5 รถซีดานมือสองน่าซื้อ ราคาไม่เกิน 400,000 บาท

ประสบการณ์ซื้อขายรถยนต์ | 28 ก.พ 2562
แชร์ 0

การมีรถยนต์สักหนึ่งคันไม่ได้แค่เติมเต็มความฝันของใครหลายคนเท่านั้น แต่ยังตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่สะดวกสบายมากขึ้นอีกด้วย แต่การซื้อรถก็มาพร้อมกับภาระค่าใช้จ่ายจำนวนมากเช่นกัน แล้วการซื้อรถมือสองก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจเช่นกัน

รวม 5 รุ่นรถซีดานมือสอง ราคาไม่เกิน 4 แสนบาทน่าใช้

รวม 5 รุ่นรถซีดานมือสอง ราคาไม่เกิน 4 แสนบาทน่าใช้

สำหรับรถยนต์นั่งซีดานหากจะเลือกซื้อมือหนึ่งป้ายแดง ก็คงราคาเฉียดล้าน หรือจ่ายมากกว่าครึ่งล้านบาทขึ้นไป ถ้าหากซื้อมือสองก็คงจะจ่ายในราคาน้อยกว่ากันมาก และวันนี้ Chobrod ได้รวบรวม 5 รุ่น รถซีดานมือสองน่าซื้อราคาไม่เกิน 4 แสนบาทมาให้เพื่อนๆ ใช้เป็นตัวเลือกในการตัดสินใจซื้อรถยนต์นั่งซีดานมือสองสักคันหนึ่งค่ะ

1. รถซีดานมือสองน่าซื้อ MG6 

MG6 ปี 2018 รุ่นซีดานกับราคามือสองเพียง 395,000 บาท

MG6 ปี 2018 รุ่นซีดานกับราคามือสองเพียง 395,000 บาท

สำหรับรุ่นแรกที่แนะนำคือ MG6 sedan 2018 395,000 บาท มาพร้อมกับรูปลักษณ์ที่เน้นเรียบง่าย แต่แฝงไว้ซึ่งความสปอร์ต อัดแน่นด้วยคุณภาพจากฟีเจอร์ที่ให้มามากมาย ด้วยดีไซน์การออกแบบ Brit Dynamic จาก MG อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ รูปทรง เฉียบคมด้วยเส้นสายที่ไม่ดูมากเกินไป ภายนอกติดตั้งไฟหน้า โปรเจคเตอร์ BI-XENON HID พร้อมปรับระดับไฟหน้าสูง-ต่ำ อัตโนมัติ ระบบไฟส่องสว่างด้านข้างขณะเลี้ยว (Cornering Lights) ระบบหัวฉีดน้ำล้างไฟหน้า Headlight Washer หลังซันรูฟปรับไฟฟ้าอัตโนมัติ และไฟท้าย LED

การตกแต่งภายในของ MG6 2018

การตกแต่งภายในของ MG6 2018

ภายในตกแต่งด้วยเบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง คู่หน้าปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง มาพร้อมพวงมาลัยหุ้มด้วยหนังแบบมัลติฟังก์ชั่น พร้อม Paddle Shift และ Cruise Control ระบบปรับอากาศแบบ Dual Zone พร้อมช่องแอร์ด้านหลัง เบรกมือไฟฟ้าพร้อมระบบ Auto Hold และแผงบังแดดกระจกบังลมหลัง ติดตั้งระบบ Infotainment มาให้อย่างครบครันทั้งหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth ระบบนำทาง Navigation System ระบบ inkaNet จาก MG และลำโพง 8 ตำแหน่ง

ช่วงท้ายของรถมาพร้อมกับความโฉบเฉี่ยวในสไตล์สปอร์ต

ช่วงท้ายของรถมาพร้อมกับความโฉบเฉี่ยวในสไตล์สปอร์ต

MG6 2018 มาพร้อมกับขุมพลังเครื่องยนต์เบนซินรหัส 18K4G แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว เทอร์โบ TCI-TECH ขนาด 1.8L ให้กำลังสูงสุดอยู่ที่ 161 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 215 Nm แบบขับเคลื่อนล้อหน้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 Speed Dual Clutch รองรับน้ำมันสูงสุดประเภท E85 ในด้านระบบความปลอดภัย MG6 2018 ให้ถุงลมนิรภัย 6 จุด (คู่หน้า, ด้านข้างคู่หน้า และม่านถุงลมนิรภัย) คานเหล็กนิรภัยที่ช่วยรับแรงกระแทกจากด้านข้าง กล้องมองภาพด้านหลัง Steering Wheel Reminder : ระบบแจ้งเตือนทิศทางของพวงมาลัยหลังสตาร์ทเครื่องยนต์  Dynamic Wheel Torque Control : ระบบควบคุมแรงบิดของล้อในขณะเข้าโค้ง  และ Tire Pressure Monitor System : ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง โดย MG6 sedan 2018 ในตลาดรถมือสองตอนนี้มีราคาเริ่มต้นที่ 395,000 บาท

ดูเพิ่มเติม
>> เช็คด่วน !! 5 อันดับรถมือสองน่าใช้ ในราคาไม่เกิน 2 แสนบาท
>> รถมือสอง Suzuki รุ่นไหนบ้างที่น่าซื้อ

2. รถซีดานมือสองน่าซื้อ Mitsubishi Atrage

Mitsubishi Atrage 2018 ดีไซน์แบบเรียบง่าย แต่แฝงไว้ซึ่งสมรรถนะที่ดีเยี่ยมอย่างลงตัว

Mitsubishi Atrage 2018 ดีไซน์แบบเรียบง่าย แต่แฝงไว้ซึ่งสมรรถนะที่ดีเยี่ยมอย่างลงตัว

MITSUBISHI ATTRAGE 2018 รถยนต์นั่งซีดานไซส์เล็กจาก Mitsubishi ที่ได้ผสานนวัตกรรม และการดีไซน์รูปลักษณ์จากเส้นสายที่ล้ำลึกได้อย่างลงตัว ภายนอกดีไซน์ด้วยความโฉบเฉี่ยวทันสมัยผสานรับกับกระจังหน้าแนวขวางเรียงซ้อนกันแบบโครเมียม ไฟส่องสว่างด้านหน้าแบบมัลติรีเฟลกเตอร์พร้อมชุดไฟตกแต่งแบบ LED บริเวณกันชนหน้า เสริมด้วยการติดตั้งไฟตัดหมอกคู่หน้าที่ได้รับการตกแต่งด้วยกรอบแบบโครเมียม และกันชนด้านหน้าสีเดียวกับตัวรถ เสริมด้วยการนำล้อเหล็กขนาด 14 นิ้ว พร้อมยาง ขนาด 175/65 R14 และฝาครอบล้อดีไซน์ใหม่ล่าสุดเพิ่มความเข้มสะกดทุกสายตา

ดีไซน์ภายในของ Mitsubishi Atrage 2018

ภายในตกแต่งอย่างประณีตจากวัสดุแบบเปียโนแบล็คพร้อมสร้างความโฉบเฉี่ยวมากยิ่งขึ้นด้วยเบาะนั่งหุ้มด้วยผ้า โดยเบาะนั่งด้านคนขับสามารถปรับระดับสูง-ต่ำได้ ติดตั้งพนักพิงศีรษะด้านหลัง 3 ตำแหน่ง เสริมด้วยไฟส่องสว่างบริเวณพื้นรถสีน้ำเงินรวมถึงสีขาว บริเวณประตูฝั่งคนขับได้รับการตกแต่งด้วยแผงครอบสวิตช์ประตูและกระจกไฟฟ้า ให้ความโดดเด่นมากยิ่งขึ้นจากฝาครอบบันไดสแตนเลสติดตั้งสัญลักษณ์ Mitsubishi Attrage  อำนวยความสะดวกสุดครบครัน อาทิ พวงมาลัยปรับระดับสูง-ต่ำได้ หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบอเนกประสงค์พร้อมมาตรวัดการขับขี่แบบ Semi High Contrast สัมผัสบรรยากาศอันสดชื่นด้วยระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ

ติดตั้งอุปกรณ์ความบันเทิงในทุกทริปการขับขี่ด้วยระบบอินโฟเทนเมนท์จาก 2 Din บนหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 6.2 นิ้ว พร้อมเครื่องเล่น DVD และ MP3 ติดตั้งระบบสั่งการผ่านคำสั่งเสียง Siri รองรับการเชื่อมต่อข้อมูลแบบไร้สายผ่านสัญญาณบลูทูธ เสริมด้วยการติดตั้งสวิตช์ควบคุมระบบเครื่องเสียง พร้อมสวิตช์ควบคุมการสั่งงานด้วยเสียง และ ปุ่มรับสาย-วางสายโทรศัพท์บนพวงมาลัย

Mitsubishi Attrage 2018 ในราคามือสองที่ 339,000 - 379,000 บาท

Mitsubishi Attrage 2018 ในราคามือสองที่ 339,000 - 379,000 บาท

Mitsubishi Attrage 2018 ติดตั้งขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน DOHC MIVEC 3 สูบ 12 วาล์ว ขนาด 1.2 ลิตร ให้กำลังสูงสุดได้มากถึง 78 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 100 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT เสริมด้วยนวัตกรรมท่อไอดีแบบพิเศษเพื่อให้อากาศไหลเข้าเครื่องยนต์ได้ดียิ่งขึ้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในทุกการขับเคลื่อน

ระบบความปลอดภัยให้การปกป้องจนถึงขีดสุดผ่านระบบป้องกันล้อล็อคขณะทำการเบรกแบบ ABS เสริมด้วยระบบกระจายแรงดันน้ำมันเบรคแบบอิเล็กทรอนิกส์ EBD พร้อมทั้งยังให้ทุกการเบรคหยุดนิ่งสนิทด้วยระบบเสริมแรงเบรคแบบ BA เสริมด้วยการติดตั้งระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชันแบบ HSA อีกทั้งยังได้รับการติดตั้งระบบความปลอดภัยแบบใหม่ล่าสุดระบบไฟกะพริบฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรคกะทันหันแบบ ESS ให้ทุกการขับขี่มั่นใจมากยิ่งขึ้นด้วยถุงลมนิรภัยด้านคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า เข็มขัดนิรภัยเบาะหลังแบบ ELR 3 จุด 3 ตำแหน่ง พร้อมระบบเตือนการคาดเข็มขัดนิรภัยด้านคนขับ และ จุดยึดเบาะเด็กแบบ Isofix 2 ตำแหน่ง ความคุ้มค่าของ Mitsubishi Attrage 2018 ทั้งหมดนี้ได้มาในราคามือสองที่ 339,000 - 379,000 บาท ถือว่าคุ้มค่ามากเลยทีเดียวนะคะ สำหรับรถซีดานมือสองรุ่นใหม่ ที่ราคาตกลงมาจาก 510,000 บาทแบบนี้

*สนใจซื้อรถ Mitsubishi Attrage มือสองSuzuki Ciaz มือสอง ราคาสวยๆ กดดูที่นี่ได้นะคะ

3. รถซีดานมือสองน่าซื้อ Suzuki Ciaz

Suzuki Ciaz 2018 อีโคคาร์ที่มีภาพลักษณ์พรีเมียม ในราคาเกินคุ้ม

Suzuki Ciaz 2018 อีโคคาร์ที่มีภาพลักษณ์พรีเมียม ในราคาเกินคุ้ม

Suzuki Ciaz 2018 อีกระดับของความเป็นอีโค คาร์กับดีไซน์ภายนอกสุดพิเศษ มอบอารมณ์ความหรูหราพรีเมี่ยมได้เหนือกว่า ด้วยไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์พร้อมไฟเลี้ยวภายในโคม ใช้วัสดุที่เป็นโครเมียมเพื่อตกแต่งในหลายจุด เพื่อช่วยเพิ่มมูลค่าของตัวรถทั้งในส่วนของกระจังหน้า คิ้วขอบประตู มือเปิดประตู และคิ้วฝากระโปรงหลัง ดีไซน์เส้นสายด้านข้างช่วยเพิ่มมิติให้กับตัวรถ ไฟท้ายดูเข้ากันดีกับคิ้วฝาท้าย และสปอยเลอร์หลังซึ่งจะมีมาให้ในรุ่น RS เช่นเดียวกับสเกิร์ตรอบคัน และล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว เพิ่มความโฉบเฉี่ยวให้มากยิ่งขึ้น

ภายในตกแต่งแบบเรียบง่าย ใช้วัสดุหนังแท้ผสม ตกแต่งด้วยโทนสีดำตัดกับสีเงินเมทัลลิก

ภายในตกแต่งแบบเรียบง่าย ใช้วัสดุหนังแท้ผสม ตกแต่งด้วยโทนสีดำตัดกับสีเงินเมทัลลิก 

ภายในห้องโดยสารมีการลดความหรูหราให้น้อยลงจากภายนอก มาพร้อมกับพวงมาลัยหุ้มหนังแบบมัลติฟังก์ชั่น เบาะนั่งหนังแท้ผสม สื่อสารให้เห็นถึงความพรีเมียมของรุ่นนี้ ตกแต่งด้วยโทนสีดำเป็นหลักสลับกับสีเงินเมทัลลิก แต่ยังคงไว้ซึ่งอุปกรณ์อำนวยความสะดวก และความบันเทิงแบบจัดเต็ม  เพิ่มช่องแอร์ด้านหลังมาให้ เพื่อแก้ปัญหาแอร์เย็นไม่ถึงเบาะหลัง อุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ติดตั้งมาให้ ได้แก่ ระบบ Keyless และ Push start ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมช่องแอร์ด้านหลัง และระบบกรองอากาศ พร้อมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนัง เบาะนั่งหุ้มด้วยหนังแท้และหนังสังเคราะห์ เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว เครื่องเล่นวิทยุ CD, MP3 รองรับ Bluetooth, SD Card รองรับการเชื่อมต่อ Suzuki Smart Connect, Apple CarPlay และ Mirror Link มาคู่กับระบบนำทาง พร้อมลำโพง 6 ตำแหน่งรอบคัน

ราคามือสอง Suzuki Ciaz 2018 อยู่ที่ 319,000 บาท

ราคามือสอง Suzuki Ciaz 2018 อยู่ที่ 319,000 บาท

Suzuki Ciaz 2018 มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์เบนซินรหัส K12B ขนาด 1.25L แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมการทำงานของระบบวาล์วแปรผันทั้งไอดี และไอเสีย VVT ให้กำลังสูงสุดอยู่ที่ 91 แรงม้า แรงบิดอยู่ที่ 118 Nm ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT และในรุ่นเกียร์ธรรมดาจะเป็นเกียร์ธรรมดา 5 Speed ระบบเบรกด้านหน้าเป็นดิสก์เบรกพร้อมช่องระบายความร้อน ส่วนด้านหลังเป็นแบบดรัมเบรก ติดตั้งระบบความปลอดภัยเริ่มแรกที่ความมั่นใจด้วยโครงสร้างนิรภัยเหล็กกล้า TECH คานเหล็กกันกระแทกด้านข้าง ติดตั้งถุงลมนิรภัยคู่หน้า พร้อมด้วยระบบช่วยในการขับขี่ทั้ง ABS, EBD มีมาให้ครบตามมาตรฐาน โดยราคาของ Suzuki Ciaz 2018 มือสองนั้นอยู่ที่ 319,000 บาท ถือว่าเป็นรุ่นที่คุ้มค่ามากเลยทีเดียว

4. รถซีดานมือสองน่าซื้อ Nissan Sylphy

Nissan Sylphy 2018 มาพร้อมกับรูปลักษณ์ภายนอกที่คงเดิม เสริมความหล่อด้วยกระจังหน้าแบบ V-Motion

Nissan Sylphy 2018 มาพร้อมกับรูปลักษณ์ภายนอกที่คงเดิม เสริมความหล่อด้วยกระจังหน้าแบบ V-Motion

Nissan Sylphy 2018 มาพร้อมกับรูปลักษณ์ภายนอกที่คงเดิม เสริมความหล่อด้วยกระจังหน้าแบบ V-Motion ขนาดใหญ่รับกับไฟหน้าแบบบูมเมอร์แรง พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน DRL กันชนหน้า-หลัง ออกแบบใหม่ และล้ออัลลอยลายขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 205/50 R17 ภายในตกแต่งเหมือนเดิมทุกประการ โดยติดตั้งพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบ 3 ก้าน ดีไซน์เดียวกับ Nissan Juke มาตรวัดเรืองแสงใหม่พร้อมจอแสดงข้อมูลสีความละเอียดสูง แบบ TFT 5 นิ้ว ให้มาคู่กับจอสัมผัส 5 กับ 5.8 นิ้ว พร้อมระบบ Nissan Connect รองรับหลากรูปแบบตั้งแต่ วิทยุดาวเทียม SiriusXM และรองรับการใช้งานโซเชียลเน็ตเวิร์ค ไม่ว่าจะเป็น Facebook หรือ Google Online พร้อมลำโพงคุณภาพ 8 ตัว จากแบรนด์ Bose เย็นสบายด้วยเครื่องปรับอากาศ Dual Zone แยกอุณหภูมิ ซ้าย-ขวา เบาะนั่งคนขับปรับด้วยไฟฟ้า 6 ทิศทาง พร้อมปุ่มปรับดันหลังไฟฟ้า

Nissan Sylphy 2018 มาพร้อมการตกแต่งภายในแบบเดิม แต่อัดแน่นความสะดวกสบาย และสมรรถนะที่ดีเยี่ยมในราคามือสอง 400,000 บาท

Nissan Sylphy 2018 มาพร้อมการตกแต่งภายในแบบเดิม แต่อัดแน่นความสะดวกสบาย และสมรรถนะที่ดีเยี่ยมในราคามือสอง 400,000 บาท

Nissan Sylphy 2018 มาพร้อมใช้ขุมพลังเครื่องยนต์เดิม 2 แบบ ได้แก่ เครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร 130 แรงม้า แรงบิด 178 นิวตันเมตร และเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ DIG 1.6 ลิตร 191 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 240 นิวตันเมตร เสริมด้วยระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ XTronic มีระบบ D-Step Logic Control กับ เกียร์ธรรมดา 6 สปีด นอกจากนี้ยังปรับปรุงระบบช่วงล่าง ทั้งปรับค่าสปริงและแดมเปอร์อีก 10 % เพื่อการเกาะถนนที่ดีขึ้น และระบบควบคุมเสถียรภาพ Active Understeer Control โดยได้เพิ่มออพชั่นความปลอดภัยใหม่มาให้ ทั้งระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ Automatic Emergency Braking ที่ให้เฉพาะรุ่นเกียร์อัตโนมัติทุกรุ่น และความปลอดภัยอื่นๆ ทั้งเตือนวัตถุเคลื่อนไหวด้านหลังรถ Rear Cross Traffic Alert, ระบบล็อกความเร็วอัตโนมัติอัจฉริยะ Intelligent Cruise Control, ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ Intelligent Emergency Braking และระบบเตือนมุมอับสายตา Blind Spot Warning มาในราคามือสองที่ 400,000 บาท

5. รถซีดานมือสองน่าซื้อ Nissan Almera

Nissan Almera 2018 อีกหนึ่งความคุ้มค่าของรถอีโคคาร์ดีไซน์สปอร์ต

Nissan Almera 2018 อีกหนึ่งความคุ้มค่าของรถอีโคคาร์ดีไซน์สปอร์ต

Nissan Almera 2018 มอบประสบการณ์ของการขับขี่อีโค คาร์ที่เหนือระดับมากยิ่งขึ้นด้วยการตกแต่งภายนอกที่มาพร้อมกับเส้นสายที่แฝงความสปอร์ต ผสานกับการติดตั้งกระจังหน้าแบบโครเมียมรมดำ ติดตั้งไฟหน้าแบบฮาโลเจนตกแต่งภายในด้วยสีโครเมียมรมดำพร้อมติดตั้งไฟเลี้ยวด้านข้าง เสริมด้วยการติดตั้งกันชนหน้าแบบสปอร์ต รวมถึงช่องระบายอากาศขนาดใหญ่เหนือกันชนหน้า มาพร้อมกับไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ DRL (Daytime Running Lights) ที่ปัดน้ำฝนด้านหน้าแบบหน่วงเวลา และ มือจับประตูด้านนอกแบบโครเมียม เพิ่มความสปอร์ตโฉบเฉี่ยวด้วยกระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถสามารถปรับและพับได้ด้วยไฟฟ้า โดดเด่นขึ้นอีกระดับด้วยสเกิร์ตด้านข้าง และ ด้านหลังดีไซน์พิเศษ พร้อมปลอกปลายท่อไอเสียแบบโครเมี่ยม อีกทั้งยังได้รับการติดตั้งสปอยเลอร์ทรงสปอร์ตช่วงล่างได้รับการติดตั้งล้ออัลลอยรมดำดีไซน์พิเศษขนาด 15 นิ้ว 185/65 R15 ให้ความโฉบเฉี่ยวได้อย่างลงตัว

ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยโทนสีดำ ให้อุปกรณ์อำนวยความสะดวกมาอย่างครบครัน

ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยโทนสีดำ ให้อุปกรณ์อำนวยความสะดวกมาอย่างครบครัน

ภายในห้องโดยสารกว้างขวางมากขึ้น มีการตกแต่งภายในห้องโดยสารด้วยโทนสีดำ พร้อมวัสดุแต่งภายในสีเงิน รวมไปถึงวัสดุตกแต่งแผงประตูตกแต่งด้วยผ้าและวัสดุสีเงิน เสริมด้วยมือจับประตูสีดำ พร้อมชุดคิ้วบันไดสเตนเลส เบาะนั่งหุ้มผ้าแบบสปอร์ตเย็บเก็บตะเข็บด้วยด้ายสีแดง เบาะนั่งคนขับเลื่อนหน้า-หลังและปรับเอนได้ พร้อมพนักพิงศีรษะสำหรับที่นั่งด้านหน้า และ ด้านหลัง รวมถึงพนักวางแขนเบาะหลังพร้อมที่วางแก้วน้ำ ติดตั้งพวงมาลัยหุ้มหนังปรับระดับสูง-ต่ำได้พร้อมตกแต่งด้วยแถบสีเงิน เสริมด้วยหัวเกียร์แบบยูรีเทน เพิ่มความสะดวกด้วยกระจกไฟฟ้ารอบคันพร้อมระบบป้องกันการหนีบด้านคนขับ และ ระบบเซ็นทรัลล็อค อีกทั้งยังได้รับการติดตั้งระบบกุญแจอัจฉริยะ Intelligent Key พร้อมระบบ Immobilizer , Panic Alarm รวมไปถึงปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์อัตโนมัติ Push Start

Nissan Almera 2018 มาพร้อมกับระบบอินโฟเทนเมนท์แบบครบครัน

Nissan Almera 2018 มาพร้อมกับระบบอินโฟเทนเมนท์แบบครบครัน

มาพร้อมกับมาตรวัดอัจฉริยะแบบสี MID และ นาฬิกาดิจิตอลบนหน้าปัด พร้อมเสียงสัญญาณเตือนลืมปิดไฟหน้า และ ระบบเตือนลืมกุญแจ ติดตั้งไฟห้องโดยสาร และ ไฟอ่านแผนที่ด้านท้าย รวมไปถึงระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติพร้อมตกแต่งวัสดุสีดำเปียโนแบล็ค ในด้านของระบบความบันเทิงได้ติดตั้งระบบอินโฟเทนเมนท์บนจอภาพระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว พร้อมลำโพงกว่า 4 ตำแหน่ง ช่องเชื่อมต่อ USB และ AUX เชื่อมต่อข้อมูลไร้สายผ่านสัญญาณบลูทูธ รวมถึงสามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนรองรับ Apple Carplay พร้อมระบบควบคุมเครื่องเสียงที่พวงมาลัย รวมถึงระบบนำทาง Navigation System ผ่านแอพลิเคชั่นสมาร์ทโฟน

Nissan Almera มาพร้อมกับโครงสร้าง Zone Body เพื่อความปลอดภัย ในราคา 395,000 บาท

Nissan Almera มาพร้อมกับโครงสร้าง Zone Body เพื่อความปลอดภัย ในราคา 395,000 บาท

Nissan Almera 2018 ติดตั้งเครื่องยนต์ HR12DE แบบ 3 สูบแถวเรียง DOHC 12V CVTC ขนาด 1.2 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 79 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 106 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที มีคุณสมบัติช่วยลดแรงเสียดทานน้ำหนักเบา อัตราเร่งดีให้แรงบิดสูงในรอบเครื่องยนต์ต่ำอีกทั้งยังประหยัดน้ำมัน โดยมีความจุถังเชื้อเพลิง 41 ลิตร ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์แปรผันอัจฉริยะ Xtronic CVT พร้อมระบบ Idling Stop ที่ถือเป็นเทคโนโลยีช่วยในการประหยัดน้ำมันและลดการปล่อยไอเสีย ระบบความปลอดภัยให้มาเต็มที่ผ่านฟีเจอร์พื้นฐานครบครัน รวมทั้งมาพร้ออมกับระบบโครงสร้างเพื่อความปลอดภัย Zone Body Concept ระบบป้องกันเด็กเปิดจากภายในรถ ให้ทัศนะวิสัยในการถอยหลังได้ดียิ่งขึ้นผ่านกล้องมองภาพขณะถอยหลัง พร้อมเซ็นเซอร์กะระยะถอยหลัง 3 จุด ระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบแม็คเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังเป็นแบบทอร์ชั่นบีมพร้อมด้วยเหล็กกันโคลง

Nissan Almera 2018 ให้คุณภาพมาอย่างอัดแน่น ในราคารถมือสองที่คุ้มค่าเพียง 395,000 บาท แม้ราคาจะไม่ได้แรงมาก แต่ในเรื่องของความเสถียรในการขับขี่ต้องยกให้เจ้าตัวนี้เลยทีเดียว

เป็นอย่างไรบ้างคะสำหรับ 5 รุ่นที่ได้แนะนำให้กับเพื่อนๆ ที่นอกจากจะคุ้มค่า สมรรถนะดีเยี่ยมน่าใช้ในราคาไม่เกิน 4 แสนบ้างแล้ว ยังเป็นรถรุ่นปีล่าสุดทั้งนั้นเลย หากเพื่อนๆ สนใจเข้าชมตลาดรถมือสองสามารถเชือกชมได้ที่ Chobrod.com นะคะ

ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้