ภาครัฐออกโครงการ "กระบะพี่ มีคลังค้ำ" ช่วยภาคธุรกิจขนาดเล็ก ค้ำการซื้อรถทำให้ไฟแนนซ์ผ่านง่าย มีรถใช้ทำมาหากิน

ประสบการณ์ซื้อขายรถยนต์ | 8 เม.ย 2568
แชร์ 0

เมษายน 2025 เริ่มแล้ว โครงการ “กระบะพี่ มีคลังค้ำ” นโยบายจากรัฐบาล เพื่อแก้ปัญหารถยนต์เพื่อการพาณิชย์ อาทิรถกระบะ รถบรรทุก สถาบันการเงินเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ เนื่องจากมีความกังวลในความเสี่ยงในการชำระหนี้ของ SME และราคารถมือสองที่มีราคาตกต่ำลง

โครงการ “กระบะพี่ มีคลังค้ำ” เริ่ม 1 เมษายน - 31 ธันวาคม 2025

รัฐบาลโดยบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) กระทรวงการคลัง ได้เดินหน้าขับเคลื่อนนโยบายช่วยเหลืออุตสาหกรรมยานยนต์ ผ่านมาตรการ “กระบะพี่ มีคลังค้ำ” เพื่อกระตุ้นตลาดรถยนต์ โดยเฉพาะรถยนต์เชิงพาณิชย์ที่ลดลงให้กลับมาฟื้นตัว ภายใต้วงเงินค้ำประกันในระยะแรก 5,000 ล้านบาทประกันในระยะแรก 5,000 ล้านบาท

โดยมีวงเงินค้ำประกันต่อรายสูงสุด 1.5 ล้านบาท โดยบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) จะค้ำประกันและจ่ายส่วนต่างของภาระหนี้กับราคาขายทอดตลาดให้กับสถาบันการเงินตามเงื่อนไข

ทั้งนี้ รัฐบาลจะเป็นผู้รับผิดชอบการออกค่าธรรมเนียมค้ำประกันให้ประชาชนใน 3 ปีแรก

ส่วนปีที่ 4-7 และรัฐบาลจะช่วยออกค่าธรรมเนียมค้ำประกันให้ ส่งผลให้ค่าธรรมเนียมค้ำประกันจะเหลือเพียง 1.5% ต่อปี

สามารถค้ำประกันนานสูงสุด 7 ปี หรือ 84 งวด โดยจะเริ่มเปิดรับคำขอตั้งแต่ 1 เมษายน ไปจนถึง 30 ธันวาคม 2568

รายละเอียดเงื่อนไขสำหรับผู้ต้องการที่ต้องเข้าร่วม โครงการ “กระบะพี่ มีคลังค้ำ”

สามารถแจ้งกับพนักงานขายหรือเซลลืที่บริการการขายได้เลยทันที สำหรับรถกระบะที่ใช้ในเชิงพาณิชย์ ได้แก่ ประเภท 4 ประตู และประเภท 2 ประตู ยกเว้นรถบรรทุก

  1. บุคคลธรรมดา (สัญชาติไทย) และนิติบุคคล (จดทะเบียนในประเทศไทย)
  2.  ประกอบกิจการโดยชอบด้วยกฎหมาย และต้องไม่ขัดกับศีลธรรมอันดี
  3. มีสินทรัพย์ถาวรไม่รวมที่ดินไม่เกิน 200 ล้านบาท
  4. เป็นลูกหนี้จัดชั้นปกติหรือจัดชั้นกล่าวถึงเป็นพิเศษตามเกณฑ์ข้อกำหนดของธนาคารแห่งประเทศไทย
  5. มีเอกสารหรือหลักฐานการยื่นรายการภาษีเงินได้ทั้งที่เป็น SMEs ประเภทนิติบุคคลธรรมดา ทั้งนี้กรณีบุคคลธรรมดา ประกอบธุรกิจเกษตรกรรม และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับเกษตรกรรม อนุโลมไม่ใช้เอกสารภาษี
  6. ผ่านการคัดกรองความเสี่ยงของลูกค้า ตามเกณฑ์ที่ บสย. กำหนด

นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  เปิดเผยว่า 

“มาตรการดังกล่าว จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 21,000 ล้านบาท ช่วยเหลือและสนับสนุนเศรษฐกิจไทยในหลายภาคส่วน และคาดว่าจะสามารถขายรถเพื่อการพาณิชย์ ได้กว่า 6,250 คัน สถาบันการเงินปล่อยสินเชื่อใหม่ได้กว่า 5,000 ล้านบาท ทำให้ลดความเสี่ยงและสร้างแรงจูงใจให้สถาบันการเงินในการปล่อยสินเชื่อ และช่วยกระตุ้นอุตสาหกรรมรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ หรือรถกระบะ และช่วยให้ผู้ผลิตยานยนต์และ Supply Chain เติบโตมากขึ้น

รัฐบาลมุ่งมั่นที่จะดูแลเศรษฐกิจไทยในทุกมิติ มาตรการ ‘กระบะพี่ มีคลังค้ำ’ ไม่เพียงช่วยให้ประชาชนมีโอกาสเป็นเจ้าของรถกระบะเพื่อประกอบอาชีพ แต่ยังช่วยพยุงอุตสาหกรรมยานยนต์ กระตุ้นการจ้างงาน และเสริมความมั่นคงให้เศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืน  ผู้สนใจโครงการนี้ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ บสย. Call Center 0 2890 999"

ตลาดรถมือสอง มีรถมากมายให้เลือกในราคาที่ถูกใจ