ยอดขายรถกระบะเดือน ม.ค. เติบโตสูงขึ้นกว่าปี 2561 มากถึง 20% !!

ตลาดรถยนต์ในประเทศ | 22 ก.พ 2562
แชร์ 0

ทางสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยหรือ ส.อ.ท. ได้ชี้ว่า เดือนมกราคม 2562 ที่ผ่านมานี้ยอดขายรถกระบะนั้นสูงกว่าปี 61 มากถึง 3.4 หมื่นคัน ซึ่งนั่นชี้ให้เห้นชัดว่ายอดขายรถยนต์ในปีนี้รวมแล้วโตขึ้นกว่าปี 61 มากขึ้นถึง 20%

ยอดขายรถกระบะเดือน ม.ค. เติบโตสูงขึ้นกว่าปี 2561 มากถึง 20% !!

ยอดขายรถกระบะเดือน ม.ค. เติบโตสูงขึ้นกว่าปี 2561 มากถึง 20% !!

ยอดขายรถกระบะเดือน ม.ค. เติบโตสูงขึ้นกว่าปี 2561 มากถึง 20% !!

จากรายงานล่าสุด นาย สุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ได้เผยให้เห็นชี้ชัดว่าภาพรวมยอดขายรถยนต์ภายในประเทศเดือน มกราคม 2562 นี้มีจำนวนทั้งสิ้น 78,061 คัน ซึ่งยอดขายเพิ่มขึ้นจากเดือน มกราคม ปี 61 17.3% ด้วยกัน โดยยอดขายรถกระบะนั้นเพิ่มสูงขึ้นถึง 22.9% หรืออยู่ที่ 34,786 คันด้วยกัน ทั้งที่รถกระบะนั้นก็ไม่ใช่รถยนต์ขนาดเล็กที่มีขนาดเครื่องยนต์และราคาเดิม แต่ในปีนี้ก็มีผู้ที่สนใจซื้อและจองรถกระบะเป็นจำนวนมาก นั่นสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มที่จะปรับตัวดีขึ้น การช่วยเหลือผู้ที่มีรายได้น้อยและเกษตรกรนั้นส่งผลดี ความเชื่อมั่นในภาคอุตสาหกรรมและผู้บริโภคก็มีเพิ่มขึ้นไปด้วย

ดูเพิ่มเติม
>> โรงแรม มิลเลนเนียม ฮิลตัน กรุงเทพ เปิดตัวโปรเจค รถลีมูซีนไฟฟ้า 100% ครั้งแรกในไทย
>> Maserati ไม่ธรรมดาปักธงโต 100% หวังชิงส่วนแบ่งตลาดซูเปอร์คาร์เมืองไทย

ยอดขายรถกระบะเดือน ม.ค. เติบโตสูงขึ้นกว่าปี 2561 มากถึง 20% !!

ตามโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของภาครัฐและการลงทุนของภาคเอกชนนั้นเพิ่มขึ้นประกอบกับมีการนำรถยนต์รุ่นใหม่เข้ามา ดังนั้นการครอบครองรถยนต์คันแรกครบ 5-6 ปีนั้นจึงเป็นเวลาที่ผู้บริโภคเริ่มจะหาซื้อรถยนต์รุ่นใหม่ทดแทนรถยนต์คันเก่า ส่วนในเรื่องของยอดขายในตลาดของรถจักรยานยนต์นั้นก็มียอดขายที่ลดลง 148,917 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันของปีก่อนถึง 4% แต่ยอดขายเพิ่มขึ้นในเดือนธันวาคม 2561 ที่ผ่านมาอยู่ที่ 8.5 %

 นาย สุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) 

ทั้งนี้ยอดการผลิตในเดือน มกราคม 2562 มีทั้งสิ้น 179,595 คันเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อน 8.06% จากการผลิตรถกระบะเพื่อส่งออกเพิ่มขึ้น 9.61% และมีการผลิตรถยนต์นั่งและรถกระบะเพื่อจำหน่ายในประเทศเพิ่มมากขึ้น8.06% และเพิ่มขึ้นจากเดือนธ.ค.2561 ที่ 6.05% ส่วนยอดส่งออกอยู่ที่ 81,583 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว 0.59% ซึ่งลดลงด้วยกันทุกตลาดไม่ว่าจะรถยนต์หรือจักรยานยนต์ เนื่องจากว่าเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้านั้นชะลอตัวลง ยกเว้นในตลาดเอเชีย ตลาดตะวันออกกลาง และตลาดอเมริกาเหนือ โดยมูลค่าส่งออกทั้งหมดนั้นอยู่ที่ 40,816.86 ล้านบาท ลดลงจากเดือนเดียวกันของปีก่อน 2.85% ด้วยกัน

ขณะที่ยอดการผลิตเดือนม.ค.2562 มีทั้งสิ้น 179,595 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อน 8.06% จากการผลิตรถกระบะเพื่อส่งออกเพิ่มขึ้น 9.61% และผลิตรถยนต์นั่งและรถกระบะเพื่อจำหน่ายในประเทศเพิ่มขึ้น 8.06% และเพิ่มขึ้นจากเดือนธ.ค.2561 ที่ 6.05% ส่วนยอดส่งออกอยู่ที่ 81,583 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันของปีก่อน 0.59% ลดลงทุกตลาด เนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าที่ชะลอตัวลง ยกเว้นตลาดเอเชีย ตลาดตะวันออกกลาง และตลาดอเมริกาเหนือ โดยมีมูลค่าส่งออก 40,816.86 ล้านบาท ลดลงจากเดือนเดียวกันของปีก่อน 2.85%

ยอดขายรถกระบะเดือน ม.ค. เติบโตสูงขึ้นกว่าปี 2561 มากถึง 20% !!

ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย 39,674 คัน เพิ่มขึ้น 20%

อันดับที่ 1 โตโยต้า 15,864 คัน เพิ่มขึ้น     72.1% ส่วนแบ่งตลาด 40.0%

อันดับที่ 2 อีซูซุ 11,721 คัน เพิ่มขึ้น     4.2% ส่วนแบ่งตลาด 29.5%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด 4,129 คัน ลดลง     12.9% ส่วนแบ่งตลาด 10.4%

อย่างไรก็ดี การส่งออกรถกระบะไปตลาดรถตะวันออกกลางนั้นก็เริ่มจะมีจำนวนที่มากขึ้น ส่งผลให้ไทยต้องเร่งปรับตัวหาตลาดใหม่ๆ ส่วนกรณีที่สหรัฐกีดกันทางการค้าจะส่งผลต่อการส่งออกรถยนต์และชิ้นส่วนนั้นทางนาย รพงษ์เห็นว่า ผลกระทบตรงนี้น้อยมาก เพราะไทยส่งออกฯไปสหรัฐเพียงปีละประมาณ 2% เท่านั้นเอง จึงไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับตลาดรถยนต์ในไทยมากเท่าใดนัก

Chobrodขอฝากความรู้เกี่ยวกับรถยนต์ไว้เพียงเท่านี้เเละคราวหน้าเรื่องอะไรติดตามไปพร้อมกันเลยนะครับ