เทียบ Honda Brio และ Nissan March เลือกคันไหนดี?

ในบรรดารถยนต์เซกเมนต์ต่างๆ เซกเมนต์ที่จับต้องได้มากที่สุดและเป็นรถป้ายแดงก็คงหนีไม่พ้นรถยนต์กลุ่มอีโคคาร์ ที่มีเครื่องยนต์ขนาด1.2ลิตร และมีค่าการบำรุงรักษาไม่สูงจนเกินไป แม้ว่าเครื่องยนต์จะไม่ได้แรงปรู๊ดปร๊าดแต่ก็ถือว่าพอจะขับได้ยิ่งเป็นในเมืองยิ่งไม่มีปัญหา บางคันก็กระทัดรัดดี ขับง่ายอีกต่างหาก วันนี้เราจะมาดูกันว่ารถยนต์กลุ่มอีโคคาร์ที่ไม่ใช่แบรนด์นำอย่าง Toyota จะมีข้อดีและแง่มุมอย่างไรบ้าง สองคันนั้นที่จะนำมาเปรียบเทียบกันก็คือ Honda Brio และ Nissan March ซึ่งเป็นรถยนต์สไตล์ Hatchback ทั้งคู่ ถ้ามีเงินในมือสักก้อนหนึ่ง และอยากได้รถยนต์ราคาประหยัดขับในเมืองได้ดี นอกเมืองไม่แย่ จะเลือกคันไหนดี

เปรียบเทียบรถยนต์ Honda Brio และ Nissan March

1. เปรียบเทียบขุมกำลัง

รถยนต์ Honda Brio มีเครื่องบนต์แบบซิงเกิลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ (SOHC) 4สูบ i-VTEC พร้อมระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบหัวฉีดมัลติพอยท์ PGM-FI ปริมาตรกระบอกสูบ 1198ซีซี ให้่กำลังสูงสุด 90 แรงม้าที่6000รอบต่อนาที และมอบแรงบิดให้ถึง 110นิวตันเมตรที่4800รอบต่อนาที ซึ่งนับว่ากำลังแรงม้านี่มากกว่ารถยนต์เจ้าตลาดอย่าง Toyota Yaris ที่86แรงม้าเสียอีก ถึงว่าเวลาถามคนที่ขับ Honda Brio ไม่บอกว่าอืดเลย แต่ไม่ว่าอย่างไรได้ลองขับเองย่อมดีที่สุด

เครื่องยนต์ i-VTEC ของ Honda Brio จิ๋วแต่แจ๋ว

ลูกสูบของ Honda Brio ออกแบบมาเพื่อลดการเสียดสีภายในของกระบอกสูบเพิ่มประสิทธิภาพ

รถยนต์ Nissan March มีเครื่องยนต์รหัส HR12DE แบบ3สูบแถวเรียงแบบดับเบิ้ลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ พร้อมหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์มัลติพอยท์ (ECCS) ให้กำลังสูงสุด 79แรงม้าที่6000รอบต่อนาทีและแรงบิด106นิวตันเมตรที่4400รอบต่อนาที ต้องบอกเลยว่าเรื่องกำลังเครื่องยนต์ยังไงก็คงต้องยกให้ทาง Honda Brio ชนะไปแบบใสๆด้วยเครื่องยนต์แบบ4สูบ i-VTEC ที่มีกำลังแรงม้าและแรงบิดที่สูงกว่า

เครื่องยนต์3สูบ ใน Nissan March ที่อาจจะอืดไปหน่อย

2. เปรียบเทียบภายนอก

ภายนอกของรถยนต์ Honda Brio พูดกันตรงๆแล้วไม่มีอะไรโดดเด่นมากนัก ถ้าใครชอบดีไซน์ก็อาจจะเป็นเรื่องดีเพียงเรื่องเดียว ที่เหลือไม่มีอะไรหวือ ส่วนใหญ่ก็มาในแบบฉบับของ Honda ไล่กันตั้งแต่กระจังหน้าโครเมียมที่ออกแบบมาเป็นสีดำเงา พร้อมโลโก้ตรงกลาง ขนาบข้างซ้ายขวาด้วยไฟหน้าแบบมัลติรีเฟลกเตอร์ ส่วนล้อรถยนต์เป็นล้ออัลลอยขนาด14นิ้วกำลังดีเข้ากับขนาดของตัวรถ ด้านท้ายมีสปอยเลอร์หลังและที่ปัดน้ำฝนหลังมาให้เป็นที่เรียบร้อย

ภายนอกของรถยนต์ Honda Brio ที่ไม่ได้มีฟังก์ชั่นอะไรหวือหวามากนัก

ส่วนทางด้านของรถยนต์ Nissan March นั้นภายนอกเป็นที่คุ้นตาด้วยดีไซน์ที่มีให้เห็นมาเนิ่นนาน กระจังหน้าของมันยังคงเป็นโครเมียมพร้อมกับขอบช่องกันชนหน้าพ่นสีดำพร้อมด้วยไฟหน้าแบบฮาโลเจน และมีไฟส่องสว่างในเวลากลางวันหรือ Day Time Running Light กระจกมองข้างปรับด้วยไฟฟ้าและพับด้วยไฟฟ้า ท้ายมีสปอยเลอร์และไฟท้ายแบบ LED ส่วนล้อเป็นล้อเหล็กขนาด 14นิ้ว

ภายนอกของรถยนต์ Nissan March ที่คนไทยคุ้นเคยกันดี

ภายนอกของทั้งสองคันนี้ต่างก็มีจุดดีจุดด้อยที่แตกต่างกันไป แต่อย่างไรก็ตามโดยรวมก็ถือว่าหักลบไปได้พอๆกัน อยู่ที่ความชอบแล้วว่าชอบดีไซน์คันไหน ยกนี้ถือว่าให้เสมอกันก็แล้วกันครับ

เพิ่มเติม

>> 7 เรื่องที่จำเป็นต้องรู้ เมื่อคิดจะซื้อรถอีโคคาร์มือสอง
>> รถยนต์ยอดขายต่ำสุดในเซกเมนต์ที่นิยมที่สุดของไทย

3. เปรียบเทียบภายใน

ภายในของรถยนต์ Honda Brio นั้นเป็นสีโทนดำ และเบาะนั่งด้านหลังเป็นเบานั่งแบบปรับพับแบบชั้นเดียว ส่วนบริเวณมิเตอร์มีมาตรวัดแสดงอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง ไฟแสดงการขับขี่แบบ ECO ส่วนระบบปรับอากาศเป็นแบบอัตโนมัติ ส่วนระบบเครื่องเสียงเป็นแบบ2Dinพร้อมสวิทช์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย สามารถใช้ระบบมัลติมีเดียผ่านาช่องเชื่อมต่อUSBและการเชื่อมต่อBluetooth ซึ่งจะกระหึ่มออกมาผ่านทางลำโพงทั้ง4จุด

ภายในของ Honda Brio ที่ดูสีดำหรูหรา

ทางด้าน Nissan March นั้นภายในเป็นโทนสีดำ เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหลังแบบพับ 60:40 บริเวณมิเตอร์มีมาตรวัดแสดงอัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ระบบปรับอากาศเป็นแบบอัตโนมัติ เครื่องเสียงที่ให้มานั้นเป็นวิทยุพร้อมเครื่องเล่น CD MP3 แบบ1แผ่น และยังมาพร้อมกับช่อง AUX และ USB ด้วย เสียงทั้งหมดจะออกมากับลำโพงทั้งหมด4จุดหน้าหลังอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันโดยเฉลี่ย อุณหภูมิภายนอก ระยะทางที่สามารถขับต่อไปได้จากน้ำมันที่เหลืออยู่ แจ้งเตือนวันสำคัญ และระยะเวลาการซ่อมบำรุง ข้อดีอีกอย่างหนึ่งคือมีกุญแจอัจฉริยะพร้อมระบบ Immobilizer

ภายในของ Nissan March ที่ให้อะไรมามากมายเกินตัว

ภายในก็ต้องบอกเลยว่าทาง Nissan March ให้อะไรมาแบบเยอะเกินตัวจริงๆไม่ว่าจะเป็นระบบเครื่องเสียง และหน้าจอแสดงผลทางมิเตอร์ ที่เรียกว่าเหนือกว่าทาง Honda Brio ซ้ำยังมีระบบกุญแจอัจฉริยะที่ทั้งเปิดประตูและสตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยการกดปุ่ม ยกนี้ต้องยกให้ทาง Nissan March ชนะไป

4. เปรียบเทียบระบบความปลอดภัย

ระบบความปลอดภัยของ Honda Brio ก็ถือว่ามีตามฐานะเริ่มกันที่ระบบถุงลมนิรภัยคู่หน้า ระบบป้องกันล้อล็อก ระบบกระจายแรงเบรก ซึ่งเป็นระบบความปลอดภัยมาตรฐานตามแบบฉบับของรถยนต์อีโค ไม่มีอะไรหวือหวามากนักแต่ก็เป็นความปลอดภัยพื้นฐานที่คนขับรถยนต์ในประเทศไทยพึงได้รับ

ถุงลมคู่หน้าใน Honda Brio

ทางด้านความปลอดภัยของ Nissan March นั้นประกอบด้วยถุงลมนิรภัยคู่หน้า ระบบป้องกันล้อล็อก ระบบกระจายแรงเบรก ระบบเสริมแรงเบรก และเซนเซอร์ถอยหลัง 4จุด ซึ่งตัวเซนเซอร์กะระยะถอยหลังนี้เองที่ทำให้ทาง Nissan March เฉือนชนะเรื่องระบบความปลอดภัยไปได้ในยกนี้

เซนเซอร์ถอยหลังใน Nissan March

ถุงลมนิรภัยคู่หน้าใน Nissan March

5. เปรียบเทียบราคา

สำหรับราคา Honda Brio นั้นมีเพียงเกรดเดียวสำหรับ Hatchback ที่ราคา 495,000 บาท ในรุ่น V CVT ซึ่งเป็นรุ่นเดียวที่ทาง Honda ทำออกมาเพื่อ Honda Brio แบบ Hatchback

ทาง ราคา Nissan March นั้นมีหลายเกรดหลายราคาให้เลือกดังนี้

1.2S MT ราคา 420,000 บาท

1.2E MT ราคา 479,000 บาท

1.2E CVT ราคา 493,000 บาท

1.2EL CVT ราคา 526,500 บาท

ถือว่าราคาทั้งสองคันนี้ใกล้เคียงกัน ส่วนราคาที่ต่ำกว่าของ Nissan March ก็เพราะเรื่องของเกียร์ที่เป็นแบบธรรมดา ส่วนในรุ่นท็อปนั้นก็มีอะไรหลายอย่างที่แตกต่างจาก Honda Brio ที่เห็นกันชัดๆคือเรื่องของระบบสตาร์ทเครื่องยนต์อัจฉริยะและระบบ Smart Entry ที่ราคาต้นทุนสูงกว่าในรุ่นท็อปของ Nissan March

สรุปรวบยอด

สำหรับการเลือกสองคันนี้ถ้าเน้นเรื่องความแรงยังไงก็คงต้องไปที่ Honda Brio แม้จะมีอ็อฟชั่นต่างๆด้อยกว่าเล็กน้อยแต่ก็ไม่ถึงกับหงุดหงิด มิเช่นนั้นจะมาหงุดหงิดที่การเหยีบเร่งที่ไม่ได้ดังใจ ส่วนใครไม่ได้สนเรื่องกำลังเครื่อง ขับชิลๆในเมืองเป็นหลัก ไปทาง Nissan March น่าจะดีกว่าเพิ่มเงินอีกหน่อยแต่ได้ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยปุ่มและ Smart Entry ก็ทำให้สะดวกในการใช้งานมากอยู่ โดยเฉพาคุณผู้หญิงที่เอากุญแจไว้ในกระเป๋าได้ตลอดแล้วคุณจะลืมเรื่องกุญแจรถยนต์ไปได้เลย

เพิ่มเติม

>> Mitsubishi Mirage VS Nissan March เลือกคันไหนคุ้มค่ากว่ากันคุณเป็นคนตัดสินใจ !!
>> อัพเดทโปรโมชั่นล่าสุดของค่าย Honda!!

ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่  
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้