเพื่อให้ผู้ใช้รถหันมาเปลี่ยนใช้รถประเภทนี้ผ่านนโยบายข้อบังคับของภาครัฐฯ ในแต่ละประเทศ รวมไปถึงค่ายผู้ผลิตก็ให้การตอบรับ มีการกำหนดช่วงเวลาเปลี่ยนผ่าน รถในสายการผลิตไปสู่การผลิตรถไฟฟ้าเต็มรูปแบบแล้วหลายค่ายทั่วโลก 

หลายปัจจัยที่อาจทำให้ผู้ซื้อในไทยยังมีกังวลเกี่ยวกับรถประเภทนี้ นอกจากเรื่องความใหม่ที่แฝงไว้ซึ่งความวิตกหลายข้อข้างใน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการบำรุงรักษา เรื่องจุดบริการสถานีชาร์จไฟ ไปจนถึงการรับประกันในระบบขับเคลื่อนของรถประเภทนี้อาจนำไปสู่ค่าใช้จ่ายซับซ้อนที่ผู้ซื้อคาดไม่ถึง แต่ถึงอย่างไรก็ตามสิ่งที่ผู้ซื้อนั้นต้องการมากที่สุดคงหนีไม่พ้นการสนับสนุนจากภาครัฐฯ ของไทย 

แพงเพราะเป็นตัวนำเข้า 
คงไม่ใช่แค่ผู้เขียนที่รู้สึกผิดหวังกับราคาขายของรถรุ่นนี้ที่ก่อนหน้าทางผู้บริหารของ Nissan ให้ความหวังขนาดที่ว่าจะพยายามทำราคารถรุ่นนี้ให้คนไทยเอื้อมถึงได้ง่าย แม้จะต้องลดสเปคหั่นต้นทุน แต่ตัวเลขที่เปิดตัวมาสำหรับ Nissan LEAF นั้นกลับดูย้อนแย้งกับที่ได้ยินได้ฟังมา เป็นได้แค่เพียงรถจ่ายตลาดของเศรษฐีซะมากกว่ากับราคา 1.99 ล้านบาท จะหวังให้ได้รับความนิยมวิ่งจนเกลื่อนถนนเมืองไทยนั้นคงยังเป็นเรื่องไกลตัวในเวลานี้  

ดูเพิ่มเติม
>> 
รีวิว Nissan Leaf 2018 รถพลังไฟฟ้า
>> ราคาและตารางผ่อน Nissan LEAF 2019 ล่าสุด

คุณ เพียงใจ แก้วสุวรรณ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย)

คุณ เพียงใจ แก้วสุวรรณ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย)

“รถยนต์ไฟฟ้า นิสสัน ลีฟ ที่จะนำมาจัดแสดงในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป จะเป็นรุ่นที่ผลิตเพื่อขายในประเทศญี่ปุ่น เป็นการนำมาแสดงเพื่อสร้างการรับรู้ให้กับลูกค้าชาวไทย และยังไม่มีกำหนดขายอย่างเป็นทางการ โดยนิสสัน ลีฟ ที่จะนำเข้ามาขายในประเทศไทยอาจจะมีสเป็กที่แตกต่างจากรุ่นที่ขายในประเทศญี่ปุ่น โดยตอนนี้กำลังอยู่ระหว่างการประชุมเพื่อหาข้อสรุปอย่างเป็นทางการอีกครั้ง”

นี่คือคำกล่าวให้สัมภาษณ์กับทางสื่อของคุณ เพียงใจ แก้วสุวรรณ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) เมื่องาน Motor Expo 2017 ปีที่แล้ว (grandprix 11/2017) ผ่านมาหนึ่งปีบริบูรณ์ Nissan LEAF ที่นำเข้ามาขายในไทยนั้นไม่ได้ถูกลดสเปค แถมราคาก็สูงจนเกินเอื้อมสำหรับประชาชนทั่วไปเพราะความเป็นรถนำเข้าสำเร็จรูปทั้งคันนั่นเอง 

เสียภาษีนำเข้าแทบจะเท่าราคารถ
จริง ๆ แล้ว อยากรู้ไหมว่าทำไมรถ EV คันนี้ถึงแพงจัง ไปแกะรายละเอียดของโครงสร้างภาษีโดยสังเขปของ Nissan LEAF 2019 คันนี้กันดีกว่า ว่ากว่าจะได้มาขายในไทย ต้องผ่านด่านภาษีกี่ขั้น... โดยเทียบเคียงราคาจำหน่ายของ Nissan LEAF ที่ญี่ปุ่นราคาจะอยู่ที่ประมาณ ไม่เกิน 4,000,000 เยน แปลงเป็นเงินไทยก็จะอยู่ราว 1,000,000 ถึง 1,200,000 บาท แต่ยังไม่จบเพียงเท่านั้นเพราะรถ EV คันนี้ถูกนำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่น ดังนั้นขั้นตอนการเสียภาษีทั้งภาษีนำเข้า, ภาษีสรรพสามิต, ภาษีมหาดไทย, อากรขาเข้า และภาษีมูลค่าเพิ่ม คิดคร่าว ๆ ดังต่อไปนี้ 

เสียภาษีนำเข้า JTEPA 20%
ภายใต้ข้อกำหนดสิทธิพิเศษตามข้อตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจระหว่างไทย-ญี่ปุ่น หรือ JTEPA จะเสียภาษีนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นอยู่ที่ 20% เท่ากับ 1,200,000 x 20% = 240,000 บาท ดังนั้น Nissan LEAF เมื่อผ่านภาษีนำเข้าแล้ว ราคารถจะอยู่ที่ 1,200,000 + 240,000 = 1,440,000 บาท

เสียภาษีสรรพสามิต 8% 
ต่อมาในก็นำไปคิดเพื่อเสียภาษีสรรพสามิตอีก 8% เท่ากับ 1,440,000 x 8% แล้วหารด้วย 0.45 (มาจาก 1-(1.1x50 / 100) ของสรรพสามิต) ดังนั้นภาษีสรรพสามิตจะอยู่ที่ 256,000 บาท 

ยังไม่จบเพียงแค่นั้น...! 

เสียภาษีมหาดไทยอีก 10% คิดจากภาษีสรรพสามิต 
ภาษีสรรพสามิต 256,000 บาท แล้วต้องเสียภาษีมหาดไทย 10% จะเท่ากับ 256,000 x 10% = 25,600 รวมภาษีสรรพสามิตกับภาษีมหาดไทยจะเป็น 281,600 บาท รวมกับราคาเสียภาษีนำเข้าแล้วจะอยู่ที่ 1,440,000 + 281,600 = 1,721,600 บาท 

แต่เดี๋ยวก่อน ! ยังมีภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 7% 
ตอนนี้ราคารถจะอยู่ที่ 1,721,600 บาท คิดภาษีมูลค่าเพิ่มไปอีก 7% จะเท่ากับ 1,721,600 x 7% = 120,512 บาท จะทำให้ราคาของ Nissan LEAF มาอยู่ที่ 1,721,600 + 120,512 = 1,842,112 บาท ซึ่งค่อนข้างใกล้เคียงกับราคาขายของ Nissan LEAF ที่ทางค่ายตั้งเอาไว้ แต่นี่เป็นเพียงการคาดการณ์คร่าว ๆ เท่านั้น 

เปิดตัวแพงแต่อนาคตอาจจะถูกลง 
เมื่อได้เห็นการคำนวนคร่าว ๆ ของภาษีมากชั้นจนได้มาเป็นราคาของ Nissan LEAF แล้ว รู้ไหมว่าจริง ๆ แล้วนั้น ยังมีส่วนของอากรขาเข้าอีกที่รถนำเข้าทุกคันจะต้องถูกคิดคำนวนไป แต่ด้วยนโยบายของรัฐบาลตามมติ ครม. ว่าด้วยแผนการส่งเสริมรถไฟฟ้า ระบุว่าบริษัทที่ยื่นแผนดำเนินงานรวม ทั้งแผนการลงทุนประกอบรถยนต์ไฟฟ้าและผลิตชิ้นส่วนสำคัญของรถไฟฟ้าอย่างเช่น แบตเตอรรี่, มอเตอร์ หรือระบบควบคุมการจ่ายกระแสไฟ จะได้รับสิทธิประโยชน์ภาษีเงินได้และสิทธิประโยชน์ด้านภาษีอื่น ๆ ซึ่งทาง Nissan ประเทศไทยดำเนินการเรียบร้อยแล้ว 

อนาคตเมื่อ LEAF ถูกนำมาผลิตในไทย เชื่อว่าจะต้องถูกลงกว่าเดิมมากแน่นอน

อนาคตเมื่อ LEAF ถูกนำมาผลิตในไทย เชื่อว่าจะต้องถูกลงกว่าเดิมมากแน่นอน 

ข้อมูลยังระบุอีกว่าผู้ที่ผ่านการยื่นแผนดำเนินงานนี้จะได้รับการลดหย่อนหรือยกเว้นอากรขาเข้าในรุ่นรถยนต์ที่จะนำมาผลิตในประเทศเท่านั้น นั่นคือเหตุผลที่ทำให้ Nissan LEAF คันนี้ไม่เสียค่าอากรขาเข้า เพราะทาง Nissan มีแผนที่จะประกอบ Nissan LEAF ในประเทศไทย และอาจส่งผลให้ในอนาคต (คาดว่าไม่เกิน 2 ปี) ราคารถรุ่นนี้จะถูกลงจากการเริ่มสายการผลิตในประเทศไทย 

คาดว่าทาง Nissan ประเทศไทย ก็ไม่ได้หวังอะไรมากมายกับยอดขายของ Nissan LEAF เวอร์ชั่นนำเข้านี้สักเท่าไรนัก เป็นเพียงแค่การนำร่องลองตลาดเท่านั้นเพื่อนำพาไปสู่การผลิตจริงในบ้านเราของรถรุ่นนี้ จากที่คำนวนให้เห็นก็ทำให้รู้ว่า จริง ๆ แล้วนั้นรถคันนี้ราคาจริง ๆ อยู่ที่เท่าไร ที่ว่าแพงกับราคารถ 1.99 ล้านบาทนั้นจริง ๆ แล้วเกิดมาจากอะไร ซึ่งน่าจะทำให้เข้าใจกันได้มากขึ้น สำหรับคนที่สนใจในรถรุ่นนี้ถ้าไม่รีบก็รออีกหน่อยให้มาผลิตในไทยก่อนค่อยซื้อ แต่ถ้าใครอยากได้รถไฟฟ้าในแบบที่เป็นรถนำเข้าแท้ ๆ จากญี่ปุ่น ซื้อได้เลย แต่อาจจะต้องยอมจ่ายแพงหน่อยที่ราคา 1,990,000 บาท 

Source : thaiauto, brandbuffet, excise, mgronline 

Chobrodขอฝากความรู้เกี่ยวกับรถยนต์ไว้เพียงเท่านี้เเละคราวหน้าเรื่องอะไรติดตามไปพร้อมกันเลยนะครับ

ดูเพิ่มเติม
>> 
รีบเช็คด่วน! Nissan เรียกเปลี่ยนถุงลมนิรภัยในประเทศไทย เพื่อความปลอดภัย
>> เทคโนโลยีที่โดดเด่นที่สุดในงาน Motor Expo 2018

ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่  
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี