สำหรับรถ Nissan Leaf 2018 ถือว่าเป็นรถที่หลายคนให้ความสนใจพอสมควร ด้วยความที่เป็นรถพลังไฟฟ้าล้วน ทำให้หลายคนเล็งไว้เป็นพิเศษ ด้านนอกได้ดีไซน์โฉบเฉี่ยวแต่แฝงด้วยพลัง มาพร้อมเอกลักษณ์ของ Leaf ด้วยกระจังหน้า V-Motion ไฟรูปทรงบูมเมอแรง และยังมีไอคอนที่เป็นสัญลักษณ์ของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ดูเป็นรถสมัยใหม่ที่สะกดทุกสายตา
รีวิว Nissan Leaf 2018 รถสำหรับรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม
Nissan Leaf 2018 ถือว่าเป็นรถที่หลายคนให้ความสนใจพอสมควร
ภายในออกแบบเพื่อความสะดวกสบาย ดูกว้างขวางและผ่อนคลายด้วยดีไซน์ที่เรียบง่าย “Gliding Wing” ห้องโดยสารกว้าง ไม่อึดอัด นั่งสบายทั้งด้านหน้าและหลัง การตกแต่งเดินตะเข็บด้ายสีฟ้าที่เบาะนั่งทำให้ดูแปลกไปอีกแบบ แผงแดชบอร์ดและที่พวงมาลัย ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ส่วนเบาะนั่งฝั่งคนขับออกแบบตามสรีระของคนเอเชียและยุโรป ปีกเบาะกระชับลำตัว ถือว่ารถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้ใช้วัสดุคุณภาพดีหรูหราระดับหนึ่ง และเมื่อเปิดฝากระโปรงท้ายจะมีพื้นที่ความจุ 435 ลิตร วางกระเป๋าเดินทางใบใหญ่แบบวางแนวตั้งได้ 3 ใบสบายๆ หรือบางคนชอบแอดเวอนเจอร์ก็สามารถวางจักรยานพับได้ 2 คัน และเมื่อพับเบาะหลัง ซึ่งเป็นแบบแยกส่วน 60:40 จะมีพื้นที่เพิ่มมากขึ้นเป็น 1,176 ลิตร ถือว่าเป็นรถที่ตอบโจทย์การมีพื้นที่ใช้สอยเพื่อเดินทางแบบครอบครัว
ภายในออกแบบเพื่อความสะดวกสบาย
Nissan Leaf เป็นรถยนต์ไฟฟ้า EV ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า AC Synchronous electric motor ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า (PS) ที่ 3,283 – 9,795 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร ที่ 0 – 3,283 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ Single Speed ปล่อย CO2 0g./km. (Zero Emission) เนื่องจากเป็นรถยนต์ที่ใช้ไฟฟ้าล้วน มาพร้อมแบตเตอรี่ Advanced Lithium-ion (Li-ion) ที่มีความจุ 40 kWh เติมพลังงานด้วยการเสียบปลั๊กชาร์จไฟ โดยสามารถไปได้ไกลถึง 311 กิโลเมตร ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง โดยใช้ระยะเวลาในการชาร์จไฟฟ้าที่เป็นระบบชาร์จไฟบ้าน 6.6 KW ใช้เวลาชาร์จ 6 ชั่วโมง ระบบชาร์จไฟบ้าน 3.6 KW ชาร์จ 12 ชั่วโมง ในสถานีชาร์จไฟให้รถยนต์ไฟฟ้าได้ถูกติดตั้งไปแล้วกว่า 244 จุด ทั่วประเทศ และยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จไฟ
Nissan Leaf ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า AC Synchronous electric motor
อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญ เทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมใหม่ตามแนวคิดอินเทลลิเจนท์ โมบิลิตี้ อย่าง ProPILOT ถูกออกแบบเพื่อใช้ในการขับบนช่องจราจรเดียวบนทางหลวง โดยสามารถเปิดใช้งานได้ทันที ด้วยการกำหนดความเร็วที่ต้องการและระยะทางเท่านั้น ,ProPILOT Park ฟังค์ชั่นช่วยจอดอัตโนมัติโดยไม่ต้องจับพวงมาลัยหรือเหยียบแป้นควบคุมนั่นเอง โดยที่ ProPILOT Park สามารถจอดเทียบข้างและถอยเข้าช่องจอด ทั้งแบบเดินหน้าหรือถอยหลังก็ได้ และ e-Pedal นวัตกรรมที่เปลี่ยนรูปแบบการขับได้อย่างสิ้นเชิงด้วยการเร่งความเร็ว ลดความเร็ว และหยุดนิ่ง ด้วยการเพิ่มหรือลดแรงกดดันที่ใช้กับคันเร่งเท่านั้น เมื่อปล่อยคันเร่งรถจะลดความเร็วจนถึงหยุดนิ่ง นิ่งแบบนิ่งสนิท และจังหวะที่ลดความเร็วจะรู้สึกเหมือนกดแป้นเบรกราวๆ 30% แม้กระทั่งบนทางลาดชันก็ไม่จำเป็นต้องกดแป้นเบรก ซึ่งการลดความเร็วนี้จะรู้สึกได้ถึงแรงฉุด
พร้อมเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมใหม่ตามแนวคิดอินเทลลิเจนท์ โมบิลิตี้
Nissan Leaf 2018 ถือเป็นรถที่จะเปลี่ยนทุกยานยนต์ที่คุณเคยรู้จัก ด้วยการเป็นรถยนต์ไฟฟ้า ที่ผสมผสานเทคโนโลยีไฮเทคสุดล้ำ ทำให้รถ Nissan Leaf น่าจะกลายเป็นเพื่อนร่วมทางที่รู้ใจได้ไม่ยาก และล้ำสมัยกว่าที่เคย ไม่ว่าจะเป็นระบบอำนวยความสะดวกในการขับขี่ หรือระบบความปลอดภัย ซึ่งช่วยสร้างความมั่นใจในการขับขี่ได้ดีพอสมควร
เทคโนโลยีล้ำสมัยใน Nissan Leaf 2018
ในส่วนของสีตัวถัง Nissan Leaf 2018 มีให้เลือกทั้งสีแบบ Mono-tone และ Two-tone ได้แก่ สีขาว Brilliant White Pearl, สีขาว Brilliant White Pearl / หลังคาสีน้ำเงิน Aurora Flare Blue Pearl, สีขาว Brilliant White Pearl / หลังคาสีดำ Super Black, สีดำ Super Black, สีดำ Super Black / หลังคาสีเทา Dark Metal Grey, สีส้ม Tangerine Orange, สีเหลือง Sunlight Yellow, สีฟ้า China Blue, สีเขียวอ่อน Spring Light Green, สีเทา Dark Metal Gray, สีน้ำเงิน Aurora Flare Blue Pearl, สีแดง Radiant Tread, สีเงิน Brilliant Silver
Nissan Leaf 2018 รถพลังไฟฟ้าที่ครองใจหลายคน
สำหรับราคาเริ่มต้นที่ 1,990,000 บาท ซึ่งคาดว่าในช่วงแรกของการเปิดตัว Nissan ประเทศไทยจะนำ Nissan Leaf เข้ามาทำตลาดก่อน จากนั้นภายหลังจึงจะเริ่มไลน์ผลิตในประเทศ หากใครสนใจอยากสัมผัสตัวจริงก็สามารถไปดูได้ที่ในงาน Motor Expo 2018 : 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม นี้ @ Challenger Hall 1-3 เมืองทองธานี