รถยนต์ที่ขายดีที่สุดของ Toyota คงหนีไม่พ้นรถกระบะ แต่ถ้าไม่นับรถกระบะซึ่งเป็นรถกลุ่มที่นิยมมากที่สุดแล้ว Toyota Yaris นับเป็นรุ่นที่ขายดีที่สุดรองลงมา วันนี้เรามาดูกันว่าที่ขายดีขนาดนี้เป็นเพราะอะไร กับ 4เรื่องน่ารู้ของ Toyota Yaris
Toyota นับเป็นแบรนด์ที่ได้รับความน่าเชื่อถือในประเทศไทยจากลูกค้าในวงกว้าง สำหรับรถยนต์ที่เราจะมาพูดถึงกันในวันนี้คือรถยนต์ที่เป็นรถคันแรกของใครหลายๆคน ด้วยขนาดที่กะทัดรัดและราคาไม่สูงจนเกินไป Toyota Yaris นี้เป็นที่นิยมในตลาดโลกเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นในประเทศญี่ปุ่น, ออสเตรเลียและแคนาดาตั้งแต่โฉมแรกสุดที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 1999 แต่ตอนนั้นรถยนต์คันนี้ยังไม่ได้เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย จนกระทั่งวันนี้มีวิ่งกันเกลื่อนถนน ลองมาดูว่าเรื่องน่ารู้ต่างๆของรถยนต์ Toyota Yaris ที่เป็นรุ่นที่ทำเงินมากมายให้กับ Toyota Motor Thailand ได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ
Toyota Yaris ในปัจจุบันมีการปรับโฉมครั้งใหญ่กันมาทั้งหมด3ครั้งแล้ว ทำให้มันมีทั้งหมด 3 Generations โดย Generation แรกเป็น Generation ที่ไม่ได้เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย ออกขายในตลาดรถโลกตั้งแต่ปี 1999-2005 และก็ได้รับการตอบรับจากตลาดโลกเป็นอย่างดี ด้วยขนาดที่เล็กกะทัดรัดง่ายต่อการใช้งาน ราคายังไม่สูงจนเกินไป และยังประหยัดน้ำมันอีกด้วย ขนาดเครื่องยนต์ในตอนนั้นเป็นเครื่องยนต์ขนาดเล็กเพียง 1000ซีซีเท่านั้นเอง และสร้างแรงม้าได้เพียง50แรงม้า แต่ก็มีบ้างรุ่นที่ทำแรงม้าออกมาได้มากถึง150แรงม้ากรณีที่เป็นเครื่องยนต์เทอร์โบ
Toyota Yaris โฉมที่1 ที่ออกจะดูเชยไปนิด
Generationที่2 เป็น Generation ที่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในช่วงปี 2006-2013 โดยสโลแกนของรถยนต์ Toyota Yaris ในตอนนั้นคือ "Are you groovy?" ซึ่งเป็นศัพท์วัยรุ่นในตอนนั้นที่แปลว่าดึงดูดใจ รถยนต์รุ่นนี้เป็นรถยนต์ที่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยทั้งผลิตและจัดจำหน่ายอย่างเต็มรูปแบบ มีเครื่องยนต์ขนาดมาตรฐาน1.5ลิตร ให้กำลัง109แรงม้าที่6000รอบต่อนาที ไม่ใช่1.2ลิตรแบบที่เราเห็นในรุ่นที่ขายอยู่ในปัจจุบัน โดยในโฉมนี้เป็นโฉมเอาใจคนชอบรถยนต์ Hatchback โดยเฉพาะไม่มีรูปทรงซีดาน
Toyota Yaris โฉมที่2 ที่มีตลาดในประเทศไทย
Generationที่3 คือโฉมที่3 ที่ไม่ได้เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยเช่นกัน เน้นการทำตลาดในระดับโลกที่เน้นดีไซน์ที่ดูสปอร์ตขึ้น ในประเทศญี่ปุ่นรถยนต์ Toyota Yaris นี้มีชื่อเรียกว่า Vitz และก็ได้รับการตอบรับอย่างดีเช่นกันตั้งแต่ปี2010 และก็มีรุ่นที่เป็นขุมกำลังไฮบริดทำตลาดในทวีปยุโรปด้วย Toyota Yaris โฉมที่3นี้ในประเทศไทยเรามักจะไม่คุ้นเท่าไร เพราะว่าไม่ค่อยมีการพูดถึงกันมากนักและก็ไม่ได้ทำตลาดในบ้านเรา ทำให้เรื่องน่ารู้แบบนี้หลายคนเพิ่งจะเข้าใจว่ามีแค่โฉมเดียวจาก3โฉมหลักที่Toyotaนำมาทำตลาดในบ้านเรา
Toyota Yaris โฉมที่3ที่ดูสปอร์ตมากขึ้น
หลังจากประเทศไทยมีโครงการอีโคคาร์ รถยนต์จากค่ายผู้นำตลาด Toyota ก็ยังไม่ได้ทำตลาดออกมาทันทีทันใด ปล่อยให้ค่ายอื่นๆกวาดยอดขายกันไปจนอิ่ม และเมื่อ Toyota พร้อมก็นำชื่อ Yaris มาทำเป็นรถยนต์อีโคคาร์ในที่สุด
เพิ่มเติม
>> พาเทียบหาข้อได้เปรียบของ Toyota Yaris ที่ทำให้ขายดีกว่าคู่แข่ง ทิ้งห่างแบบเหนือ ๆ
>> TOYOTA YARIS ดีจริงหรือ? รวบรวมปัญหาการใช้งานและวิธีการแก้ไขจากผู้ใช้จริง
รถยนต์คันหนึ่งจะเข้าร่วมโครงการรถยนต์อีโคคาร์ในประเทศไทยได้นั้นมีกฏเกณฑ์อยู่หลายข้อ ซึ่งกฏข้อหนึ่งที่สำคัญคือต้องมีมาตรฐานการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงที่ไม่ต่ำกว่า 20กิโลเมตรต่อลิตร ดังนั้นการเอารถยนต์เครื่อง 1.5ลิตร (Toyota Yaris รุ่นเดิมในบ้านเรา) มาทำให้ผ่านโครงการรถยนต์อีโคคาร์ได้นั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก จึงมีการปรับขนาดเครื่องยนต์ให้กลายเป็น 1.2ลิตรอย่างในปัจจุบันซึ่งให้กำลังแรงม้าเป็นที่น่าพอใจที่ 86แรงม้า และโครงการอีโคคาร์แบบนี้ประเทศอื่นไม่มี นั่นหมายความว่าประเทศไทยเป็นประเทศเดียวที่ใช้ตัวถังรถยนต์ Yaris นี้แต่เครื่องยนต์เป็น 1.2ลิตร ในประเทศอื่นก็อาจจะมีชื่ออื่น (เครื่อง1.5ลิตร) เช่นในประเทศมาเลเซีย รถยนต์ Yaris เครื่อง 1.2ลิตรที่เห็นในบ้านเรา พอไปทำตลาดในประเทศมาเลเซีย กลับเป็นชื่อ Vios เครื่องยนต์ 1.5ลิตร ในมาเลเซียนั้นไม่แปลก ที่แตกต่างจากประเทศอื่นคือบ้านเราต่างหาก
รถยนต์รูปทรงเดียวกัน ต่างกันที่เครื่องยนต์และจากภาพคือ Toyota Vios ของมาเลเซียที่รูปทรงคือ Toyota Yaris บ้านเรา
*สนใจตลาดรถToyota Yaris มือสอง, Toyota Vios มือสองราคาสวยๆ กดดูที่นี่ได้นะคะ
เมื่อเทียบกับ Toyota Vios ถ้าไม่นับเรื่องแรงม้าที่ต่างกันเพราะขนาดเครื่องยนต์แล้ว แม้Toyota Yaris จะเป็นรถยนต์ขนาดเล็กที่สุดของ Toyota แต่จริงๆแล้วตัวถังไม่ได้เล็กจนอึดอัด เพราะว่าในความเป็นจริงมันก็เทียบเท่ากับรถยนต์ Vios นั่นเอง (เพราะตลาดในประเทศอื่นคือ Toyota Yaris ของไทยคือ Toyota Vios ของต่างประเทศนั่นเอง) การันตีได้อีกจากฐานของล้อที่มีความยาวที่สุดหากเรานำมาเทียบกับรถยนต์อีโคคาร์ด้วยกัน ทำให้การเกาะถนนทำได้ดียิ่งขึ้น ด้วยตัวถึงที่ใหญ่ระดับรถยนต์ B-Segment ทำให้พื้นที่เก็บสัมภาระไม่ได้เล็กเลย ถ้าใครเคยใช้รถยนต์ Toyota Yaris เครื่อง 1.5ลิตรของไทย จะรู้เลยว่าพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายรถนั้นแทบจะเล็กที่สุดในตลาดรถยนต์
ตัวถังรถใหญ่ไม่อึดอัดพร้อมที่เก็บสัมภาระท้ายที่กว้างขวาง
เรื่องน่ารู้ในข้อนี้ หลายๆคนอาจจะมองข้าม หรือไม่เคยรู้มาก่อน แม้ว่ารถยนต์ Toyota Yaris จะเป็นรถยนต์ขนาดเล็กสุดของ Toyota ที่ทำตลาดในประเทศไทย แต่เรื่องความปลอดภัยไม่ได้กั๊กเลย เพราะว่าระบบความปลอดภัยที่สำคัญๆทาง Toyota จัดมาให้หมด ไล่กันตั้งแต่ ระบบเบรก(ABS) ระบบกระจายแรงเบรก(EBD) ระบบเสริมแรงเบรก(BA) ระบบควบคุมการทรงตัว(VSC) รับบป้องกันล้อหมุนฟรี(TRC) ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน(HAC) ถุงลมนิรภัยคู่หน้าและข้าง ถุงลมนิรภัยม่านด้านข้าง ถุงลมนิรภัยด้านหัวเข่าฝั่่งคนขับ และที่สำคัญที่สุด ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้มีอยู่ในทุกรุ่นย่อยทั้ง5รุ่นของ Toyota Yaris และทุกรุ่นย่อยของ Toyota Yaris Ativ รวมทั้งหมด 10รุ่นย่อย เรียกว่าเป็นแบรนด์ที่ไม่กั๊กเรื่องระบบความปลอดภัยจริงๆ เพราะรถใหญ่ๆบางคันของค่ายอื่นยังมีแค่ถุงลมนิรภัยคู่หน้าเท่านั้น
ถุงลมนิรภัยแบบจัดเต็มรอบด้านรวมถึงม่านถุงลมด้วย
นี่คือ4เรื่องน่ารู้ของ Toyota Yaris ที่มีตลาดในไทยและสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้กับ Toyota ทั้งยังเป็นเซกเมนต์ที่ขายดีที่สุดรองลงมาจากรถกระบะอีกด้วย เราได้เห็นเรื่องราวเบื้องหลังของมัน ได้เห็นการมากลายเป็นรถยนต์อีโคคาร์ด้วยมาตรฐานการประหยัดน้ำมันที่มันทำได้ รวมไปจนถึงตัวถึงที่ใหญ่ระดับ B-Segment แถมไม่กั๊กเรื่องระบบความปลอดภัยอีก นับว่าเป็นรถยนต์อีกรุ่นหนึ่งที่น่ามีไว้ครอบครองจริงๆ
เพิ่มเติม
>> รวมหลากหลายปัญหาจาก Toyota Yaris 2019
>> เงินเดือนน้อยก็สอย Toyota Vios มือสองได้
ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้