มีกระทู้ที่น่าสนใจจากเว็ปไซต์พันทิพเกี่ยวกับรถมือสอง ที่ผู้ตั้งกระทู้กำลังชั่งใจอยู่กับรถมือสองจากค่ายเดียวกัน นั่นคือ Honda City และ Honda Civic ปี 2007-2010 ทั้งคู่ ไม่รู้จะเลือกรถไหนดี รุ่นไหนน่าใช้ รุ่นไหนจุกจิก รุ่นไหนประหยัดกว่ากัน ไปดูรายละเอียดของรถทั้งสองรุ่นกันเลยดีกว่าครับ
ถ้านับตามปีที่เจ้าของกระทู้บอกมา Civic จะเป็นโฉม FD ที่รุ่นไฟท้ายกลมยังไม่ไมเนอร์เชนจ์ รุ่นนี้ถือว่าเป็นรุ่นที่เหมือนปฎิวัติการออกแบบของ Honda Civic ได้แบบใหม่หมดตอนออกมาแรกๆ รุ่นนี้ได้รับคำชมอย่างมากเรื่องการดีไซน์ ที่เหมือนกับเป็นการนำรถของค่าย Honda เข้าสู่ยุคใหม่อย่างเต็มตัว ภายในก็เรียกเสียงฮือฮาด้วยหน้าปัดแบบสองระดับ เป็นสิ่งแปลกและสวยงาม ให้กับตลาดรถเมืองไทยในช่วงนั้นที่กำลังรอรถมาเปลี่ยนแปลงและเป็นทางเลือกของรถซีดานของคนไทย การออกแบบไม่น้อยหน้ารถยุโรป เครื่องยนต์ทั้ง 1.8 และ 2.0 มีให้เลือกได้ตามการใช้งานที่เหมาะสม
เมื่อมองเป็นรถมือสองที่รถมีอายุการใช้งานมาระดับหนึ่งแล้ว แน่นอนว่าเราก็จะเห็นปัญหาจากการใช้งานขที่ผู้ใช้ทั่วไปต้องเจอใน Civic FD ซึ่งปัญหาของรุ่นนี้มีอะไรบ้างเราไปดูกัน
ปัญหากระจกตกร่อง
ปัญหาประจำรุ่นที่ผู้ใช้รถรุ่นนี้ส่วนใหญ่จะต้องเจอ วิธีการแก้ปัญหาก็ทำได้โดยการฉีดน้ำยาหล่อลื่นที่รางกระจกเป็นประจำทุก 3-6 เดือน แต่ถ้าฉีดน้ำยาแล้วไม่หายก็จำเป็นต้องเปลี่ยนรางกระจกชุดใหม่หรือมือสองซึ่งอะไหล่รุ่นนี้ก็หาไม่ยากแล้วตามเชียงกง ปัญหากระจกตกร่องส่วนใหญ่จะเจอกับรถรุ่นก่อนไมเนอร์เชนจ์
ปัญหาแอร์เหม็น
ปัญหาใหญ่ที่ผู้ใช้รถรุ่นนี้หลายคนเจอและบ่นกันมาก คือปัญหาแอร์มีกลิ่นเหม็นซึ่งมาจากความชื้นสะสมอยู่ในช่องแอร์ ผู้ใช้รถรุ่นนี้แนะนำให้เปลี่ยนฟิลเตอร์แอร์แต่อย่าใช้ฟิลเตอร์จากศูนย์บริการนะครับให้ใช้ฟิลเตอร์ของค่ายอื่นๆ ที่เขาผลิตมาสำหรับรุ่นนี้ซึ่งมีขายทั่วไปจะใช้งารได้ดีกว่าฟิลเตอร์แบบเดิมจากศูนย์
มาดูอีกรุ่นที่เปรียบเทียบกันดีกว่ากับ Honda City โฉม 2007-2010 โฉมที่ 5 ของรุ่นกับรหัส GM เป็นรถประเภท ซีดาน Subcompact ซิตี้คาร์สมชื่อรุ่น เหมาะกับใช้งานในเมืองที่ตอนเปิดตัวถือว่าเป็นการแก้ตัวได้ดีหลังจาก Honda ได้ปล่อยรุ่น City Zx มาทำให้เหล่าแฟนๆ Honda ผิดหวังกับการดีไซน์ทรงรถยานอวกาศของรุ่นนี้เป็นอย่างมาก พอมารุ่นนี้ก็มีพื้นฐานเดียวกับ Honda Jazz เช่นเดิมแต่มาในแบบบอดี้รถซีดาน เรื่องความกว้างของภายในรถรุ่นนี้ถือว่าพอฟัดพอเหวี่ยงกับ Honda Civic FD ได้สบายๆ เครื่องยนต์ขนาด 1.5L ขับสนุกไม่ค่อยมีปัญหาจุกจิก ขับใช้งานยาวๆ ได้สบาย และจะเรื่องออฟชั่นที่ Honda ไม่ค่อยกั๊กเรื่องนี้สักเท่าไร ออฟชั่นความสะดวกสบายและความปลอดภัยมีมาให้ครบๆ กับรถประเภท B-Segment รุ่นนี้ถ้าดูรถมือสองก็เน้นคันที่เลขไมล์น้อยหน่อยกับที่ออฟชั่นครบๆ จะคุ้มมาก ส่วนปัญหาที่พบบ่อยในรถรุ่นนี้ก็มีบ้างแต่ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรนัก เช่น
สรุป
ทั้งสองรุ่นพูดถึงก็น่าสนใจทั้งคู่ครับ เมื่อเช็คราคารถมือสองในเว็ปไซต์ Chobrod.com จะพบว่าราคาของ Civic FD มือสองจะเริ่มต้นที่ประมาณเกือบสามแสนอยู่ที่ประมาณ 280,000 บาทส่วนทางด้าน Honda City ราคามือสองจะเริ่มต้นที่ประมาณ 230,000 บาทความแตกต่างประมาณ 50,000 บาท ข้อดีข้อเสียของทั้งสองรุ่นตามที่กล่าวมานั้นก็พอจะเห็นภาพกันบ้างแแล้ว ต้องดูที่รูปแบบการใช้รถของแต่ละคนว่าเป็นอย่างไรครับ ถ้าใช้รถส่วนมากขับในเมือง นั่ง 1-2 คน เน้นประหยัดน้ำมันเป็นหลัก ออฟชั่นเยอะ ไม่ค่อยมีปัญหาจุกจิก Honda City จะสามารถตอบโจทย์คุณได้ดีกว่าในเรื่องนี้แต่ถ้าเป็น Honda Civic คุณก็จะได้รถที่ห้องโดยสารภายในกว้างกว่า (นิดหน่อย) นั่งกันแบบ 3-4 คนสบายๆ ไม่อึดอัด ช่วงล่างที่แน่นหนึบกว่า เครื่องยนต์แรงกว่า ไม่เน้นเรื่องประหยัดน้ำมันแต่ถ้าขับทางไกลก็ประหยัดใช้ได้อยู่และยอมรับปัญหาข้อต่างๆ ของรุ่นนี้ได้ก็เลือก Honda Civic ได้ครับ ไม่เสียหาย
หาตัวไมเนอร์เชนจ์ของรุ่นจะดีกว่า
รถทั้งสองรุ่นด้วยปีที่ระบุมานั้นจะเห็นว่าเป็นรุ่นที่ก่อนไมเนอร์เชนจ์ทั้งคู่ ถ้าซื้อรถมือสองลองหารุ่นที่เป็นตัวไมเนอร์เชนจ์แล้วดีกว่า เพราะทางค่ายได้แก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการใช้งานของรุ่นก่อนหน้าแล้วจะทำให้คุณได้รถคันที่คุณภาพดีขึ้นแม้ต้องเพิ่มเงินอีกนิดหน่อยแต่มีความสุขในการใช้งานดีกว่าครับ
*** ดูเพิ่มเติมราคา Civic มือสองที่มีขายในประเทศไทย