Sub Compact Car มือสองรุ่นไหนที่น่าใช้และ อีก 10 ยังน่าใช้อยู่ไหม ?

ถ้าเทียบการใช้จ่ายค่าเดินทางของบางท่าน ที่เดินทางในเมืองด้วยรถโดยสารธารณะ นั้นอาจจะเอามาดาวน์รถมือสองได้เลยนะครับ นี่ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ทุกคนต้องการรถยนต์มือสองในช่วงเรท ราคา 1แสน - 3 แสนบาท และอยากจะใช้ได้นาน ๆ อีกด้วย 

Sub Compact Car

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับ Sub Compact Car กันหน่อยนะครับ รถ Segment นี้จะมีขนาด กว้างขวางกว่า Eco Car อยู่ระดับหนึ่งเลยและมีเครื่องยนต์อยู่ที่ 1,500 cc แรงม้าประมาณ 100 ตัว ค่าซ่อมบำรุงรักษาก็ไม่แพงเกินไปสำหรับในรุ่นทั่วไป และยังได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐชื่อว่าโครงการ “รถยนต์คันแรก” ลดราคา 1 แสนบาท ในช่วงปลายปี พ.ศ.2554 จนลากยาวมาถึง ต้นปี พ.ศ. 2556 จึงทำให้ Segment ออกมาโลดแล่นอยู่ในตลาดรถบ้านเราค่อนข้างเยอะ ซึ่งมีเงื่อนไข บังคับใช้ 5 ปีห้ามขายนั่นเอง และในปีนี้ พ.ศ. 2562 ก็ครบ 5 ปีแล้วด้วย ทำให้รถ Segment จะเริ่มทยอยปล่อยมาสู่ตลาดมือกันอย่างมากนะครับ

แต่สำหรับบางท่านการซื้อรถยนต์ประเภทนี้เป็นคันแรกก็แฝงไปด้วยความภาคภูมิใจ ทำให้รู้ว่าไม่อยากขาย ถึงจะมีงบซื้อรถใหม่ป้ายแดงก็มีเยอะนะครับ เอาเป็นว่าเรามาดูกันดีกว่า ว่า รถมือสอง Sub Compact รุ่นไหนที่น่าหามาใช้และมีความคุ้มค่า เหมาะแก่การใช้ยาว ๆ เป็น 10 ปีในงบประมาณ 1-3 แสนบาท

TOYOTA VIOS GEN 1

TOYOTA VIOS GEN 2

1.Toyota Vios

ตั้งแต่ปี 2003 – 2012 ได้ทั้ง โฉม 1 และ โฉม 2เลย เพราะรถยนต์รุ่นนี้เป็นที่นิยมอย่างมาก นอกจากความน่าเชื่อถือของบริษัทแม่ที่ทำการตลาดรถในประเทศไทยเรามาอย่างยาวนาน ทำให้ครองใจใครอีกหลายท่าน ๆ 

ขุมพลัง ความจุ 1nz 1.5 ลิตร

จุดเด่น ก็คือ เครื่องยนต์ที่ทนทาน อู่นอก มือโปร มือสมัครเล่น ก็สามารถแก้ไขอาการต่าง ๆ ได้ ส่วนของอะไหล่นั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึง มีอะไหล่รองรับที่จุด ของแท้โรงงานไปจนถึง อะไหล่ OEM นอกศูนย์ ในราคาที่ย่อมเยาวและหาง่าย   เรื่องการประหยัดน้ำมันอาจจะไม่ใช่ที่สุดแต่ก็เป็นตัวเลขที่น่าพอใจ ด้วยเครื่องยนต์ 1nz 1.5 ลิตร แค่บำรุงรักษาเปลี่ยนถ่ายของเหลวตามปกติ รับรองไม่มีต้องจอดแวะทานข้าวลิง แน่นอนครับ สุดท้ายการขายต่อง่ายด้วย

ดูเพิ่มเติม
>>  เจาะลึกรถ Sub-Compact มีลักษณะเป็นยังไงนะ?
​>> รีวิว Honda City 2018

TOYOTA VIOS

จุดด้อย เริ่มจากภายในที่อาจจะดูไม่สวยหรูเท่ารถยนต์ค่ายคู่แข่งหรือ รุ่นพี่อย่าง Corolla Altis นะครับ ความคิดเห็นส่วนตัวสำหรับตำแหน่งเบาะนั่งคนขับค่อนข้างนั่งได้สบายและมองเห็นหน้าหลัง ได้ชัด เรื่องมุมอับสายตาย ถ้าปรับกระจกมองข้างดี ๆ ก็ช่วยได้เยอะ

Honda City Gen 2

HONDA CITY GEN 3

2.Honda City

ตั้งแต่ปี 2006 – 2010 ได้ทั้งสองโฉมเลยครับ แต่อาจจะต้องเลี่ยง City ตัวที่เป็น I-DSI เกียร์ Cvt เพราะตัวนี้อาจจะมีปัญหาจุกจิกพอสมควรเลยครับ ควรเลือกตัวที่เป็น Vtec จะดีกว่า ทั้งเรื่องพละกำลัง และความทนทานมากกว่านั่นเอง

ขุมพลัง L15a ความจุ 1.5 ลิตร

จุดเด่น รูปทรงโดยรวมโฉบเฉี่ยวดูล้ำกว่าทางด้านคู่แข่ง และเครื่องยนต์รหัส L15a 1.5 ลิตร ไม่ทำให้สาวกผิดหวังอย่างแน่นอน นอกจากนี่เรื่องการซ่อมบำรุงรักษา ไม่ยากสามารถพาเข้าไปรักษาได้ทุกอู่ ไม่ว่าจะเป็นอะไหล่เครื่อง เกียร์ ตัวถัง ช่วงล่าง มีให้เบิกได้ทุกส่วน  อีกเรื่องที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือช่วงล่าง ก็มีความนุ่มนวลและเกาะถนนอีกด้วย สำหรับใครที่เป็นสายซุกซนชอบแต่งชอบเติม ก็มีของแต่งตรงสายจากทางสำนักรองรับอีกด้วยเช่น Mugen Modulo Spoon

HONDA CITY

จุดด้อย อะไหล่บางชิ้นอาจจะมีราคาสูงกว่าคู่แข่งเกือบเท่านึงเลยครับ และด้วยเทคโนโลยีเครื่องยนต์ที่พัฒนาทำให้กานเร่งนั้นช้า นิดหน่อยเพราะระบบจะควบคุม อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงนั่นเอง นอกจากนี้จากประสบการณ์ส่วนตัวการใช้งานรถยนต์ทั้งสองรุ่นมา Honda City อาจจะมีเสียงจากอะไหล่ช่วงล่างบางชิ้นที่ ศูนย์นั้นตรวจไม่พบ แต่ไม่ถือว่าเป็นอันตรายนะครับ

เป็นยังไงกันบ้างครับสำหรับรถสุดฮิตติด ตลาดรถ ทั้งสองค่ายใหญ่ ที่สามารถหามาใช้กันได้ยาว ๆ มีความรู้เรื่องรถเยอะหรือน้อย ก็ดูแลเบื้องต้นกันได้อย่างง่ายดาย จะใช้งานอีก 10 ปี ก็ยังไหว แต่ยังไงการเลือกซื้อรถมือ 2 นั้นต้องทำใจอยู่บ้างเรื่องการซ่อมบำรุง ควรจะใส่ใจหมั่นตรวจเช็คเป็นประจำเช่น น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ น้ำยาหม้อน้ำ ระบบเบรก อย่าปล่อยให้ขาดเป็นระยะเวลานานจนเกินไป เพราะอาจจะทำให้เกิดปัญหาใหญ่แก่รถสุดรักของคุณเอง

เป็นยังไงกันบ้างครับสำหรับความรู้ที่ Chobrod.com นำมาฝากทุกท่านในครั้งนี้นะครับ เราหวังว่าทุกท่านจะได้ประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะครับ 

ดูเพิ่มเติม
>>  รีวิว Toyota Vios 2018
>> เปลี่ยนโฉม ! 3 รถตู้มินิสุดคูลจาก Toyota ปรับโฉมใหม่ทั้งหมด ออกจำหน่ายแล้วที่ประเทศญี่ปุ่น

ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่