รถกระบะ 4 ประตู ยี่ห้อไหนดี ที่จะตอบโจทย์ทั้งในเรื่องของการบรรทุก สมรรถนะ และมอบความสะดวกสบายในการโดยสารให้ผู้ใช้งาน ?
รถกระบะ 4 ประตู ไม่เพียงแต่จะช่วยให้ผู้ขับขี่มีทัศนวิสัยในการขับขี่ สามารถมองทางได้ไกลแล้ว ยังมีตัวถังสูงสามารถขับลุยน้ำท่วมได้ดี เจอถนนลูกรังหรือทางขรุขระก็สามารถขับลุยได้อย่างไม่มีปัญหา นอกจากนี้ ยังมีสมรรถนะการขับขี่ที่ดี ตอบสนองได้เร็ว แถมส่วนใหญ่ยังเป็นรุ่นท็อป ๆ ที่ให้ออปชันอำนวยความสะดวก ระบบความบันเทิง และเทคโนโลยีความปลอดภัยมาแบบเต็มเม็ดเต็มเหนี่ยวอีกด้วย กระบะ 4 Door จึงเป็นตัวเลือกต้น ๆ ของใครหลาย ๆ คนที่กำลังมองหากระบะเอาไว้ใช้งาน แล้วควรเลือกรถ กระบะ รุ่น ไหน ดี ? เรามีคำแนะนำมาฝาก
หากถามว่ารถ กระบะ 4 ประตู ยี่ห้อ ไหน ดี ? แน่นอนว่าตัวเลือกแรก ๆ จะต้องนึกถึง Toyota Hilux Revo รุ่น Double Cab (โตโยต้า รีโว่ ร็อคโค่ รุ่นดับเบิลแค็บ) กระบะรุ่นยอดนิยมสุดถึกทน โดดเด่นด้วยดีไซน์แข็งแกร่งบึกบึน มากับห้องโดยสารภายในที่กว้างขวาง เก็บเสียงได้ดี ครบครันด้วยออปชันอำนวยความสะดวกและระบบความบันเทิง นอกจากนี้ยังมีช่วงล่างที่แข็งแรงที่ถูกออกแบบให้เหมาะกับสภาพท้องถนนของประเทศไทย ตอบโจทย์การบรรทุกหนัก รวมถึงเครื่องยนต์ที่ได้รับการปรับปรุงให้ตอบสนองได้ดีขึ้น 2 ทางเลือก ได้แก่
เครื่องยนต์ขนาด 2.4 ลิตร 2,393 ซีซี. 4 สูบ แถวเรียง 16 วาล์ว DOHC VN Turbo และ Intercooler ส่งกำลังสูงสุด 150 แรงม้า 3,400 รอบต่อนาที แรงบิด 400 นิวตันเมตร ที่ 1,600 - 2,000 รอบต่อนาที ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ พร้อม Sequential Shift ขับเคลื่อน 2 ล้อ
เครื่องยนต์ ขนาด 2.8 ลิตร 2,755 ซีซี. 4 สูบ แถวเรียง 16 วาล์ว DOHC VN Turbo และ Intercooler ส่งกำลังสูงสุด 204 แรงม้า 3,400 รอบต่อนาที แรงบิด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,600 - 2,800 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ พร้อม Sequential Shift ขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อม Differential Lock ที่เฟืองท้าย
โดยรุ่น Double Cab จะมีทั้งหมด 2 รุ่นย่อยให้เลือก ได้แก่
ขอแนะนำรถปิกอัปขวัญใจคนไทยที่มียอดขายอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย อย่าง Isuzu D-Max V-Cross (อีซูซุ ดีแม็กซ์ วีครอส) กระบะสไตล์ออฟโรดที่อัดแน่นไปด้วยความแข็งแกร่งดุดัน มาพร้อมช่วงล่างแน่น ๆ เหมาะแก่การบรรทุก ตอบโจทย์การใช้งานในเชิงพาณิชย์ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ขนาด 3.0 ลิตร 2,999 ซีซี. 4 สูบ แถวเรียง 16 วาล์ว DOHC ระบายความร้อนด้วยน้ำ คอมมอนเรลไดเร็กอินเจ็กชัน พร้อม VGS เทอร์โบ และอินเตอร์คูลเลอร์ ส่งกำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิด 450 นิวตันเมตร ที่ 1,600 - 2,600 รอบต่อนาที จับคู่ทำงานกับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ และเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ และ Rev Tronic
พร้อมมอบสะดวกสบายด้วยอุปกรณ์ที่ให้มาแบบครบครัน และห้องโดยสารกว้างขวางที่เพียงพอต่อการใช้งาน นอกจากนี้ ยังหาอะไหล่ง่าย จะอู่ไหนก็สามารถซ่อมได้อย่างเชี่ยวชาญ เพราะคนใช้งานเยอะนั่นเอง สำหรับรุ่น 4 ประตู จะแบ่งเป็น 3 รุ่นย่อย ประกอบด้วย
เมื่อเปรียบเทียบ รถ กระบะ 4 ประตูรุ่นอื่นจากค่ายยอดฮิตติดลมบนแล้ว Nissan Navara PRO-4X / PRO-2X (นิสสัน นาวารา โปร 4 เอ็กซ์ / โปร 2 เอ็กซ์) อาจไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร แต่ก็จัดว่าน่าใช้ไม่แพ้กัน ดีไซน์ภายนอกได้รับการปรับแต่งให้สปอร์ตและทันสมัยมากขึ้นทั้งบริเวณด้านหน้าและหลัง กระบะท้ายถูกยกให้สูงขึ้น พร้อมย้ายจุดยึดสัมภาระให้ต่ำลง เพื่อให้ตึงของขนาดเล็กได้ดีกว่าเดิม
นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มออปชันใหม่ ๆ เข้ามาอำนวยความสะดวกและเสริมด้านความปลอดภัยด้วยเช่นกัน มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 2.3 ลิตร 2,298 ซีซี. 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว เทอร์โบคู่ อินเตอร์คูลเลอร์ คอมมอนเรลไดเร็กอินเจ็กชัน มอบพละกำลัง 190 แรงม้า ที่ 3,750 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ที่ 1,500 - 2,500 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด พร้อมโหมดแมนนวล ใช้ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย ได้แก่
Ford Ranger Raptor (ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็ปเตอร์) หนึ่งตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่กำลังมองหากรถกระบะสักคัน แต่ไม่รู้จะเลือกรถ กระบะ รุ่น ไหน ดี ? ซึ่งในรุ่นล่าสุดมีการปรับปรุงดีไซน์ให้บึกบึนตอบโจทย์ความเป็นออฟโรดมากกว่าเดิม ห้องโดยสารภายในออกแบบใหม่ให้มีความสปอร์ตมากขึ้น ตามที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเครื่องบินรบ F-22 พร้อมติดตั้งออปชันอำนวยความสะดวกมาอย่างครบครัน
ส่วนขุมพลัง ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร V6 Twin-Turbo EcoBoost 4WD 10AT ส่งกำลังสูงสุด 397 แรงม้า ที่ 5,650 รอบต่อนาที แรงบิด 583 นิวตันเมตร ที่ 3,500 รอบต่อนาที ทำงานร่วมกับเกียร์ออโตเมติก 10 สปีด ขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ Full Time 4WD และเพิ่มโหมดการขับขี่เป็น 7 โหมด เพื่อให้ตอบรับได้กับทุกสถานการณ์ ได้แก่ โหมดปกติ โหมดสปอร์ต โหมดทางลื่น โหมดหิน โหมดทราย โหมดโคลน และโหมดบาฮา ที่เหมาะสำหรับการลุย โดยมีให้เลือกเพียง 1 รุ่น คือ
ปิดท้ายด้วยรถกระบะ 4 ประตูอย่าง Mitsubishi Triton ATHLETE (มิตซูบิชิ ไทรทัน แอทลีท) ตัวบอดี้มีความสปอร์ตจัดจ้าน เสริมความโฉบเฉี่ยวด้วยชุดแต่งพิเศษ ห้องโดยสารภายในได้รับการตกแต่งใหม่ เพิ่มออปชันอำนวยความสะดวก ระบบความบันเทิง และเทคโนโลยีความปลอดภัยมาแบบจัดเต็มสมเป็นตัวท็อปของรุ่น
สำหรับขุมพลัง ใช้เครื่องยนต์ขนาดใหญ่ที่ให้การตอบสนองได้อย่างดี ขนาด 2.4 ลิตร 2,442 ซีซี. 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว MIVEC เทอร์โบแปรผัน อินเตอร์คูลเลอร์ ส่งกำลังสูงสุด 181 แรงม้า ที่ 3,500 รอบต่อนาที แรงบิด 430 นิวตันเมตร ที่ 2,500 รอบต่อนาที ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม Sport Mode ขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ แบบ SS4-II โดยจะมีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่นย่อย ได้แก่
รถกระบะ 4 ประตู ยังมีให้เลือกอีกหลายรุ่น ซึ่งแต่ละรุ่นจะมีจุดเด่นและจุดด้อยแตกต่างกันไป โดยราคาจะเริ่มตั้งแต่หลักแสนบาทไปจนถึงหลักล้านบาท ขึ้นอยู่กับออปชันและการตกแต่งที่ได้ แม้จะมีคันใหญ่ บรรทุกได้ดี แต่ก็สร้างความลำบากในการขับขี่พอสมควร โดยเฉพาะเมื่อต้องขับในเมือง ทางแคบ หรือในจุดที่จราจรหนาแน่น
อ่านเพิ่มเติม >>