ชอบรถมือสอง :: ย้อนดูประวัติศาสตร์ของ Civic รุ่นเอกลักษณ์คู่บารมีของ Honda

ประสบการณ์ซื้อขายรถยนต์ | 5 ก.ย 2560
แชร์ 26

แค่คำว่า “Civic” ไม่ว่าจะรถใหม่ป้ายแดงหรือรถมือสอง ถ้าคนจะเลือกซื้อรถเก๋งซีดานสักคันต้องมีรุ่นนี้อยู่ในหนึ่งตัวเลือกอย่างแน่นอน แต่จะมีใครรู้บ้างว่ารถรุ่นนี้จริงๆ แล้วมีผลิตมาแล้วถึง 10 Gen ถือว่าเป็นรุ่นแรกๆ คู่บารมีของ Honda มาอย่างยาวนาน

ตั้งแต่ปี 1973 กับการแนะนำตัวอย่างเป็นทางการให้โลกรู้จักกับชื่อ “Civic” ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวในทุกสภาพตลาดวงการรถยนต์โลก จนกลายมาเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์และตัวกลางในการถ่ายทอดนำเทคโนโลยีใหม่ๆ ของรถยนต์ไปไปสู่ผู้ใช้งาน

Honda Civic Gen 1 : 1972-1979

ช่วงแรกของ Honda กับรถแบบ 4 ล้อเพราะในตอนนั้นคนส่วนใหญ่จะรู้จัก Honda จากประเภทมอเตอร์ไซร์ซะมากกว่า การแนะนำ Civic ให้โลกได้รู้จักนั้นเป็นช่วงที่น้ำมันตลาดโลกกำลังขาดแคลนอย่างหนักพอดี

Civic ในยุคแรก
Civic ในยุคแรกจะเน้นขนาดรถที่กระทัดรัด ขับขี่คล่องตัว

การมี Civic ออกมาจึงกลายเป็นช่วงที่พอเหมาะพอเจาะสำหรับทางเลือกใหม่ของการหารถใช้งานที่ประหยัดน้ำมันกว่า ซึ่งมาพร้อมกับเครื่องยนต์ 4 สูบ 1,169 ซีซี กำลังสูงสุด 50 แรงม้า มีทั้งแบบเกียร์ออโต้และธรรมดา อัตราการบริโภคน้ำมันเพียง 17 กิโลเมตรต่อลิตร ซึ่งรูปทรงจะออกเป็นรถ Hatchback 2 ประตูขนาดเล็ก กระทัดรัดขับขี่คล่องตัว เหมาะกับขนาดเครื่องยนต์และกำลังม้าอย่างยิ่ง

Honda Civic Gen 2 : 1980-1983

มีการปรับขนาดรูปร่างให้ใหญ่ขึ้น ฐานล้อกว้างกว่าเดิม มีทั้งแบบ Hatchback และ Wagon ส่วนเครื่องยนต์ก็ปรับเพิ่มขึ้นเช่นกัน เป็นเครื่องยนต์ CVCC ความจุ 1,335 ซีซี กำลังม้าเพิ่มขึ้นเป็น 55 แรงม้า และเครื่องยนต์อีกตัวเป็นขนาด 1,488 ซีซี กำลังสูงสุด 67 แรงม้า ทำงานร่วมกับเกียร์ธรรมดา 4 และ 5 จังหวะและมีรุ่นออโต้ให้เลือกด้วยในแบบ 2 จังหวะ สรุปแล้วก็จะมีรุ่นเครื่องยนต์แบบ 1.3L และ 1.5L 

Gen 2 รูปทรงจะดูมีเหลี่ยมมากขึ้น
Gen 2 รูปทรงจะดูมีเหลี่ยมมากขึ้น

ต่อมาในปี 1981 ฮอนด้าก็ได้แนะนำ Civic ในรูปแบบของรถซีดานเป็นครั้งแรก พร้อมด้วยระบบเกียร์อัติโนมัติพัฒนาเป็น 3 จังหวะ มาพร้อมกับอัตราการสิ้นเปลืองที่ทำได้ดีอย่างน่าเหลือเชื่อเพียง  17 กม./ลิตร (ในเมือง) และ 23 กม./ลิตร (ไฮเวย์)

Honda Civic Gen 3 : 1984-1987

เปิดตัวในปี1983 จากนั้นในเดือนมิถุนายนปี 1984 จึงเริ่มทำตลาดในอังกฤษ ภายใต้แบรนด์โรเวอร์ โดยใช้ชื่อในการจำหน่ายว่า Rover 200 ระบบกันสะเทือนแบบคอยล์สปริง ส่วนด้านหลังเป็นทอร์ชั่นบาร์พร้อมคอยล์สปริง และได้เพิ่มรุ่นที่น่าสนใจอีกหนึ่งรุ่นนั้นคือ รุ่นรหัส Si ในการทำตลาดที่ญี่ปุ่น แก้ไขระบบต่างๆ พร้อมทั้งเครื่องยนต์ในแบบ DOHC 1.6L ให้พละกำลังมากถึง 130 แรงม้า

Gen 3 นี้เหลี่ยมตัด เห็นได้ชัดเจนมากขึ้น อิทธิพลการออกแบบตามกระแสโลก
Gen 3 นี้เหลี่ยมตัด เห็นได้ชัดเจนมากขึ้น อิทธิพลการออกแบบตามกระแสโลก

ต่อมาระบบขับเคลื่อน 4 ล้อได้เข้ามาอยู่ใน Civic เป็นครั้งแรกในรุ่น Shuttle กับการเข้า-ออกระบบขับ 4 แบบปุ่มกด หรือ Realtime Foul Wheel ที่สามารถปรับเป็นขับ 4 ได้ในขณะรถวิ่ง นอกจากนี้ยังเพิ่มรุ่น Quint Integra ที่มาในตัวถังแบบ Hatchback 3 ประตู

Honda Civic Gen 4 : 1988-1991

กับโฉมยอดนิยมของคนไทยอย่าง Civic EF ที่ยังพอมีให้เห็นบนท้องถนนอยู่บ้าง ซึ่งก็มีการพัฒนาเรื่องการออกแบบตัวบอดี้ให้ใหญ่ขึ้น ลู่ลมมากขึ้น มาพร้อมด้วยเครื่องยนต์แบบ DOHC 16 วาล์ว 1.5L 92 แรงม้าและในรุ่น sport ในอย่างรุ่น CRX Si เครื่องยนต์มีกำลังมากถึง 105 แรงม้าขนาด 1.6L ปรับเปลี่ยนช่วงล่างมาเป็นแบบปีกนกที่พัฒนามาจากรถแข่ง F1 ซึ่งให้ความตอบสนองในการขับขี่และการควบคุมอย่างแม่นยำดีกว่าเดิมมาก

Civic EF
Civic EF เป็นโฉมที่ยังพอมีให้เห็นอีกรุ่น ตามท้องถนน

ส่วนในเมืองไทยมีแค่เพียงรุ่นซีดาน 4 ประตู เครื่องยนต์ 1.5L SOHC 90 แรงม้า ที่เป็นแบบคาร์บูเรเตอร์ และรุ่นพิเศษ LX-S ที่เครื่องยนต์จะจัดจ้านกว่าเป็นขนาด 1.6L ที่ให้กำลัง 105 แรงม้า

Honda Civic Gen 5 : 1992-1995

ฮอนด้าได้พัฒนาเรื่องการออกแบบตัดส่วนที่เป็นเหลี่ยมมุมออกไป กลายมาเป็นความโค้งมนที่มากขึ้น จนแทบจะไม่เหลือความเป็น Gen ก่อนหน้าอยู่เลย รุ่นที่เป็นที่รู้จักของผู้ใช้รถชาวไทยกับรหัส EG หรือ Civic 3 Door ที่คุ้นเคยในหมู่วัยรุ่น ที่ได้รับความนิยมมาจนถึงทุกวันนี้ ถ้าที่ญี่ปุ่นถ้าเป็นรุ่น 4 ประตูจะเรียกว่า “Ferio” ส่วนรุ่นที่ทำตลาดในอเมริกาอย่างรุ่น CRX จะใช้ชื่อรุ่นว่า Del Sol

“Civic 3 door”
“Civic 3 door” ชื่อเรียกที่ติดปากคนไทย และเป็นที่นิยมของชาวซิ่งทั้งหลาย

รุ่นนี้มีการนำระบบหัวฉีด Vtec มาใช้กับรถ Civic ในรุ่นไมเนอร์เชนจ์ท้ายๆ นำร่องก่อนที่จะมีการเปิดตัว Gen ใหม่ด้วย

Honda Civic Gen 6 : 1996-2000

รหัสตัวถัง EK ซึ่งก็เป็นอีกรุ่นที่ได้รับความนิยมในหมู่คนเล่นรถชาวไทยอยู่จนถึงปัจจุบัน โดยรหัสทั้งหมด EK4, EK5, EK3, EJ6, EJ7,EJ8, EJ9, EM1 และ EK9 ได้ถูกออกแบบพัฒนาต่อเนื่องมาจาก Gen 5 ที่เน้นในเรื่องส่วนโค้งเว้ามากกว่าเดิม

EK มีฉายาเรียกรุ่นนี้กันว่า Civic ตาโต
EK มีฉายาเรียกรุ่นนี้กันว่า Civic ตาโต

เครื่องยนต์ยังคงเน้นที่ขนาด 1.6L เป็นหัวฉีด Vtec รีดกำลังออกมาได้มากขึ้นเป็น 115 แรงม้าพร้อมทั้งเริ่มมีการนำระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT เข้ามาใช้ มีการเพิ่มรุ่น Vtec LEV ซึ่งมีกำลังม้าถึง 127 แรงม้า ส่วนรุ่นแรงอีกรุ่นที่เป็นเครื่องยนต์ B16A 4สูบ DOHC Vtec ให้กำลังม้าสูงถึง 160 แรงม้า และ Civic Type R ที่เป็นตัวถัง Hatchback รหัส EK9 เครื่องยนต์ B16B รีดแรงม้าได้สูงที่สุดคือ 185 แรงม้า

Honda Civic Gen 7 : 2001-2005

ปรับเปลี่ยนจาก Gen ก่อนหน้านิดหน่อยเท่านั้น ที่ชัดๆ เลยก็คงจะเป็นไฟหน้า และไฟท้ายแต่รูปทรงของรถไม่แตกต่างจากเดิมมากเท่าไร กับรหัส ES ที่คนไทยจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เรียกกันว่ารุ่น ไฟท้าย Dimension ที่เป็นโฉมปรับปรุงเรียก Civic ตาเหยี่ยว และเป็น Civic รุ่นแรกที่มีเครื่องยนต์แบบ Hybrid เข้ามาเป็นตัวเลือกแต่ในไทยไม่มีนำเข้ามาขาย

Civic Gen 7 เครื่องยนต์ที่ขายในไทยเพิ่มขึ้นเป็น 1.7L
Civic Gen 7 เครื่องยนต์ที่ขายในไทยเพิ่มขึ้นเป็น 1.7L

ในเมืองไทยเครื่องยนต์ถูกปรับขึ้นมาอีกหน่อยเป็น 1.7L SOHC 120 แรงม้าและแบบ Vtec LEV 130 แรงม้า ที่มีให้เลือก ทั้งแบบเกียร์ธรรมดาและอัตโนมัติ 4 จังหวะ ระบบกันสะเทือนหน้าเป็นแม็กเฟอร์สันสตรัต ส่วนด้านหลังยังคงเป็นปีกนก 2 ชั้น และมีการเพิ่มขนาดเครื่องยนต์เป็น 2.0L ในปี 2003 กับรหัสเครื่องยนต์ตัวโหด K20A 155 แรงม้า

Honda Civic Gen 8 : 2006-2011

Civic ที่ทำตลาดในเมืองไทยในรหัสตัวถัง FD ที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากผู้ใช้งานในไทย การออกแบบเป็นที่ยอมรับทั้งภายนอกและภายใน ที่มีการนำหน้าปัดดิจิตอลแบบ  2 ระดับมาใช้เป็นรุ่นแรก

FD ก็อีกโฉมที่ได้รับความนิยมมากเช่นกัน
FD ก็อีกโฉมที่ได้รับความนิยมมากเช่นกัน

รุ่นทำตลาดในเมืองไทยประกอบด้วย 1.8L i-VTEC SOHC 16 วาล์ว 140 แรงม้า และ 2.0L i-VTEC DOHC 16 วาล์ว 155 แรงม้า มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดาและอัตโนมัติ 5 จังหวะ ซึ่งหลังจากเปิดตัวโฉมแรกช่วงปี 2005 ก็มีการปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ในปลายปี 2009

Honda Civic Gen 9 : 2011-2015

เพิ่มความโฉบเฉี่ยวปราดเปรียวมากขึ้น กับรหัส FB ที่เครื่องยนต์ปรับมาให้รองรับกับน้ำมัน E85 ได้ สามารถช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้เยอะ มีเทคโนโลยี I-Mid ที่มีการแสดงข้อมูลอัฉริยะผ่านหน้าจอแสดงผล ในช่วงเปิดตัวเป็นช่วงที่เฉลิมฉลองยอดจำหน่ายรวมของรุ่น Civic ครบ 20 ล้านคัน

FC พัฒนาเรื่องการออกแบบต่อมาจาก FD แต่ปรากฎว่าไม่ค่อย เปี้ยง!! สักเท่าไร
FC พัฒนาเรื่องการออกแบบต่อมาจาก FD แต่ปรากฎว่าไม่ค่อย เปี้ยง!! สักเท่าไร

เครื่องยนต์ที่ทำตลาดในไทยมีมาให้ 2 ขนาดได้แก่ 1.8L, 2.0L แบบ i-Vtec SOHC ซึ่งพัฒนาเรื่องแรงเสียดทานของชิ้นส่วน ลดมลพิษไอเสียให้ต่ำลง และความประหยัดเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม

Honda Civic Gen 10 : 2016-ปัจจุบัน

น่าจะบอกได้ว่าเป็นอีกโฉมที่ประสบความสำเร็จของ Civic เป็นเหมือนการแก้ตัวในรุ่นก่อนหน้า ที่อาจจะไม่ Wow!! สักเท่าไรในความรู้สึกของผู้ใช้งาน รหัส FC ที่มาพร้อมกับนวัตกรรมให้ของเครื่องยนต์ ปรับขนาดเครื่องยนต์ให้เล็กลง มีการนำ Turbo เข้ามาช่วยในเรื่องกำลังอัดเป็นครั้งแรกในรถ Civic

โฉมปัจจุบัน FC
โฉมปัจจุบัน FC มีทั้งในรูปแบบ Sedan และ Hatchback อีกครั้ง

กับเครื่องยนต์ที่มีให้เลือก 2 ขนาด 1.5L SOHC 16 วาล์ว Vtec TURBO 173 แรงม้า และ 1.8L SOHC 16 วาล์ว Vtec Turbo 173 แรงม้า โดยจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT ซึ่งถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งประวัติศาสตร์ของค่าย Honda อีกครั้ง ค่ายที่ขึ้นชื่อเรื่องเครื่องยนต์ N/A หรือเรียกว่าเครื่องยนต์ที่ไม่ได้ใช้ระบบอัดอากาศเพิ่มเติมเช่น Turbo, Supercharger แต่โฉมนี้กลับมีการนำ Turbo เข้ามาใช้งานกับเครื่องยนต์เป็นครั้งแรก ยิ่งทำให้เครื่องยนต์จากเดิมที่แรง รอบจัดอยู่แล้วจะยิ่งโหดมากขึ้นเมื่อมี Turbo เข้ามาทำงานร่วม

จากเริ่มต้นมาถึงปัจจุบัน การพัฒนาที่ไม่หยุดยั้งในรุ่นคู่บุญของ Honda ทำให้ Civic แทบจะเป็นสัญลักษณ์และมีแฟนๆ ที่ให้การยอมรับอย่างมากในรุ่นนี้ ในโฉมปัจจุบันทำยอดขายแบบทิ้งห่างคู่แข่งอย่าง Toyota Altis แบบไม่เห็นฝุ่น นั่นแสดงให้เห็นว่า Honda Civic มาถูกทางแล้วในโฉมนี้

แต่ถ้าป้ายแดงในโฉมปัจจุบันราคาแรงเกินไป ลองมองหาซีวิคในโฉมก่อนหน้าก็มีขายอยู่ไม่น้อยเหมือนกันในตลาดรถมือสอง เรื่องความทน ความแรง อะไหล่หาได้ไม่ยากตั้งแต่โฉมรหัส EK รถซีวิคมือสองราคาเริ่มต้นเพียงแสนกว่าบาท ชอบโฉมไหนลองหามาใช้งานกันได้ แม้จะดูเก่า ราคาไม่แพงแต่ถ้าซ่อมบำรุง ดูแลให้เหมือนใหม่ การใช้งานปกติ ขับไปไหนก็มีแต่คนมองเพราะดีไซน์ การออกแบบแทบจะขึ้นแท่นกลายเป็นรถรุ่นอมตะไปแล้วสำหรับ Honda Civic

>> ดูเพิ่มเติม:

- Honda Civic 2017 เตรียมส่งเครื่องยนต์ดีเซล 1.6 ลิตร ลุยตลาดยุโรป

- Civic กับ City เลือกมือสองรุ่นไหนให้ตรงใจที่สุด

- มาแล้ว! ล่าสุด Honda Civic Si รุ่นใหม่เปิดตัวแล้วในประเทศสหรัฐอเมริกา