4 รถเปิดประทุน ขับยังไงก็หล่อได้ในงบ 6 แสนบาท

ประสบการณ์ซื้อขายรถยนต์ | 11 มิ.ย 2563
แชร์ 0

4 รถเปิดประทุน มือสอง ราคาเบา ๆ ซื้อได้ในงบ 600,000 บาท จ่ายน้อยระดับอีโคคาร์ป้ายแดง ขับแล้วรู้สึกเป็นอิสระและหล่อมาก สำหรับผู้ที่อยากเริ่ม “เปิดใจ” ดูสักครั้ง

รถเปิดประทุน
แนะนำ 4 รถเปิดประทุน งบเริ่มต้น 600,000 บาท

แค่เปิดอารมณ์ก็เปลี่ยน !!! รถเปิดประทุน จึงยังเป็นที่ต้องการสำหรับผู้ใช้รถบางกลุ่ม แม้ไม่ใช่รถที่เอื้อประโยชน์ต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันหากมองในเรื่องความคุ้มค่าของเงินที่ต้องจ่ายเพื่อแลกกับฟังก์ชันที่ได้ แต่รถเปิดประทุนอาจเป็นเครื่องชูใจ สร้างความดื่มด่ำในการขับขี่

เพราะทันทีที่เปิดหลังคา คือการได้เปิดมุมมอง เปิดประสบการณ์ในรูปแบบใหม่ เปิดความรู้สึกเพื่อรับความเป็นอิสระเสรีจากการสัมผัสกับสายลม รับรู้ถึงสิ่งต่าง ๆ ที่เคลื่อนผ่านรอบตัวได้อย่างที่รถแบบอื่นให้ไม่ได้ และนี่คือ 4 รถเปิดประทุน ราคาเบาแต่ว้าวมากสำหรับผู้ที่อยากลองเริ่ม “เปิดใจ” ดูสักครั้ง

Peugeot 207 CC (โฉมก่อนไมเนอร์เชนจ์) ราคา 450,000-600,000 บาท

รถเปิดประทุน
Peugeot 207 CC

รายละเอียดตัวรถ

รถเปิดประทุน
Peugeot 207 CC โฉมก่อนไมเนอร์เชนจ์

Peugeot 207 CC รถเปิดประทุนหลังคาแข็งพับเก็บ-กางออกด้วยไฟฟ้า แบบ 2+2 ที่นั่ง จากฝรั่งเศส ซึ่งอยู่ในชุดรถเล็กซีรี่ส์ 207 ของ Peugeot ที่มีให้เลือกหลายรูปแบบตัวถัง ภายใต้ขนาดกะทัดรัด ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.6 ลิตร 120 แรงม้า แรงบิด 160 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ

จุดเด่น

รถเปิดประทุน
Peugeot 207 CC

ด้วยปีที่ใหม่ ขนาดเหมาะมากสำหรับใช้งานในเมือง หรือท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดพักผ่อน อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงไม่สูง ดีไซน์ดูพรีเมียม พร้อมสไตล์ลิ่งชิค ๆ แบบรถฝรั่งเศสเป็นของแถม ชุดหลังคาแข็งพับได้นั้นสามารถเก็บเสียง กันลม กันฝนเหนือกว่าหลังคาผ้าใบ ได้อารมณ์ทั้งแบบรถเปิดประทุน และฮาร์ดท็อปคูเป้ ในคันเดียว

จุดด้อย

รถเปิดประทุน
ชุดหลังคาแข็งพับได้ อาจต้องหมั่นใช้งานสม่ำเสมอเพื่อยืดอายุกลไกเปิด-ปิดหลังคา

รถเปิดประทุน
อารมณ์การขับขี่ของ Peugeot 207 CC อาจไม่แตกต่างจากตัวถังซีดานและแฮชต์แบ็กมากนัก

สำหรับใครที่สนใจ Peugeot 207 CC ต้องไม่คาดหวังกับการขับขี่แบบรถสปอร์ต เพราะ Peugeot 207 CC มีตำแหน่งท่านั่ง และการบังคับควบคุมไม่ต่างจาก Peugeot 207 ตัวถังซีดานหรือแฮตช์แบ็กนัก ด้วยข้อจำกัดของการเป็นรถที่ขยับโดยสารไปด้านหน้ามาก (Cab Forward) รวมถึงความยาวของเสา A (เอื้อต่อกลไกการพับเก็บของหลังคาแข็ง) กินบริเวณขึ้นไปมากจนบดบังความปลอดโปร่งอย่างที่รถเปิดประทุนควรจะเป็น รวมถึงการดูแลรักษากลไกของหลังคาแข็งพับเก็บ-กางออกได้ ย่อมต้องการการบำรุงรักษามากกว่าหลังคาผ้าใบ

ดูประกาศขายรถ Peugeot 207

Mazda MX-5 (NB) ราคา 600,000-700,000 บาท

รถเปิดประทุน
Mazda MX-5 (NB) โฉมที่ 2 ได้รับความนิยมน้อยกว่า Mazda MX-5 โฉมแรก ทำให้ราคาน่าสนใจ

รายละเอียดตัวรถ

รถเปิดประทุน
นอกจากจุดเด่นของราคาแล้ว Mazda MX-5 (NB) มีให้เลือกในตลาดมากกว่าโฉมแรก และมีเกียร์อัตโนมัติ

Mazda MX-5 (NB) จัดเป็นรถสปอร์ตเบา หลังคาผ้าใบ 2 ที่นั่ง เจเนอเรชั่นที่ 2 ของรถสปอร์ตโรดสเตอร์ขายดีที่สุดในโลก ซึ่งโฉมแรกสร้างชื่อไว้จากการเป็นรถเปิดประทุนขับสนุก ด้วยความเบาและการบังคับควบคุมที่เป็นสปอร์ต (ไม่ได้สปอร์ตด้วยพละกำลังจากเครื่องยนต์) โดย Mazda MX-5 (NB) จะใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร 140/146 แรงม้า แรงบิด 162/168 นิวตันเมตร (ขึ้นอยู่กับรุ่นปี)

รถเปิดประทุน
Mazda MX-5 (NB) ยังคงมีชุดหลังคาแข็งถอดเก็บได้เป็นอุปกรณ์เสริมมาให้

จุดเด่น

รถเปิดประทุน
ตำแหน่งท่านั่งและการขับขี่​ให้อารมณ์รถสปอร์ตเบาแท้ ๆ

การขับขี่สนุกสนานตามแบบฉบับรถสปอร์ตเบา ขับเคลื่อนล้อหลัง และแม้ Mazda MX-5 โฉมที่ 2 รหัส NB จะไม่ได้รับความนิยมเท่ากับโฉมแรก (รหัสตัวถัง NA) ซึ่งจุดนี้เองทำให้ Mazda MX-5 รหัส NB เป็นรถเปิดประทุนมือสองที่น่าสนใจขึ้นมาทันที ด้วยราคาที่จับต้องได้ และมีเกียร์อัตโนมัติให้เลือก รวมถึงการบำรุงรักษาที่ไม่จุกจิกมากนัก

จุดด้อย

รถเปิดประทุน

รถเปิดประทุน
เบาะนั่ง Bucket Seat จากโรงงาน

ด้วยความที่ Mazda MX-5 (NB) ยังคงสืบทอดความเป็นโรดสเตอร์เน้นการขับขี่ ทำให้มีข้อจำกัดเรื่องจำนวนที่นั่ง (แม้ปกติแล้วเบาะ 2+2 ในรถเปิดประทุนขนาดเล็กมักใช้งานจริงลำบาก อย่างน้อยก็วางสัมภาระได้) อีกทั้งหลังคาผ้าใบแม้จะไม่ซับซ้อน แต่ความทนทานของวัสดุ รวมถึงระบบความปลอดภัยอาจสู้รถเปิดประทุนหลังคาแข็งรุ่นใหม่ ๆ ไม่ได้ แต่ก็มีชุดหลังคาแข็งติดตั้งและถอดออกได้เป็นอุปกรณ์เพิ่ม (ซึ่งไม่สะดวกนัก)

ดูประกาศขายรถ Mazda MX-5

Toyota MR-S ราคา 600,000-900,000 บาท

รถเปิดประทุน
Toyota MR-S

รายละเอียดตัวรถ

รถเปิดประทุน
Toyota MR-S เป็นรถสปอร์ตเล็กเพียงไม่กี่รุ่นที่มีเครื่องวางกลางลำ

รถสปอร์ตเบา 2 ที่นั่ง เครื่องวางกลางลำด้านท้าย ขับเคลื่อนล้อหลัง กำลังสูงสุด 140 แรงม้า แรงบิด 171 นิวตันเมตร ซึ่งมารับช่วงต่อจาก Toyota MR-2 เจนเนอเรชั่นที่ 2 ที่โด่งดังในไทยยุค 90 แต่โฉมนี้กลับไม่ได้รับความนิยมมากอย่างที่ Toyota คาดหวัง ประกอบกับอยู่ในยุคความต้องการรถสปอร์ตตกต่ำทั่วโลก Toyota จึงตัดจบรถสปอร์ตเครื่องวางกลางขนาดเล็ก ขับหลังที่ MR-S

รถเปิดประทุน
รถสปอร์ตเปิดประทุนเล็กอีกรุ่นในไทยที่มีเครื่องวางกลางลำคือ MGF แต่หายากกว่า

จุดเด่น

รถเปิดประทุน
เสน่ห์ของรถสปอร์ตเครื่องยนต์วางกลางลำคือการบังคับควบคุมที่ไว

ประสบการณ์การขับขี่ในแบบรถสปอร์ตเปิดประทุนเครื่องยนต์วางกลาง ขับเคลื่อนล้อหลัง หรือ Midship Engine Rear Wheel Drive (MR) ซึ่งให้การบังคับควบคุมที่ว่องไว (มาก) เป็นพิเศษด้วย Polar Moment ที่น้ำหนักตกอยู่กลางตัวรถ

จุดด้อย

รถเปิดประทุน
ภายในของ Toyota MR-S อาจไม่โดดเด่นเท่ากับการขับขี่

ด้วยคุณลักษณะของการเป็นรถสปอร์ตเครื่องวางกลางแม้จะมีการบังคับควบคุมที่ไว แต่อาจต้องใช้ความระมัดระวัง (เครื่องยนต์ไม่แรงจัดนัก) ความนิยม ความต่างของราคาในแต่ละรุ่นปีมีมาก รวมถึงขึ้นอยู่กับวิธีการนำเข้ามาจำหน่าย

รถเปิดประทุน
สิ่งที่ควรสังเกตในการซื้อ Toyota MR-S คือแหล่งที่มา นอกเหนือจากสภาพโดยรวม

ซึ่ง Toyota MR-S มีทั้งแบบที่ Toyota นำเข้ามาจำหน่ายเองอย่างเป็นทางการ กับแบบนำเข้าโดยเกรย์มาร์เก็ต โดยแบบหลังมักมีราคาจำหน่ายมือสองต่ำกว่า และจำเป็นต้องใช้ความระมัดระวังในการตรวจสอบก่อนซื้อพอสมควร

ดูประกาศขายรถ Toyota MR-S

Mercedes-Benz SLK (R170) ราคา 600,000-700,000 บาท

รถเปิดประทุน
Mercedes-Benz SLK-Class

Mercedes-Benz SLK-Class รหัส R170 ถือเป็นรถสปอร์ตเบาเปิดประทุนหลังคาแข็ง 2 ที่นั่ง โฉมแรกของ Mercedes-Benz และถึงแม้จะเป็นรถสปอร์ตดีไซน์นั้นค่อนข้างเรียบง่าย แต่ก็พยายามถ่ายทอดเอกลักษณ์ลอนฝากระโปรงหน้าคู่ตามแบบ Mercedes-Benz 300 SL โรดสเตอร์รุ่นดังในตำนานค่ายดาวสามแฉกมาด้วย โดยในส่วนของเครื่องยนต์มีให้เลือกใช้หลายขนาด หลายระดับพละกำลังตั้งแต่ 136-218 แรงม้า และทุกแบบจะอัดอากาศด้วยซูเปอร์ชาร์จทั้งหมด

*** ดูเพิ่มเติมราคา slk200 มือสองที่มีขายในประเทศไทย

รถเปิดประทุน
แค่ชื่อ Mercedes-Benz ก็เป็นรถในฝันของใครบางคนได้เลย

รถเปิดประทุน
Mercedes-Benz SLK ในไทยมีเครื่องยนต์ให้เลือกหลายรุ่น หลายที่มา

จุดเด่น

รถเปิดประทุน
ดีไซน์ของ Mercedes-Benz SLK โฉมแรกอาจไม่เฉียบคม แต่รถสปอร์ตค่ายดาวสามแฉกล้วนมีอนาคตสดใส

ภาพลักษณ์ดี การขับขี่ดี มั่นใจตามสไตล์ Mercedes-Benz หากอยู่ในสภาพสมบูรณ์ และในระยะยาวยังคงคุณค่าของความเป็นรถแบรนด์ Mercedes-Benz มีเครื่องยนต์ให้เลือกหลายระดับพละกำลัง

จุดด้อย

รถเปิดประทุน
ชุดหลังคาแข็งพับเก็บ-กางออกได้ด้วยไฟฟ้า คือจุดที่ต้องดูแลเพิ่ม

รถเปิดประทุน
ภายในเรียบ ง่าย แต่หนักแน่น เน้นการใช้งานตามแบบฉบับรถเยอรมนียุค 90

ด้วยความนิยมของแบรนด์ และชื่อชั้นของ Mercedes-Benz เป็นรถในฝันของใครหลายคน จึงทำให้มีราคาค่อนข้างสูง ได้รถปีเก่าลง รวมถึงค่าบำรุงรักษาหรือปรับสภาพอาจต้องจ่ายมากกว่ารถเปิดประทุนมือสองในระดับราคาใกล้เคียงกัน

ดูประกาศขายรถ Mercedes-Benz SLK

อย่างไรก็ตาม รถเปิดประทุนทั้ง 4 รุ่น อาจมีราคาต่ำหรือสูงกว่าราคากลางได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับหลาย ๆ ปัจจัย ทั้งรุ่นปี การดูแลรักษา สภาพความสมบูรณ์ รูปแบบการนำเข้ามาจำหน่าย ขนาดเครื่องยนต์ ล้วนมีผลต่อราคาทั้งสิ้น