5 รถญี่ปุ่นน่าใช้ แต่อยู่ดี ๆ ก็หาย กลายเป็นแรร์คาร์เฉย

ป่ะ...กลับบ้านเก่าของพวกเรากันเถอะ

รถดีอาจไม่ได้อยู่ที่ยอดขาย แต่รถที่ยอดขายไม่ดี ไม่ปัง อาจมีสิทธิ์หายไปจากตลาดได้ง่าย ๆ และนี่คือรถยนต์ 5 รุ่น จากค่ายญี่ปุ่น ที่ไม่แรร์วันนี้ วันหน้าก็ต้องแรร์ แม้จะพยายามมาสร้างสีสันในไทยไม่ให้ตลาดจำเจ ทั้งที่มีคุณสมบัติดี ๆ ติดตัวมากมาย แต่ก็ยังไม่ดีพอสำหรับลูกค้าชาวไทยให้ได้จดจำมากนัก 

และหากมองในแง่ของการตลาดอาจเรียกได้ว่ารถญี่ปุ่น 5 รุ่นนี้ ไม่ประสบความสำเร็จในไทยเท่าที่ควร อายุตลาดเลยไม่ยืนยาวจนหายหน้าหายตาไปในที่สุด เพราะยอดขายน้อยผิดธรรมชาติจึงมาไวไปเร็ว ซึ่งโดยปกติแล้ว “รถญี่ปุ่น” แบรนด์ติดตลาดมักเป็นรถที่รู้จักได้ง่าย เข้าถึงง่าย ราคาไม่สูงจนเกินไป โอกาสตกม้าตายจึงน่าจะต่ำ แต่มันก็ไม่เป็นอย่างนั้นเสียทุกรุ่น ดังเช่นรถกลุ่มนี้แหละ...โอ้ยน่าสงสาร

Suzuki SX4

รถครอสโอเวอร์ขนาดเล็กจากค่ายทางเลือกเบอร์แรก ๆ ในไทย เปิดตัวในปี 2011 ราคา 799,000 บาท ที่เราไม่แน่ใจว่าโชคร้ายเพราะจังหวะไม่ได้ เนื่องจากมาก่อนเทรนด์ (ขณะนั้นเซกเมนต์ CR-V บูมสุด) หรือเป็นเพราะแบรนด์ Suzuki ยังไม่กลับมาอยู่ในกระแสเต็มตัว ซึ่งต่อมา Suzuki นำ Swift มาลงโครงการอีโคคาร์และปังปูริเย่ในทันที

ทั้งนี้ รหัส SX4 นั้นย่อมาจากคำว่า Sport X(Cross)over 4 all seasons จึงเป็นรถครอสโอเวอร์ขนาดพอเหมาะสำหรับคนเมือง ทัศนวิสัยแจ่มชัด ทั้งจากตำแหน่งเบาะนั่ง รวมถึงความปลอดโปร่งของห้องโดยสาร แถมยังออกแบบโดยนักออกแบบชื่อดัง Giorgetto Giugiaro ในยุคที่อยู่ Italdesign เรียกว่าให้มาคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม

ส่วนเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.6 ลิตร 112 แรงม้า ไม่ได้แรงมากมาย แต่พอเพียงกับการใช้งานไปเรื่อย ๆ ภาพรวมจัดได้ว่า SX4 เป็นรถที่น่าใช้รุ่นหนึ่ง ซึ่ง SX4 ก็ไม่ปังนัก ยอดขายเท่าไรไม่ทราบ และหายไปจากตลาดไปแบบที่น้อยคนนักจะจำหรือรู้จักรถรุ่นนี้ได้

• ลองดูประกาศขายรถ Suzuki SX4 มือสองได้ที่นี่

Nissan Tiida/Tiida Latio

ถึงจะมี Nissan Sylphy มารับช่วงต่อเป็นตัวตายตัวแทน Tiida ให้กับ Nissan ประเทศไทย และพอมีวิ่งให้เห็นบ้าง Tiida อาจไม่อยู่ในเกณฑ์ “ของแปลก” บนถนนนัก แต่ถ้าหากมองว่า Tiida เป็นรถญี่ปุ่นค่ายดังในเซกเมนต์ที่ควรจะได้รับความนิยม ก็คงพอมอบสายสะพายตำแหน่งรถอาภัพให้กับ Tiida ได้เช่นกัน

ทั้งนี้ Nissan Tiida เปิดตัวในไทย ปี 2006 มี 2 รูปแบบตัวถัง ทั้ง 4 ประตู ซีดาน และ 5 ประตู แฮตช์แบ็ก ด้วยจุดขายภายในกว้างขวาง โปร่งโล่งเกินตัว เบาะนั่งใหญ่ พื้นที่เหนือศีรษะและพื้นที่วางขาของผู้โดยสารตอนหลังเหลือกินเหลือใช้มาก ราคาป้ายแดงสมัยเริ่มต้น 564,000-799,000 บาท สูสีกับอีโคคาร์สมัยนี้แหละ 

ส่วนขุมพลัง Tiida จะมีเครื่องยนต์เบนซินให้เลือก 2 ขนาด คือ 1.8 กำลังสูงสุด 126 แรงม้า และ 1.6 ลิตร กำลังสูงสุด 109 แรงม้า

อย่างไรก็ตาม แม้ Tiida จะดูเป็นรถที่น่าใช้ แต่อาจเพราะดีไซน์จืดชืด เรียบง่าย ไม่ถูกจริตคนไทยที่ชอบอะไรแซ่บ ๆ (ต่างจากญี่ปุ่น) หรือเปล่า ทำให้ยอดขายของ Tiida นั้นแค่พอขายได้ แต่ถ้าเทียบกับรุ่นก่อนอย่าง Nissan Sunny Neo (ซึ่งจริง ๆ คือ Bluebird Sylphy) หรือคู่แข่งแล้ว Tiida กลับทำผลงานได้ไม่น่าประทับใจ แต่...Nissan ยังไม่เข็ด

• ลองดูประกาศขายรถ Nissan Tiida มือสอง ได้ที่นี่

Nissan Pulsar

ภาคต่อของ Tiida คือ Pulsar 5 ประตู ที่ Nissan ประเทศไทย คงเชื่อว่าจะไปรอด ซึ่งจริง ๆ จะเรียกเป็น Tiida โฉมต่อมาก็ได้ (บางตลาดใช้ชื่อนี้) แต่สุดท้าย Pulsar ก็ไม่รอดอีก และได้เป็นแรร์คาร์ของ Nissan เพิ่มเข้าไปอีกรุ่น

Nissan Pulsar ได้รับการแนะนำตัวในประเทศไทยครั้งแรกเมื่อปี 2013 มีให้เลือก 5 รุ่นย่อย ราคาขายหน้าโชว์รูม 776,000-976,000 บาท มีเครื่องยนต์เบนซินให้เลือก 2 ขนาด คือ 1.8 ลิตร 131 แรงม้า กับ 1.6 ลิตร 116 แรงม้า

ต่อมาในปี 2014 Nissan พยายามปลุกกระแสด้วย Pulsar Turbo (พร้อมกับ Nissan Livina) ซึ่งให้ม้ามาใช้งานถึง 190 ตัว เรียกว่าจัดจ้านมากสำหรับยุคนั้น โดยตั้งราคาไว้ 1,070,000 บาท และถึงแม้จะยัด “เทอร์โบ” มาสู้ ก็ไม่ช่วยให้ Nissan ประสบความสำเร็จในการทำตลาดรถยนต์ขนาดคอมแพกต์อยู่ดี

• ลองดูประกาศขายรถ Nissan Pulsar มือสอง ได้ที่นี่

Nissan Livina

รถครอสโอเวอร์จาก Nissan เปิดตัวในปี 2014 ราคา 672,000-742,000 บาท ซึ่งมีการตกแต่งด้วยคิ้วกันกระแทก ราวหลังคา ตามสูตร แต่บุคลิกไม่ชัดและไม่ต่างจาก Nissan Pulsar เท่าไร ประกอบกับดีไซน์สุดเรียบง่าย ไม่หวือหวา แถมเครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร 114 แรงม้า ก็ไม่ได้แรงมากมาย อาจเป็นเหตุผลให้ Livina ไม่เป็นที่ต้องตาต้องใจเท่าไรนัก

อย่างไรก็ตามถึงแม้ Livina จะเป็นรถจากค่ายใหญ่ ภายในอเนกประสงค์ กว้างขวาง เป็นรถที่เหมาะสำหรับเดินทางหรือกิจกรรมสันทนาการ ก็ไม่ได้ช่วยให้ยอดขายดีเด่นเท่าไร (ออกจะเงียบ ๆ เสียด้วย) และถึงแม้ตอนนี้ Nissan จะมี All-new Nissan Livina ที่ใช้พื้นฐานร่วมกับ Mitsubishi Xpander อยู่ในมือแล้ว ซึ่งไม่รู้จะเปิดตัวในไทยด้วยไหม แต่ภาพ Livina รุ่นเดิมก็แทบไม่ค่อยปรากฏในความทรงจำของคนไทยเช่นเคย

• ลองดูประกาศขายรถ Nissan Livina มือสอง ได้ที่นี่

Toyota 86

นับเป็นความกล้าของ Toyota ประเทศไทย ที่นำเข้ารถสปอร์ตเครื่องเล็กแต่ขับสนุกอย่าง 86 ที่พัฒนาร่วมกับ Subaru มาขาย เปิดตัวในปี 2012 มี 3 รุ่น ราคา 2,490,000-2,740,000 บาท ใช้เครื่องยนต์ Boxer สูบนอน ขนาด 2.0 ลิตร หายใจธรรมดา ให้กำลังสูงสุด 200 แรงม้า

แน่นอนว่า ด้วยราคาขนาดนี้ บวกกับภาพลักษณ์แบบ Toyota และความไม่อเนกประสงค์ของรถ 2 ประตู อาจไม่คุ้มค่าหรือเหมาะกับผู้ที่ต้องการซื้อรถสปอร์ตไว้อวด เพราะ Wow Factor น้อย (ราคานี้ซื้อ Mercedes-Benz ป้ายแดงรุ่นเริ่มต้นได้เหมือนกัน แม้ผลลัพธ์ที่ได้ไม่เหมือนกัน) ยอดขายก็อย่างที่หลาย ๆ คนรู้ดี

แต่ในทางกลับกัน หากต้องการประสบการณ์ในมุมเข้าหาตัว (ไม่ใช่ขาออกจากตัวเพื่อขับโชว์) Toyota 86 เป็นหนึ่งในรถสปอร์ตเล็กที่ขับได้สนุกสนานดีทีเดียว ด้วยพละกำลังอันเหมาะสม พอดิบพอดี แฮนด์ลิ่งดี ไม่บ้าพลังจนก่อให้ผู้ขับขี่เกิดความเครียด หากตัดเรื่องของค่าตัวไปจะพบว่ารถสปอร์ตรหัส “86” หรือ “ฮาจิโรคุ” นั้นมีความน่าสนใจสูง แม้คุณสมบัติเด่นข้อนี้ไม่ได้ช่วยให้ยอดขายในไทยดีเสียเท่าไรนัก

• ลองดูประกาศขายรถ Toyota 86 มือสอง ได้ที่นี่

อย่างไรก็ตามหากจะนับกันจริง ๆ แน่นอนว่ายังมีรถญี่ปุ่นค่ายดังอีกหลายรุ่นที่ไปไม่รอดในไทย แต่ช่วงหนึ่งก็ยังเคยประสบความสำเร็จอยู่บ้าง เช่น Honda Freed, Toyota Wish และรุ่นอื่น ๆ อีกมากมาย (เกินกว่าเราจะกล่าวถึงได้ทีเดียวหมด) รวมถึง X-Trail และ Teana สองรุ่นล่าสุด ที่มีแนวโน้มจะได้เป็นกลายเป็น “รถญี่ปุ่นในอดีต” เคยจำหน่ายในไทย (หากไม่มีโฉมใหม่มาทำตลาด) ซึ่งถึงตรงนี้เราคงต้องกล่าวต้อนรับสมาชิกใหม่ล่วงหน้าว่า…อิรัชชัยมาเสะ !!!

อ่าน 4 รถเปิดประทุน ขับยังไงก็หล่อได้ในงบ 6 แสนบาท
ติดตาม ข่าวรถยนต์ใหม่ ได้ที่นี่
ติดตาม รีวิวรถยนต์ใหม่ ได้ที่นี่
ติดตาม ราคารถยนต์ใหม่ ได้ที่นี่