9 เทคโนโลยีที่รถใหม่ 2018 คันต่อไปของคุณควรมี

ประสบการณ์ซื้อขายรถยนต์ | 11 ธ.ค 2560
แชร์ 17

ความก้าวหน้าทางนวัตกรรมด้านรถยนต์ นำไปสู่การพัฒนาของรถรุ่นใหม่ๆ ที่เปิดตัว จะมาพร้อมกับความสะดวกสบายในการใช้รถและความปลอดภัยรอบด้านมากขึ้นทุกวัน กับช่วงเวลาที่กำลังก้าวย่างสู่ปี 2018 และนี่คือ 9 เทคโนโลยีที่ดีที่สุด สำหรับรถใหม่ 2018 คันต่อไปที่คุณจะซื้อ ควรพิจารณาออพชั่นเหล่านี้ให้มีอยู่ในรถคันใหม่ของคุณด้วย

9 เทคโนโลยีที่รถใหม่ 2018 คันต่อไปของคุณควรมี

9 เทคโนโลยีที่รถใหม่ 2018 คันต่อไปของคุณควรมี

**การจัดเรียงลำดับ ไม่มีผลต่อความสำคัญในแต่ละออพชั่น

1. ความอัจฉริยะของ Application บน Smart Phone

Smart Phone เข้ามามีบทบาทกับรถยนต์มากยิ่งขึ้น กลายมาเป็นตัวกลางระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์เพื่อใช้สำหรับการสร้างความบันเทิง และสะดวกสบายในด้านต่างๆ นอกจากระบบความบันเทิงทั้ง Apple Carplay หรือ Android Auto ที่รถใหม่ 2018 ทุกคันควรมีแล้ว ทางด้านของ Application ก็ถูกกพัฒนาให้ใช้กับรถยนต์ได้ในด้านต่างๆ ด้วย ทั้งใช้สำหรับ สตาร์ทรถเปิดแอร์ล่วงหน้าก่อนขึ้นไปขับ หรือแม้จะใช้สำหรับป้องกันรถหาย รถคันต่อไปที่คุณจะซื้อก็ควรพิจารณาความสามารถในด้านการใช้งานร่วมกับ Application จะทำให้การใช้รถของคุณสะดวกสบายยิ่งขึ้น

แอพฯ ในมือถือสามารถแจ้งสถานะรถของคุณ ช่วยป้องกันไม่ให้รถหาย

แอพฯ ในมือถือสามารถแจ้งสถานะรถของคุณ ช่วยป้องกันไม่ให้รถหาย

2. เทคโนโลยีด้านการควบคุม ‘รถ’ สำหรับผู้ปกครอง  

สำหรับผู้ใหญ่ที่ห่วงลูกหลานในการขับรถ ด้วยความที่พวกเขายังเป็นมือใหม่ การขับขี่อาจจะยังน้อยประสบการณ์ และเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุ ค่ายรถต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Ford (mykey App) หรือ Chevrolet (Teen Drive App) ได้นำเสนอการแก้ปัญหากวนใจให้กับคุณพ่อ คุณแม่ผู้ปกครอง ซึ่งแอพดังด่าวๆ สำหรับรถใหม่ 2018 จะมีความสามารถในการตั้งค่าความเร็วสูงสุดได้ และยังสามารถตั้งค่าให้เครื่องเสียงไม่ทำงาน ถ้าไม่รัดเข็มขัดนิรภัยก่อนขับขี่ ความสามารถของแอพเหล่านี้จะช่วยให้พ่อแม่สบายใจยิ่งขึ้นเมื่อลูกหลานขับขี่ใช้งานรถ แต่พวกเขายังขับขี่ไม่คล่องสักเท่าไร

3. Adaptive Cruise Control วิ่งทางไกล สบายกว่าเดิม

ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติให้สอดคล้องกับสภาพการจราจร ภายใต้การวิเคราะห์ข้อมูลที่ถูกส่งผ่าน เดราห์ หรือกล้อง นำไปประมวลผลความเร็วของรถที่เหมาะสมให้การขับขี่ปลอดภัย ในรถใหม่ปี 2018 กับออพชั่นนี้ที่รถคันต่อไปของคุณควรจะมี จะยิ่งช่วยให้ขับขี่ในเส้นทางไกลๆ ถนนโล่งๆ ของคุณสะดวกสบายยิ่งขึ้น ลดความเหนื่อยล้าจากการขับขี่ และระบบยังช่วยรักษาระยะห่างที่ปลอดภัยกับรถคันหน้า ในบางรุ่นยังช่วยเบรกรถให้กับคุณได้อีกด้วย

ขับในเส้นทางยาวๆ เทคโนโลยี Adaptive Cruise Control  จะช่วยลดความเมื่อยล้า

ขับในเส้นทางยาวๆ เทคโนโลยี Adaptive Cruise Control  จะช่วยลดความเมื่อยล้า

>> Hyundai ประกาศเทคโนโลยีช่วยคนขับ

>> ระบบดับเครื่องอัตโนมัติ เมื่อรถจอดนิ่งหรือติดไฟแดง จะช่วยประหยัดน้ำมัน จริงหรือไม่

4. เทคโนโลยีไฟหน้า สว่างและยังปลอดภัยกว่าเดิม

ไฟหน้าที่สว่างๆ จะยิ่งช่วยให้การขับขี่ของคุณปลอดภัยได้ยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการขับขี่ในเวลากลางคืน ไฟหน้าแบบ LED ให้แสงที่ดีกว่าหลอดฮาโลเจนรวมไปถึงอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าอีกด้วย นอกจากนั้นเทคโนโลยีที่ไฟหน้ายังเพิ่มความสามารถในการสาดแสง หักเหไปตามจังหวะการเลี้ยวของพวงมาลัย หรือเส้นทางซึ่งผ่านการทำงานร่วมกับเรดาห์

เทคโนโลยีไฟหน้าก็มอบความปลอดภัยในการขับขี่ได้มากยิ่งขึ้นได้

เทคโนโลยีไฟหน้าก็มอบความปลอดภัยในการขับขี่ได้มากยิ่งขึ้นได้

5. ช่องเสียบ USB ต้องมีมากกว่าหนึ่ง จะได้ไม่แย่งกัน

รถใหม่ 2018 คันต่อไปของคุณ ไม่ควรจะมีแค่ช่อง USB ที่มากับชุดเครื่องเสียงเพียงช่องเดียว ในตำแหน่งการนั่งของห้องโดยสารทุกจุด ควรมีรองรับ เพราะทุกวันนี้ทุกคนใช้ Smart Phone และการชาร์แบตเตอรี่เป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนต้องการ ไม่มีคนไหนต้องการจะมานั่งแย่งช่องเสียบ USB กันทั้งนั้นแหละ ยิ่งถ้ารถคันต่อไปของคุณเป็นรถสำหรับครอบครัว ข้อนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งที่ต้องเก็บไว้พิจารณา

6. Blind Spot Monitor มุมอับแค่ไหนก็รู้ว่าผ่านไม่ได้

ระบบการส่งสัญญาณเตือนที่กระจกมองข้าง เมื่อมีรถในจุดอับสายตา กับการจราจรที่แสนคับคลั่งในเมืองไทย ต่อให้คุณมั่นใจแล้วว่าด้านข้างไม่มีรถ แต่ในมุมอับสายตาที่มองไม่เห็นอาจทำให้เกิดอุบัตเหตุได้ เซ็นเซอร์ที่ถูกติดอยู่ด้านข้างรถเป็นตัวจับวัตถุ ส่งสัญญาณบอกผ่านกระจกข้าง ทำให้การขับขี่ของคุณมั่นใจมากขึ้นในทุกจังหวะ อีกหนึ่งออพชั่นที่รถใหม่ 2018 คันต่อไปของคุณควรมี

7. Lane Departure Warning ขับไม่ตรงเลน เตือนทันที

ระบบการแจ้งเตือนเมื่อรถออกนอกเส้นจราจร ซึ่งเป็นระบบที่ช่วงลดการเกิดอุบัติเหตุได้เป็นอย่างดี ในกรณีที่ผู้ขับขี่เกิดการอ่อนล้าหรือหลับในแล้วตัวรถกำลังวิ่งออกนอกช่องจราจร ระบบจะแจ้งเตือนผ่านวิธีต่างๆ ทั้งแสดงที่หน้าปัด เป็นแสงกระพริบสว่างหรือการสั่นของพวงมาลัย เพื่อให้ผู้ขับขี่กลับมามีสติ อยู่ในสภาพพร้อมขับขี่รถได้อีกครั้งอย่างปลอดภัย อีกทั้งระบบยังช่วงควบคุมพวงมาลัยเพื่อนำรถเข้าสู่กึ่งกลางของเลนได้อีกด้วย

เรดาห์จะวิเคราะห์การขับขี่ของคุณ ถ้าเกิดออกนอกเลนจราจร

เรดาห์จะวิเคราะห์การขับขี่ของคุณ ถ้าเกิดออกนอกเลนจราจร

8. Automatic Emergency Braking ระบบช่วยเบรก ช่วยลดความเสียหาย

อีกหนึ่งเทคโนโลยีที่มีศักยภาพในการช่วงลดอุบัติเหตุเป็นอย่างมาก เซ็นเซอร์ตรวจจับพร้อมประมวลผล วัตถุหรือสิ่งกรีดขวางด้านหน้าระบบจะสั่งให้รถเบรก ในรถหยุดแม้จะเกิดอุบัติเหตุอย่างน้อยก็ลดความรุนแรงหลังจากกระแทกได้มาก ซึ่งระบบนี้เริ่มนำมาใช้ในรถเมืองไทยอย่างแพร่หลายมากขึ้น แม้แต่อีโคคาร์อย่าง Mitsubishi Attrage ก็มีระบบนี้ใช้แล้ว

>> ดูเพิ่มเติม Mitsubishi Attrage มือสอง ที่นี่

9. กล้องมุมมอง 360 องศารอบคัน ถอยจอดสบาย ไม่ต้องเมื่อยคอ

เทคโนโลยีกล้องแบบ 360 ทำให้คุณเห็นสิ่งที่อยู่รอบรถของคุณได้ทั้งหมด ยิ่งกับรถขนาดใหญ่อย่างรถปิคอัพหรือรถ SUV  อาจเป็นเรื่องยากไปสักหน่อยในการเลี้ยวรถ ถอยรถหรือเข้าจอด เทคโนโลยีนี้จะทำให้การขับขี่สะดวกสบายยิ่งขึ้น เห็นรถคุณได้ทุกมุม ไม่ต้องกลัวว่าจะไปถอยชนอะไร ล่าสุดรถใหม่ 2018 Nissan Navara ก็ยังได้นำกล้องมุมมองแบบ 360 มาอยู่ในรถปิคอัพเมืองไทยเป็นครั้งแรกอีกด้วย

>> การวิจัย กระบะมือสอง ที่นี่

กล้องมุมมอง 360 องศา ช่วยให้มองเห็นรถของคุณได้รอบคัน

กล้องมุมมอง 360 องศา ช่วยให้มองเห็นรถของคุณได้รอบคัน

ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่คุณไม่ควรลืมเมื่อกำลังมองหารถใหม่ 2018 อย่าลืมมองหาเทคโนโลยีทั้งหมดที่เรากล่าวมา แต่สิ่งที่สำคัญกว่า คือคุณต้องพิจารณาการใช้งานรถของคุณด้วยว่าเหมาะสมกับเทคโนโลยีเหล่านั้นหรือไม่ เช่น คุณเน้นใช้งานในเมืองเป็นหลัก ไม่ค่อยได้ออกต่างจังหวัดการมีเทคโนโลยี Adaptive Cruise Control ก็อาจไม่ค่อยจำเป็นสักเท่าไร เลือกออพชั่นให้เหมาะกับการใช้งานรถของคุณจะได้รถที่อุปกรณ์พร้อมทุกการใช้งาน และจ่ายค่ารถในราคาที่เหมาะสม ไม่ต้องจ่ายเกินไปกับสิ่งที่ไม่ได้ใช้

ดูเพิ่มเติม

>> Nissan เตรียมนำเสนอเทคโนโลยีอ่านคลื่นสมอง คนเป็นส่วนหนึ่งกับรถด้วยโทรจิต

>> 6 เทคโนโลยีที่กำลังจะมาเป็นพื้นฐานบนรถทุกคันในอนาคต