สำหรับตลาดรถกระบะถือได้ว่า Isuzu D-max เป็นมือวางอันดับ 1 ของรถกลุ่มนี้เลยทีเดียว ในขณะที่ Mitsubishi Triton อยู่ในอันดับที่ 4 แต่สำหรับบทความนี้ Chobrod จะนำทั้ง 2 รุ่นนี้มาเปรียบเทียบกันให้เห็นไปเลยว่ารุ่นไหนดีกว่ากันอย่างไร
เรียกว่าตลาดของรถกระบะเองก็มีการแข่งขันสูงไม่น้อยหน้ารถกลุ่มอื่นๆ เลย วันนี้ Chobrod จะนำข้อมูลของรถกระบะ Isuzu D-Max และ Mitsubishi Triton ที่ถือเป็นคู่แข่งคนสำคัญกันในตลาดรถกระบะมาเปรียบเทียบกันให้เห็นความเหมือน และความต่างอย่างชัดเจน เพื่อเป็นส่วนช่วยให้คุณผู้อ่านสามารถตัดสินใจเลือกซื้อรถกระบะได้อย่างถูกใจ
Isuzu D-Max รถกระบะยอดขายอันดับ 1 ของเมืองไทย
Isuzu D-Max 2018
ปรับโฉมเบา ๆ อย่างมั่นใจสไตล์อีซูซุ ถึงแม้ว่าการออกแบบภายนอกของ จากการรีวิว Isuzu D-Max 2018 ใหม่ จะปรับไม่มาก เพราะ Isuzu มองว่านี่คือ "ขีดสุดแห่งดีไซน์" ภายใต้แนวคิด Sharp/ Aggressive/ Solid ที่มีเส้นสายต่อเนื่อง ดุดัน แต่ยังคงสปอร์ต เฉียบคม ล้ำสมัย ซึ่งตอบรับกับกระจังหน้าใหม่อย่างลงตัว นอกจากนี้ยังมาพร้อมไฟหน้า Bi-LED ให้ความสว่างขึ้น 63% ใช้พลังงานน้อยลง เรียกว่าเป็นครั้งแรกในวงการปิกอัพแต่ก็ไม่ได้มีให้ครบทุกรุ่นย่อย
Mitsubishi Triton นิยามใหม่ของกระบะพันธุ์แกร่ง
Mitsubishi Triton 2018
นิยาม “หน้าเข้ม แรงจัดประหยัดสุดด้วย เครื่องยนต์ 2.4ลิตร” ยืนยันความเป็นกระบะพันธุ์ใหม่แห่งยุคของ จากการรีวิว Mitsubishi Triton 2018 โดดเด่นทั้งสมรรถนะและความคุ้มค่าจากสุดยอดนวัตกรรมเครื่องยนต์ “2.4ลิตรไมเวคคลีน ดีเซล” ที่เพิ่งได้รับอีโคสติ๊กเกอร์ (ECO sticker) เครื่องหมายการันตีความประหยัดน้ำมันที่15.2 กิโลเมตรต่อลิตร มาพร้อมกับเทคโนโลยีความปลอดภัยชั้นเยี่ยมและอุปกรณ์ครบครัน พร้อมด้วยดีไซน์ใหม่ ดุ-เข้มด้วยกระจังหน้าโครเมียมรมดำสไตล์สปอร์ตโฉมใหม่ โฉบเฉี่ยว ตอบรับคนรุ่นใหม่ ที่ชื่นชอบดีไซน์ ดุ-เข้ม ตั้งเป้าเน้นกลยุทธ์ความคุ้มค่าด้านราคาและอุปกรณ์จัดเต็ม
ดูเพิ่มเติม
>> เปิดตัวแล้ว Isuzu D-Max Fury 2019 รุ่นพิเศษ ที่อังกฤษ
>> รอเลย!!! เตรียมสัมผัสตัวจริง Mitsubishi Triton Minorchange 9 พฤศจิกายนนี้
ภายนอกของ Isuzu D-Max ดูคม เข้ม ดุดันเช่นเคย มีการปรับเปลี่ยนแค่ไฟหน้าเล็กน้อย
Exterior Design
Isuzu D-Max 2018
ภายนอกของ Isuzu D-Max 2018 คือรูปลักษณ์ที่ลงตัวที่สุดในการเปลี่ยนโฉมมา โดยไม่ได้ปรับเปลี่ยนหน้าตาอะไรมากนัก เป็นเพียงการแต่งเติมเล็กน้อยให้ดูหน้าสนใจมากขึ้น ไฟหน้าดีไซน์ใหม่ให้มาเป็นแบบ Projector Lens แบบ Bi-LED ปรับระดับสูง-ต่ำ ได้ 4 ระดับ พร้อมไฟวิ่งกลางวันที่เป็นแบบ Multifunctional กระจังหน้าปรับดีไซน์เล็กน้อยจากการไมเนอร์เชนจ์เมื่อปี 2017 เช่นเดียวกับกรอบไฟตัดหมอก แต่ทั้งหมดทั้งมวลยังคงสื่อถึงอารมณ์ดีไซน์เดิม เพิ่มความพิเศษด้วยการรีเฟรชโมเดล ให้น่าซื้อยิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับตัวก่อน
Mitsubishi Triton Athlete กับดีไซน์ที่ดูสมบุกวมมบันมากกว่าเดิม
Mitsubishi Triton 2018
Mitsubishi Triton 2018 ได้รับการออกแบบมาเพื่อการใช้งานหนัก สมบุกสมบัน โดยภายนอกยังคงเดิมทุกประการแต่สีสันมีเสน่ห์ด้วย กระจังหน้าโครเมียมรมดำสไตล์สปอร์ต ไฟหน้า Projector แบบ HID พร้อมฐานไฟหน้าสีเทาดำ และเลนส์ไฟ LED Daylight แบบสีเทา บันไดข้างขนาดยาวกว่าเดิมถึง 34 เซนติเมตร พร้อมล้ออัลลอย ดีไซน์ลงตัวขนาด 17 นิ้วพร้อม ขนาด 245/65 R17
Isuzu D-Max มาพร้อมกับฟังก์ชั่นการใช้งานที่ทันสมัย ตกแต่งภายในด้วยหนังแบบ Soft Touch สี Piano Black
Interior Design
Isuzu D-Max 2018
ในการตกแต่งภายในห้องโดยสาร Isuzu จัดมาให้แบบไม่น้อยหน้าเก๋งหรูเนื้อดีทั้งหลายเลย ทั้งดีไซน์ หรือวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ มีลูกเล่นมากขึ้นตามรุ่นย่อยและราคาที่จ่ายเพิ่ม การตกแต่งมีทั้งการบุนุ่มด้วยหนังแบบ Soft Touch, ใช้สีดำ Piano Black, ลายไม้, การเดินตะเข็บด้ายด้วยสีส้ม ไปจนถึงโครเมี่ยม (รายละเอียดการตกแต่งขึ้นอยู่กับรุ่นย่อยแต่ละรุ่น) ส่วนของดีไซน์ภายในห้องโดยสาร ไม่เปลี่ยนแปลงจากโฉมก่อนไมเนอร์มากนัก แต่ดีไซน์โดดเด่นที่ลูกเล่นการตกแต่งอันหลากหลาย ตามแต่ละรุ่นย่อย จัดเต็มครบทุกองค์ประกอบ ให้คุณได้สัมผัสสิ่งที่เรียกว่า “ภายในห้องโดยสารคุณภาพ” ทั้งระบบความบันเทิงที่ทันสมัย มาพร้อมระบบการขับขี่ที่เอื้อต่อความสะดวกสบายมีมาให้ครบแบบ “ไร้ที่ติ”
Mitsubishi Triton จัดเต็มเรื่องฟังก์ชั่นการใช้งานที่สั่งการได้ง่ายเพียงปลายนิ้ว ตกแต่งด้วยเบาะหนังสีส้ม ตัดกับสีดำ
Mitsubishi Triton 2018
ถูกออกแบบให้เหนือระดับชั้นภายในห้องโดยสารกว้าง และอุปกรณ์จัดเต็มมาพร้อมมาตรวัดใหม่ และจอแสดงผลข้อมูลเอนกประสงค์ (Multi-information display) ที่แสดงผลข้อมูลหลากหลาย ชัดเจนมากขึ้น นอกจากนี้ยังเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้โดยสาร ด้วยการเสริมพนักพิงศีรษะในที่นั่งตอนหลังครบ3 ตำแหน่ง โดยได้รับการออกแบบ และพัฒนาขึ้นโดยนำผลการสำรวจความต้องการของลูกค้า และนำข้อเสนอของลูกค้ามาพัฒนาปรับปรุงภายใต้แนวคิดความคุ้มค่าของผลิตภัณฑ์ (Value for Money) โดยคำนึงถึงเรื่องสมรรถนะ อุปกรณ์จัดเต็ม และราคาที่คุ้มค่า เหมาะสำหรับผู้ใช้รถทุกคน
ขุมพลังเครื่องยนต์ทั้ง 2 รุ่น ของ Isuzu D-Max มาพร้อม Eco Sticker
ขุมพลัง
Isuzu D-Max 2018
Isuzu D-Max 2018 มีเครื่องยนต์มาให้เลือก 2 ขนาดได้แก่ เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 3.0L กับขุมกำลังภายใต้รหัส 4JJ1-TCX ขนาด 3.0L เทอร์โบ VGS Intercooler 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว DOHC Commonrail Direct Injection ให้กำลังม้าสูงสุดกว่า 177 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 380 Nm ทำงานร่วมกับระบบส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติ 6 Speed หรือแบบเกียร์ธรรมดา 5 Speed และเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 1.9L เครื่องยนต์ “Ddi Blue Power” แม้ว่าจะเป็นเครื่องยนต์ขนาดเล็กแต่แรงไม่เล็กตาม ภายใต้รหัส RZ4E-TC ขนาด 1.9L 4 สูบแถวเรียง เทอร์โบ VGS Intercooler 16 วาล์ว DOHC Commonrail Direct Injection ให้กำลังม้าสูงสุดอยู่ที่ 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 Nm พร้อมตัวเลือกทั้งระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 6 Speed หรือเกียร์ธรรมดา 6 Speed
เครื่องยนต์ Mivec พร้อมเสื้อสูบ และฝาสูบอลูมินัม อัลลอย บล็อก ลิขสิทธิ์เฉพาะของ Mitsubishi
Mitsubishi Triton 2018
Mitsubishi Triton 2018 โดดเด่นด้วยเครื่องยนต์2.4 ลิตรไมเวค คลีน ดีเซล เทอร์โบแปรผัน อินเตอร์คูลเลอร์ ขนาด 181 แรงม้าที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตรที่ 2,500 รอบ/นาที ครั้งแรกในรถกระบะกับนวัตกรรมเครื่องยนต์ดีเซลที่มาพร้อมเสื้อสูบและฝาสูบ อลูมินัม อัลลอย บล็อก ช่วยลดน้ำหนักของเครื่องยนต์ พร้อมระบบควบคุมการเปิดวาลว์ไอดีแบบแปรผัน เครื่องยนต์ MIVEC(Mitsubishi Innovative Valve Timing Electronic Control System) เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะมิตซูบิชิ ซึ่งได้รับอีโคสติ๊กเกอร์ (ECO sticker) เครื่องหมายคุณภาพการันตีประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงถึง 15.2 กิโลเมตรต่อลิตรในรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อดับเบิ้ลแค็บ พลัส นำเสนอจุดแข็งของระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ SS4-II (Super Select 4WD II All Wheel Control) ที่มีในมิตซูบิชิ ไทรทัน ดับเบิ้ลแค็บรุ่น GLS-LTD เกียร์อัตโนมัติเท่านั้นให้ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนโหมดจากระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ (2H) เป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (4H) แบบ Full-time All Wheel Control โดยไม่ต้องจอดรถ เพิ่มสมรรถนะการทรงตัวได้ดีขึ้น ในการขับขี่บนถนนทางเรียบลื่น และสามารถเปลี่ยนระบบขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า เป็น 4HLc หรือ 4LLc ในการขับขี่บนเส้นทางแบบออฟโรด ซึ่งเป็นระบบเดียวกับที่มีใน New Mitsubishi Pajero Sport
ช่วงล่างแน่นหนึบ สภาพถนนเอียงแค่ไหนก็ไม่หวั่น ได้รับการพิสูจน์มาแล้วในวันเปิดตัว
มาพร้อมกับระบบ ACTIVE SAFETY ระบบความปลอดภัยป้องกันก่อนเกิดอุบัติเหตุ
ระบบความปลอดภัย
Isuzu D-Max 2018
i-GRIP ช่วงล่างออกแบบพิเศษ ด้วยระยะฐานล้อ และช่วงล้อที่กว้างสมดุลกับขนาดตัวรถ เพิ่มประสิทธิภาพการทรงตัวเกาะถนนยิ่งขึ้น จัดวางตำแหน่งเครื่องยนต์แบบ Semi-midship ช่วยกระจายน้ำหนักให้สมดุล ช่วงล่างหน้า แบบอิสระปีกนก 2 ชั้น พร้อมคอยล์สปริง แหนบหลังยาวพิเศษแบบ Long Span นุ่มนวล เกาะถนน ออกแบบตำแหน่งที่นั่งให้ผู้ขับขี่เป็นหนึ่งเดียวกับรถ ให้ความมั่นใจในทุกการขับขี่ มาพร้อมกับระบบ ACTIVE SAFETY ระบบความปลอดภัยป้องกันก่อนเกิดอุบัติเหตุ อาทิ ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA (Hill-start Assist)ไฟซูเปอร์เดย์ไลท์แบบ Built-in ให้ความสว่างชัดเจนในเวลากลางวัน และเป็นไฟหรี่ในเวลากลางคืน เพิ่มทัศนวิสัยให้แก่ผู้ร่วมทาง ดิสก์เบรกหน้าขนาดใหญ่ ในรุ่น Hi-Lander พร้อมคาลิปเปอร์แบบลูกสูบคู่ หม้อลมเบรกขนาดใหญ่พิเศษ พร้อม Tied-bar เพิ่มความมั่นใจในการเบรก ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก ABS (Anti-Lock Brake System) แบบอิเล็กทรอนิกส์ ชนิด 4-channel 4-sensorระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake-force Distribution) ระบบเพิ่มแรงเบรกอัตโนมัติ BA (Brake Assist) ช่วยลดระยะการเบรกเมื่อเบรกกะทันหัน กล้องมองภาพขณะถอยจอด แบบ Built-in พร้อมเส้นกะระยะ Lane Guide ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ Auto Door-lock เมื่อรถวิ่งถึงความเร็วประมาณ 20-25 กม./ชม. ระบบป้องกันกระจกหนีบ (Window Jam Protection) ด้านคนขับ
ตัวถังนิรภัยเหล็กกล้า RISE Body มาพร้อมถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง
Mitsubishi Triton 2018
เพิ่มมาตรฐานความปลอดภัย โดยทุกรุ่นมาพร้อมโครงสร้างตัวถังนิรภัยเหล็กกล้า (RISE Body)พร้อมการออกแบบโครงสร้างส่วนหน้าให้สามารถดูดซับแรงกระแทกจากการชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังเพิ่มจุดยึดเบาะเด็ก ISOFIX 2 ตำแหน่งที่เบาะนั่งแถวที่ 2 และ ติดตั้งถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง พร้อมเข็มขัดนิรภัยด้านหน้าแบบดึงกลับอัตโนมัติ 2 ทิศทาง(2-way pretension) เข็มขัดนิรภัยด้านหลัง ELR3 จุด 3 ตำแหน่ง (Rear Seat Belt 3-Point ELRx3) ระบบเบรก ABS ระบบควบคุมการทรงตัวและป้องกันล้อหมุนฟรี ASTC ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน Hill Start Assist System (HSA) ระบบกระจายแรงเบรก EBD รวมทั้งระบบนำทางในรถยนต์ (Navigation System) รวมทั้งกล้องมองหลังขณะถอยจอด และระบบล็อกประตูอัตโนมัติ (Auto Door Lock By Speed Sensing) เมื่อรถมีความเร็ว 15 กิโลเมตร/ชั่วโมง
Isuzu D-Max 2018
Mitsubishi Triton 2018
สรุป
ในส่วนของดีไซน์ภายนอกถึงแม้ว่า Isuzu D-Max จะดูโฉบเฉี่ยวมากกว่า แต่ในขณะเดียวกัน Mitsubishi Triton ก็ดูแข็งแรงบึกบึน เหมาะกับการลุยในทุกสภาพพื้นที่ แต่ช่วงล่างของ Isuzu D-Max ที่เมื่อเทียบกันแล้วก็ยังแน่น และหนึบมากกว่า สำหรับฟังก์ชั่นที่ให้มาภายในรถก็ยังไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ Mitsubishi Triton ตอบโจทย์ในเรื่องของความทันสมัยมากกว่า ในส่วนของเครื่องยนต์ Mitsubishi Triton ตอบโจทย์ได้ดีกว่าในเรื่องความแรงของ และการเร่ง ในส่วนของการประหยัดน้ำมันเรียกได้ว่าคุ้มค่าในระดับเดียวกันเลยทีเดียว
สูสีกันมากเลยนะคะ สำหรับรถกระบะทั้ง 2 รุ่นนี้ที่เรียกได้ว่าเป็นอันดับต้นๆ ของตลาดรถกระบะในประเทศไทย แต่ถ้าหากท่านผู้อ่านอยากรู้ว่าทั้ง 2 รุ่นนี้ รุ่นไหนคุ้มค่ากว่ากันก็ขอแนะนำให้ไปลองขับดูทั้ง 2 รุ่นก่อนจะตัดสินใจเลือกซื้อกันนะคะ และคราวหน้า Chobrod จะเปรียบเทียบรถรุ่นอะไร อย่าลืมติดตามกันนะคะ
ดูเพิ่มเติม
>> Toyota Hilux Revo เหนือกว่ากระบะค่ายอื่นในเมืองไทยตรงไหน ???
>> ตามไปส่อง Toyota Hilux Revo 2018 ฉบับปรับปรุง
ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่
ติดตามราคารถยนต์ เชิญที่นี่