เมื่อปลายปี 61 ที่ผ่านมาทางค่าย Isuzu ก็ได้ปล่อยรถ 6 ล้อขนาดกลางออกมานั่นก็คือ ISUZU FRR210 ถ้าเรานับกันจนถึงตอนนี้ก็เป็นเวลาไม่นานมากนัก แต่รถยนต์รุ่นนี้ก็ได้ถูกพูดถึงและวิพากวิจารณ์จากผู้ใช้รถจริงอย่างมากมายและยังนำไปเปรียบกับรถยนต์ 6 ล้ออย่าง HINO FC210 งานนี้เราต้องไปดูกันแล้วล่ะค่ะว่ารุ่นไหนเขาจุดเด่นอะไรที่ต่างกัน
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ชาว Chobrod วันนี้เดี๊ยนก็กลับมาพร้อมกับคอนเทนต์ดีๆ อีกเช่นเคย และวันนี้ก็ถึงคิวของ ISUZU FRR210 ที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าแห่งรถบรรทุกในขณะนี้ และยังเป็นที่พูดถึงในวงการรถยนต์กันอีกด้วย โดยเจ้า ISUZU FRR210 ก็ได้มีการถูกพูดถึงในแง่มุมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของจุดเด่น – จุดด้อย แต่ที่ถูกพูดถึงมากที่สุดเลยคือการเปรียบเทียบสมรรถนะรถยนต์ค่ะ ซึ่งจะเป็นรุ่นไหนไปไม่ได้นอกจากรถยนต์ที่มีสมรรถนะใกล้เคียงกันอย่าง HINO FC210 รถบรรทุก 6 ล้อขนาดกลางทั้งสองรุ่นนี้นั้นได้ขึ้นชื่อว่าเป็นรถ 6 ล้อกลางที่มีสมรรถนะแรงสูง เอาเป็นว่าเราไปดูกันดีกว่าค่ะว่าทั้งสองรุ่นนี้ถ้าเปรียบเทียบออกมาแล้วรุ่นไหนจะดีกว่าและด้อยกว่ากัน
ISUZU FRR210
HINO FC210
ดูเพิ่มเติม
>> HINO คาด “ตลาดรถบรรทุก”เมืองไทยแข่งดุเดือดแน่
>> Isuzu King of Trucks ประเทศไทย เปิดตัวรถบรรทุก 6 ล้อขนาดกลางรุ่นใหม่ Isuzu FRR 2018
สิ่งที่ทั้งสองรุ่นนี้มีเหมือนกันก็คือเครื่องยนต์นั่นเองค่ะ ทั้งสองรุ่นนี้มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซล 4 จังหวะ 16 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ โอเวอร์เฮดแคมชาฟท์แบบ ไดเร็คอินเจ็คชั่น เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ ทั้งคู่ ส่วนในเรื่องของแรงม้านั้น HINO FC210 เป็นผู้ชนะกินขาดไปเลย เพราะแรงม้าของนางนั้นอยู่ที่ 210 / 2500 รอบต่อนาที ในขณะที่ FRR 210 นั้นอยู่ที่ 210/2600 รอบต่อนาที อีกทั้งความจุถังน้ำมันนั้นทางฝั่ง HINO FC210 ก็มีความจุที่ดีกว่า FRR210 อยู่ที่ 200 ลิตรค่ะ ถ้าเปรียบเทียบกันแบบนี้แล้วแน่นอนว่า HINO มีสมรรถนะที่ดีกว่า ISUZU FRR210 แต่ก็ไม่ได้ดีเด่ เกินตัวไปแต่อย่างใดแค่บางอย่างเยอะกว่านิดหน่อยเท่านั้นเอง ถ้าอย่างนั้นเรามาดูสรุปภาพรวมกันอีกครั้งนึงค่ะเพื่อความชัดเจน
HINO FC210 สมรรถนะดีกว่า ISUZU FRR210 ในหลายๆ ด้าน
โดยภาพรวมแล้ว FC210 สมรรถนะค่อนข้างจะดีกว่า FRR210 แต่ก็ใช่ว่า FRR 210 จะไม่ดีนะคะ เพราะทั้งสองรุ่นนี้สมรรถนะออกมาใกล้เคียงกันจริงๆ จะเรียกว่าเป็นแฝดเลยก็ได้ค่ะ โดยทาง FC210 จะมีกระความจุกระบอกสูบที่เล็กกว่า FRR 210 แต่ไม่ได้เล็กมากถึงขนาดนั้นนะคะ โดย FRR 210 จะมีความจุอยู่ที่ 5,193 cc ในขณะที่ FC210 นั้นมีความจุอยู่ที่ 5,123 cc ถัดมาเป็นเรื่องของอัตราการอัดที่ FRR ทำได้ดีกว่า FC210 ที่ 17.5 ค่ะ และที่สำคัญคือ FRR 210 มีน้ำหนักที่เบากว่า FC210 เพราะฮีโน่พี่แกจะหนักถังน้ำมัน ดังนั้นเวลาขับขี่หรือขนของเยอะๆ FRR 210 ชนะแบบตัวปลิวไปเลยค่ะ
ISUZU FRR210 มีน้ำหนักที่เบากว่าสามารถขนของได้ค่อนข้างเยอะ
*สนใจซื้อรถบรรทุก Suzuki Carry มือสอง, รถบรรทุกHino มือสองราคาสวยๆ กดดูที่นี่ได้นะครับ
ส่วนทาง FC210 สามารถทำแรงม้าได้สูงเท่ากับ FRR 210 แต่ว่ารอบเครื่องของ FRR 210 นั้นต่ำกว่า FC210 อยู่ที่ 210/2,500 รอบต่อนาทีและ FRR 210 อยู่ที่ 210/2,600 รอบต่อนาทีค่ะ ทั้งนี้ FC210 ก็ยังมีสมรรถนะในการไต่ทางชันได้ดีกว่า FRR 210 เล็กน้อย มีถังน้ำมันใหญ่กว่าและรถก็ค่อนข้างจะหนักกว่า FRR 210 ส่วนรูปลักษณ์การออกแบบนั้นเดี๊ยนขอให้คะแนน FC210 ค่ะเพราะว่าหน้านางดูเก๋กว่า FRR 210 โดยนางมาพร้อมกับ ไฟ LED Daytime running light นั่นเอง
HINO FC210 หน้าตาเก๋และดูเท่มากกว่า ISUZU FRR210
สรุปในด้านของการใช้งาน การใช้งานของผู้ใช้แต่ละคนนั้นก็จะแตกต่างกันออกไป โดยผู้ใช้ส่วนมากก็จะตอบตามความรู้สึกของจนเอง ถ้าสำหรับเดี๊ยน เดี๊ยนคิดว่า ใครที่ต้องใช้รถ 6 ล้อแบบเน้นการใช้งานที่ต้องลุย บ่อยๆ หรือไปในทางลาดชัดบ่อยครั้ง เดี๊ยนจะขอแนะนำให้เลือก HINO FC210 จะเหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุดค่ะ เพราะว่า ISUZU FRR210 เขาจะมีน้ำหนักที่เบากว่าและหากว่าขะเอารถที่มีน้ำหนักเบากว่าไปลุยในการใช้งานหนักๆ นั้น รถยนต์มันจะเกิดอาการฝืนเอาได้ ส่วนใครที่เน้นการใช้งานขนย้ายในกรุงเทพฯหรือถนนเรียบๆ ทางลาดธรรมดา ISUZU FRR210 เหมาะสมที่สุดค่ะ เพราะด้วยน้ำหนักตัวที่เบา สามารถจุของได้ค่อนข้างจะเยอะพอสมควรเพราะฉะนั้นเลือก FRR 210 จะดีที่สุดค่ะ สำหรับคนที่ต้องใช้ในถนนปกติไม่ได้ลุยอะไรมากมาย แต่รุ่นนี้เขาขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้าแห่งบ่อดินเลยล่ะค่ะเพื่อนๆ ถึงแม้จะเป็นทางลาดแต่ถ้าหากถนนไม่เรียบ รถคันนี้ก็สามารถฝ่ามันไปได้อย่างดีเลยทีเดียวล่ะค่ะ
ISUZU FRR210 เหมาะกับทางลาดที่ไม่ได้ลุยอะไรมากนักแต่ถ้าหากเจอหลุมบ่อดินล่ะก็ผ่านไปได้สบายๆ ด้วยฉายาที่ว่า "เจ้าแห่งบ่อดิน"
HINO FC210 เหมาะสมกับผู้ที่ใช้งานหนักแบบสมบุกสมบันเพราะรุ่นนี้สามารถขึ้นทางชันได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว
ส่วนในเรื่องของสมรรถนะนั้น สองรุ่นนี้ไม่ได้มีอะไรแตกต่างกันมากมายเลยค่ะเพื่อนๆ ต่างกันแค่อย่างละนิดอย่างละหน่อย ไม่ได้มีตัวไหนด้อยไปกว่าใคร แค่ขึ้นอยู่กับการใช้งานและพฤติกรรมของและบุคคลเท่านั้นค่ะ ว่าจะใช้งานในรูปแบบและลักษณะแบบไหน พฤติกรรมการใช้เป็นอย่างไร และวันนี้สิ่งที่เดี๊ยนเอามาเปรียบเทียบกันนั้นก็เป็นข้อบ่งชี้ที่เดี๊ยนเอามาบอกกล่าวเพื่อนๆ ในการตัดสินใจซื้อรถทั้งรุ่นนี้มากขึ้นเท่านั้นค่ะ และสำหรับวันนี้เดี๊ยนก็ต้องขอลาไปก่อน พบกันใหม่คอนเทนต์หน้า สำหรับวันนี้ สวัสดีค่ะ
ดูเพิ่มเติม
>> ยอดขายรถกระบะเดือน ม.ค. เติบโตสูงขึ้นกว่าปี 2561 มากถึง 20% !!
>> เมษาฯนี้มาแน่ เปิดตัว แอพฯใหม่ช่วยเคลมประกันรถยนต์ง่ายขึ้น
ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้