ผ่อนชำระค่างวดรถ นานเท่าไร จึงจะดีที่สุด
ผ่อนชำระค่างวดรถยาวเท่าไรดี ผ่อนกี่เดือนถึงจะเหมาะสม บทความนี้มีคำตอบ
ในยุคปัจจุบันนี้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ารถคือยานพาหนะที่มีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์เป็นอย่างมาก จึงทำให้ไม่ว่าใครก็ต่างที่จะอยากมีรถเป็นของตัวเอง ซึ่งการซื้อรถสักหนึ่งคันถือว่าไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่คิด โดยเฉพาะเศรษฐกิจในยุคนี้ยิ่งจะทำอะไรแล้วต้องคิดทบทวนก่อนให้ดีเสมอ เพราะการที่จะต้องใช้เงินจำนวนมากในการซื้อรถด้วยเงินสดก็ดูจะเป็นเรื่องที่ตัดสินใจได้ยากลำบาก หลายคนจึงให้ความสนใจในการผ่อนจ่ายรถเป็นรายเดือนที่เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินได้เป็นอย่างดี แล้วถ้าตัดสินใจที่จะผ่อนรถควร คำนวณค่างวด และ จ่ายค่างวดรถ กี่เดือนถึงจะดีที่สุด พร้อมข้อควรรู้ในการผ่อนรถแบบสบาย ๆ ตามไปหาคำตอบได้ในบทความนี้เลย
ผ่อนชำระค่างวดรถ นานเท่าไร จึงจะดีที่สุด
ยิ่งผ่อนน้อย ยิ่งเป็นเรื่องดี
หนึ่งปัจจัยที่มีผลอย่างมากต่อการคิดดอกเบี้ยคือ จำนวนงวดผ่อนชำระ ยิ่งเมื่อเราเลือกที่จะผ่อนนานหลายปีมากเท่าไร ดอกเบี้ยก็จะยิ่งเพิ่มสูงมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งจำนวนงวดที่นิยมกันส่วนมากจะอยู่ที่ประมาณ 48 เดือน เท่ากับ 4 ปี หรือ 60 เดือน เท่ากับ 5 ปี ซึ่งถ้าเลือกจำนวนงวดที่นานกว่านี้ก็จะยิ่งเป็นการสร้างดอกเบี้ยให้สูงขึ้นตามไปด้วย ทำให้ต้องจ่ายจำนวนเงินที่เกินราคาจริงเป็นหลายเท่าตัว
แต่ถ้าผู้ที่ต้องการซื้อรถแล้วผ่อนรถหมดเร็วก็จะยิ่งทำให้ดอกเบี้ยต่ำ เพราะการผ่อนชำระ 48 งวด การผ่อน 1-4 ปี จะใช้อัตราดอกเบี้ยเดียวกัน สามารถเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า 4 ปี เป็นระยะเวลาการผ่อนที่มีความคล่องตัวมากที่สุด ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินในแต่ละเดือนที่ผู้ผ่อนจะสามารถรับรู้ได้เองว่าไหวมากน้อยแค่ไหน
จำนวนเงินดาวน์เยอะยิ่งดี
สำหรับเงินดาวน์นั้นจะเป็นจำนวนเงินที่ผู้ซื้อรถจะต้องนำไปวางไว้ตอนซื้อรถ เพื่อเป็นเงินส่วนแรกในการชำระค่ารถ เมื่อหักลบกลบหนี้จากค่ารถแล้ว จำนวนเงินเหลือเท่าไรทางไฟแนนซ์จะนำยอดเงินที่เหลือมาคูณเปอร์เซ็นต์ดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อนำมาคิดยอดผ่อนชำระที่จะต้องจ่ายต่อเดือน จึงทำให้จำนวนเงินดาวน์เยอะเท่าไร ภาระในการผ่อนชำระในแต่ละเดือนก็จะยิ่งต่ำลงมากเท่านั้น
สิ่งที่คนจะออกรถควรรู้คือหากมีเงินสดก้อนใหญ่มาวางเป็นเงินดาวน์ไว้ตั้งแต่ต้นจะยิ่งเป็นผลดี เนื่องจากดอกเบี้ยรถยนต์เป็นดอกเบี้ยตายตัวที่หากมีการปิดบัญชีแบบจ่ายค่างวดคงค้างทั้งหมดแล้วจะได้ส่วนลดดอกเบี้ยคงค้างแบบขั้นบันได โดยที่ผู้ให้เช่าซื้อจะต้องลดดอกเบี้ยให้ผู้เช่าซื้อไม่น้อยกว่า 60% กรณีชำระค่างวดเกินกว่า 1 ใน 3 แต่ไม่เกิน 2 ใน 3 ของค่างวดทั้งหมด ผู้ที่ให้เช่าซื้อจะต้องลดดอกเบี้ยให้ผู้เช่าซื้อไม่น้อยกว่า 70% และถ้าชำระค่างวดเกินกว่า 2 ใน 3 งวดของค่างวดทั้งหมด ผู้ให้เช่าซื้อจะต้องลดดอกเบี้ยให้ผู้เช่าซื้อทั้ง 100% หรือไม่คิดค่าดอกเบี้ยนั่นเอง
เช็กประวัติตัวเองให้ดี
สำหรับใครที่อยากออกรถเป็นของตัวเอง นอกจากการตรวจเช็กรุ่นรถที่อยากได้แล้ว การตรวจเช็กประวัติของตัวผู้ซื้อเองก็เป็นเรื่องสำคัญ โดยตรวจเช็กว่ามีประวัติเสียหรือไม่ เช่น การติดเครดิตบูโรจากการผิดชำระหนี้บัตรเครดิต ผิดชำระหนี้สินเชื่อส่วนบุคคล เป็นต้น ถ้ามีเรื่องเหล่านี้ควรรีบทำเรื่องปิดให้เรียบร้อย หลังจากนั้นจะต้องทิ้งช่วงระยะเวลาให้นานเกิน 2 ปี ขึ้นไป ถึงจะสามารถเริ่มผ่อนรถได้ตามปกติ แต่ถ้าอดใจรอไม่ไหวแล้วอยากผ่อนรถเลยก็สามารถยื่นเรื่องกับทางไฟแนนซ์ได้ พร้อมกับวางเงินดาวน์ 40% ขึ้นไป แต่สุดท้ายแล้วทางไฟแนนซ์ก็จะพิจารณาเป็นกรณีของแต่ละบุคคลที่แตกต่างกันออกไป
อย่างไรก็ตาม จากคำถามที่ว่าผ่อนรถนานเท่าไรดีถึงจะเหมาะสม ซึ่งจำนวนงวดของแต่ละคนก็จะมีความสะดวกที่แตกต่างกัน บางคนชอบที่จะเลือกผ่อนนานเพราะมีความคิดว่าในอนาคตจะสามารถหาเงินเพื่อมาปิดยอดทั้งหมดได้สำเร็จ หรือบางคนอาจจะไม่ชอบจำนวนงวดที่เยอะ รีบผ่อนรีบหมดแล้วก็จบไป ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นผ่ารผ่อนในระยะสั้นหรือระยะยาว ขึ้นอยู่กับสภาพความคล่องตัวทางการเงินและความตั้งใจของผู้ซื้อเอง แต่ระยะเวลาที่เหมาะสมที่สุดจะอยู่ในช่วงประมาณ 4-6 ปีจะดีที่สุด
อ่านเพิ่มเติม
