สำหรับในช่วงต้นปี 2017 นี้ มีรถยนต์เปิดตัวใหม่หลายรุ่นและทยอยเปิดตัวตามมาเรื่อยๆ ตลอดทั้งปี เริ่มกันที่ช่วงไตรมาสแรกก็มีหลากหลายค่ายที่เผยโฉมรุ่นเด็ดๆ ออกมาเพียบ จะมีรุ่นใดบ้างเชิญชมกันเลยครับ
1. Honda CITY 2017 (ฮอนด้า ซิตี้ 2017) : เปิดตัววันที่ 13 ม.ค. 60
Honda CITY 2017 (ฮอนด้า ซิตี้ 2017)
จุดเด่นของ ฮอนด้า ซิตี้ 2017 คือไฟหน้าแบบ LED (เฉพาะรุ่น) เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ SOHC i-VTEC 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 117 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 146 นิวตัน-เมตร ที่ 4,700 รอบต่อนาที มาพร้อมระบบเกียร์ CVT ที่พัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันที่ 17.9 กิโลเมตรต่อลิตร และรุ่นเกียร์ธรรมดา ให้อัตราการประหยัดน้ำมันที่ 18.2 กิโลเมตรต่อลิตร รองรับพลังงานทางเลือก E85 ระบบความปลอดภัยล้นคัน ทั้งถุงลมคู่หน้า ถุงลมด้านข้างคู่หน้าแบบอัจฉริยะ และม่านถุงลมด้านข้าง ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (VSA) ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA) สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS) และกล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ
Honda City 2017 เหมาะกับผู้ที่กำลังมองหารถคันแรก ทั้งการขับไปเรียน, ทำงาน หรือผู้ที่ต้องการใช้เป็นรถครอบครัวขนาดกลาง เดินทางคนเดียวหรือมีผู้โดยสาร 1 - 2 คนบ้าง เน้นการใช้งานเมือง เพื่อความคล่องตัว จอดง่าย ประหยัด พร้อมฟังก์ชันและเทคโนโลยีความปลอดภัยที่เกินมาตรฐาน ราคาไม่สูงนักตั้งแต่ 550,000 บาท จนถึง 751,000 บาท
ดูราคา-สเปค และโปรโมชั่น Honda City ทุกรุ่น
2. Nissan Note 2017 (นิสสัน โน้ต 2017): เปิดตัววันที่ 16 ม.ค. 60
Nissan Note 2017 (นิสสัน โน้ต 2017)
จุดเด่นของ Nissan Note 2017 คือ กว้างขวางเทียบเท่ารถระดับ B-segment ให้ความอเนกประสงค์ ขนาดกระทัดรัดคล่องตัวสไตล์รถแฮตช์แบ็ก 5 ประตูท้ายตัด เครื่องยนต์สุดยอดประหยัดแต่แรงเกินตัว รหัส HR12DE 3 สูบแถวเรียง DOHC 1,198 ซีซี 79 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 106 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 รอบต่อนาที เกียร์ xtronic CVT D-STEP logic แถมยังมาพร้อมเทคโนโลยีระบบ Intelligent Around View Monitor (AVM) กล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง AVM ระบบ Intelligent Forward Collision Warning (FCW) ระบบช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้าอัจฉริยะ ระบบ Intelligent Emergency Braking ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ ระบบ Lane Departure Warning
นิสสัน โน้ต 2017 เหมาะกับผู้ที่ต้องการรถยนต์ขนาดเล็ก - กลาง เน้นความประหยัด แต่ให้สมรรถนะพอตัวและมีระบบความปลอดภัยกับระบบช่วยเหลือการขับขี่ที่เพิ่มความสะดวกสบายมากขึ้น ภายในอเนกประสงค์ไม่แพ้รถระดับ B-segment กว้างขวาง เหมาะทั้งครอบครัวขนาดกลาง หรือนักศึกษาวัยเรียนและวัยเริ่มทำงาน เพื่อความสะดวกคล่องตัว ประหยัดและคุ้มค่าและไลฟ์สไตล์กิจกรรมที่หลากหลาย โดยมี 2 รุ่นย่อยคือ Nissan Note V ราคา 568,000 บาท Nissan Note VL ราคา 640,000 บาท
ดูราคา-สเปค และโปรโมชั่น Nissan Note ทุกรุ่น
3. Toyota Vios 2017 (โตโยต้า วีออส 2017): เปิดตัววันที่ 23 ม.ค. 60
Toyota Vios 2017 (โตโยต้า วีออส 2017)
จุดเด่นของ Toyota Vios 2017 คือ สปอร์ตมากขึ้นด้วยไฟหน้าทรงใหม่ โคมโปรเจ็คเตอร์ กระจังหน้าใหม่ กันชนและช่องดักลมสไตล์เดียวกับรถยนต์รุ่นใหญ่อย่าง Altis และ Camry พร้อมไฟตัดหมอก และ Daytime Running Light เครื่องยนต์รุ่นปรับปรุงใหม่ รหัส 2NR-FBE แบบเบนซิน 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว Dual VVT-i ระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติ CVT 7 จังหวะพร้อม Sequential Shift ความจุ 1,496 ซีซี กำลังสูงสุด 108 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 140 นิวตัน-เมตร ที่ 4,200 รอบต่อนาที รองรับเชื้อเพลิง E85 มาพร้อมระบบความต่างๆ ครบครัน ระบบควบคุมการทรงตัว (VSC) ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) ระบบกระจายแรงเบรก (EBD) ระบบเสริมแรงเบรก (BA)
โตโยต้า วีออส 2017 เหมาะกับผู้ที่ต้องการใช้งานแบบครอบครัว ดูแลรักษาง่ายทั้งการใช้งานช่วงเริ่มต้นไปถึงพึ่งพาอู่นอกศูนย์ ความทนทานของเครื่องยนต์ที่ไม่มีปัญหาจุกจิกกวนใจ เพราะเทคโนโลยีที่พัฒนาต่อยอดจากรุ่นก่อนหน้า ขึ้นชื่อเรื่องความทนทาน ภายในนับว่านั่งได้พอดีตัวไม่แคบจนเกินไป และเน้นเพลิดเพลินกับการขับขี่ ช่องใส่ของเล็กๆ น้อยที่อาจมีจำกัดบ้าง แต่โดยรวมแล้วนับว่าได้ในเรื่องความมั่นใจทั้งตัวรถ บริการหลังการขายรวมถึงราคาขายต่อที่แข็งแรง สมกับเป็นรถขวัญใจมหาชน ราคาตั้งแต่ 609,000 - 789,000 บาท
ดูราคา-สเปค และโปรโมชั่น Toyota Vios ทุกรุ่น
4. Mazda 3 Y 2017 (มาสด้า 3 ปี 2017): เปิดตัววันที่ 24 ม.ค. 60
Mazda 3 Y2017 (มาสด้า 2 ปี2017)
จุดเด่นของ Mazda 3 2017 คือ ไฟหน้า LED Headlamp พร้อมด้วยระบบอัจฉริยะปรับองศาอัตโนมัติอิสระซ้าย-ขวา ตามสภาพการขับขี่บนถนน และไฟ Daytime Running Lamp ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ (ALH) ภายในล้ำด้วย Display คอนโซลฝั่งคนขับหน้าจอ Active Driving Display และมาตรวัดต่างๆ แสดงผลให้ชัดเจนอ่านง่ายยิ่งขึ้น เครื่องยนต์เบนซิน PE-VPS DOHC 16 วาล์ว SkyActiv พร้อมวาล์วแปรผันคู่ Dual S-VT Electronic Direct injection 4 สูบ 1,998 ซีซี กำลังอัดสูงสุด 14.0 : 1 กำลังสูงสุด 165 แรงม้า ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า เกียร์ออโต้ 6AT (SkyActiv-Drive พร้อมแมนนวลโหมด Activematic) รองรับเบนซิน E85 อัตราสิ้นเปลือง 15.6 กม./ลิตร พร้อมความปลอดภัยด้วยระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติ (SCBS) ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ (SBS) ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (ABSM) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LAS) ระบบช่วยเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (DAA) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (MRCC) , DSC (Dynamic Stability Control ช่วยควบคุมเสถียรภาพ และการทรงตัวของรถ), HLA ช่วยในการออกตัวรถขณะอยู่บนทางลาดชัน และ TCS ช่วยป้องกันรถเลื่อนไถล
มาสด้า 3 ปี 2017 เหมาะกับผู้ที่ต้องการความภูมิฐาน เพิ่มความมั่นใจทั้งการขับขี่ ด้านภาพลักษณ์ที่สปอร์ตผสานความหรู ขยับสเต็ปจากรถขนาดเล็กหรือ B-segment ขึ้นมาเป็น C-segment หรือสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความสปอร์ตเร้าใจ เครื่องยนต์ที่แรง ช่วงล่างหนึบแน่นราวรถยุโรป ฟังก์ชันอำนวยความสะดวกเกินตัว และระบบช่วยในการขับขี่ที่ให้มาอีกเพียบพร้อมราคาเร้าใจตั้งแต่ 847,000 - 1,119,000 บาท
ดูราคา-สเปค และโปรโมชั่น Mazda 3 ทุกรุ่น
5. Mazda 2 Y2017 (มาสด้า 2 ปี2017) : เปิดตัววันที่ 16 ม.ค. 60
Mazda 2 Y 2017 (มาสด้า 2 ปี 2017)
จุดเด่นของ Mazda 2 ใหม่ ปี 2017 คือ ภายนอกดูสปอร์ตมากขึ้น มาพร้อมเทคโนโลยี SKYACTIV-D 1.5 เครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล พร้อมเทอร์โบแปรผันอินเตอร์คูลเลอร์ แรงบิดสูงถึง 250 นิวตัน-เมตร ประหยัดน้ำมันถึง 26.3 กม./ลิตร* และ SKYACTIV-G 1.3 เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 1300 ซีซี 93 แรงม้า แรงบิดสูง 123 นิวตัน-เมตร ประหยัดน้ำมันถึง 23.3 กม./ลิตร* มาพร้อมระบบ i-ELOOP (Mazda Regenerative Braking System) เปลี่ยนพลังงานที่สูญเสียจากการลดความเร็วให้เป็นพลังงานไฟฟ้าช่วยประหยัดพลังงานและน้ำมันเชื้อเพลิงลงได้ถึง 10% (เมื่อใช้ร่วมกับระบบประหยัดน้ำมัน i-STOP) และ ระบบ i-STOP (Idling Stop System) ระบบ MZD CONNECTระบบ ABSM (Advanced Blind Spot Monitoring) ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลนระบบ RCTA (Rear Cross Traffic Alert) ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง Active Driving Display จอสกรีนใส แสดงข้อมูลการขับขี่ที่สำคัญ ระดับความเร็ว และข้อมูลระบบนำทาง Navigator เรียกว่าล้นคันเลยสำหรับมาสด้า 2 ตัวน้อยรุ่นนี้
มาสด้า 2 ใหม่ ปี 2017 เหมาะกับหนุ่มๆ หรือสาวๆ ที่ต้องการรถยนต์เน้นความสปอร์ต เทคโนโลยีลำหน้า ขับสนุกสมรรถนะดี ดีไซน์ไม่ซ้ำใคร คล่องตัวทุกสภาพถนน ให้ความปลอดภัยเกินตัว และมีอุปกรณ์เพื่อความสะดวกสบายราวกับรถยนต์หรูขนาดใหญ่ ในราคาเทียบเท่ารถขนาด B-segment ราคาตั้งแต่ 530,000 - 789,000 บาท และมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล
ดูราคา-สเปค และโปรโมชั่น Mazda 2 ทุกรุ่น
6. Suzuki Swift RX-II 2017 (ซูซูกิ สวิฟท์ 2017)
Suzuki Swift RX-II 2017
จุดเด่นของ Suzuki Swift RX-II 2017 คือ ไฟหน้าที่ปรับระดับได้ตามน้ำหนักบรรทุก ไฟท้ายลายใหม่ ล้อแม็กสีดำดุดันขึ้น เครื่องยนต์ K12B 4 สูบ 16 วาล์ว VVT 1,242 ซีซี กำลังสูงสุด 91 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 118 นิวตันเมตร ที่ 4,800 รอบต่อนาที เกียร์อัตโนมัติ CVT แรงพอตัว ประหยัดน่าพอใจ
ซูซูกิ สวิฟท์ อาร์เอ็กซ์-ทู เหมาะกับผู้ต้องการรถอีโคคาร์ขนาดกะทัดรัด คล่องตัว ขับสนุกอัตราเร่งดี ช่วงล่างหนึบ วัสดุการประกอบที่เกินรถระดับนี้ เน้นความประหยัด ใช้งานคนเดียวหรือมีผู้โดยสาร 2 - 3 คน วัยกำลังเรียนใกล้จะจบ หรือเริ่มทำงาน บางครั้งก็เป็นรถคันที่ 2 สลับใช้กับรถยนต์คันใหญ่ที่มีอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังนำมาตกแต่งให้ดูสปอร์ตได้อีกด้วย ในราคา 599,000 บาทเท่ารุ่นเดิม
ดูราคา-สเปค และโปรโมชั่น Suzuki Swift ทุกรุ่น
7. BMW 5 Series 2017 (บีเอ็มดับเบิ้ลยู ซีรีย์ 5 ปี 2017): เปิดตัววันที่ 27 ก.พ. 60
BMW 5 Series 2017
จุดเด่นของ BMW 5 Series ปี 2017 ใหม่ คือ ไฟหน้า LED ที่เป็นเอกลักษณ์และได้รับการออกแบบมาเพื่อบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 ซีดาน ใหม่ โดยเฉพาะ โดยมีระบบปรับการกระจายแสงให้เหมาะสมกับเส้นทางที่ขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่ม แสงสว่างในมุมอับในขณะเข้าโค้ง หรือระบบปรับการทำงานไฟสูงอัตโนมัติในระยะไกลสุด 500 เมตร ภายในห้องโดยสาร มีการเพิ่มพื้นที่เก็บของและพื้นที่วางขาสำหรับผู้โดยสารในห้องโดยสาร นอกจากนี้ เทคโนโลยี SYNTAK (Special Synergy Thermoacoustic Capsule) ยังช่วยเสริมการเก็บเสียงของห้องโดยสารเพื่อความผ่อนคลายสูงสุดของผู้โดยสาร
ขุมพลังในรุ่น 530i M sport เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร 252 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตันเมตร มีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยที่ 17.5 กิโลเมตรต่อลิตร อัตราเร่ง 0 - 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 6.2 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
และในรุ่น 520d Luxury แบบดีเซล 4 สูบ 2.0 ลิตร 190 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตันเมตร อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 20 กิโลเมตรต่อลิตร อัตราเร่ง 0 - 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 7.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 235 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
บีเอ็มดับเบิ้ลยู 5 ซีรีส์ ปี 2017 ใหม่ เหมาะกับนักบริหารรุ่นใหม่ไฟแรงที่ต้องการความภูมิฐาน ความสะดวกสบาย รวมภาพลักษณ์ความสปอร์ตและความหรูอย่างลงตัว หรือนักธุรกิจที่ชอบขับรถด้วยตัวเองบ่อยๆ เพื่อความสนุกเร้าใจกับพลังของเครื่องยนต์และความแม่นย้ำของช่วงล่าง มีให้เลือก 2 รุ่นคือ 530i M Sport ราคา 4,399,000 บาท และ 520d Luxury ราคา 3,899,000 บาท
8. MINI John Cooper Works Clubman 2017 (มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์กส์ คลับแมน 2017): เปิดตัววันที่ 27 ก.พ. 60
Mini John Cooper Works Clubman 2017
จุดเด่นของ Mini John Cooper Works Clubman คือ รูปทรงสปอร์ตผสานกับรถอเนกประสงค์สมรรถนะสูงด้วยเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อหรือ ALL4 เทคโนโลยี Mini TwinPower Turbo กำลังสูงสุด 231 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0 - 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลา 6.3 วินาที เกียร์อัตโนมัติ Steptronic Sport Automatic 8 จังหวะ อุปกรณ์ชุดแต่งรอบคัน aerodynamics ล้อแม็ก John Cooper Works Course Spoke Two-tone ขนาด 19 นิ้ว พร้อมดีไซน์และแต่งในสไตล์ John Cooper Works ทั้งภายนอกภายใน พวงมาลัยหนังแท้พร้อมระบบมัลติฟังก์ชันรวมถึงเบาะสปอร์ตพิเศษ John Cooper Works ระบบแสดงผล Head-Up Display และจอขนาด 8.8 นิ้ว ที่อยู่บริเวณกลางแผงคอนโซลรถมาพร้อมระบบสัมผัส (ทัชสกรีน) ใหม่ล่าสุด
มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์กส์ คลับแมน 2017 เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบความแรง ขับสนุก สมรรถนะเร้าใจ ให้ความคล่องตัว ภายในอเนกประสงค์ปรับเปลี่ยนรูปแบบเบาะเพื่อใช้งานได้หลากหลาย ฟังก์ชันใช้งานสะดวกสบายเทียบเท่ารถหรู สามารถเดินทางได้ทั้งครอบครัว เดินทางไกลบ่อยๆ ใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อได้อย่างสนุกและปลอดภัย หากใครได้ลองขับแล้วอาจเปลี่ยนใจจากรถหรูคันใหญ่มาใช้เจ้ามินิก็เป็นได้ รุ่นตกแต่งพิเศษ John Cooper Works ราคา 3,588,000 บาท
9. Isuzu MU-X 2017 : เปิดตัววันที่ 4 มี.ค. 60 นี้
Isuzu MU-X 2017 (อีซูซุ มิว-เอ็กซ์ 2017)
จุดเด่นของ Isuzu MU-X ปี 2017 คือ กระจังหน้าดีไซน์ใหม่ แบบ Sport 3D ให้มิติสูงสง่า เด่นชัด สปอร์ต หรูหราขึ้นอีกระดับด้วยไฟหน้าดีไซน์ใหม่ แบบ Bi-LED ปรับระดับสูง-ต่ำอัตโนมัติ พร้อมไฟ Daylight อยู่ในโคมเดียวกัน โดดเด่นด้วยเส้นนำแสง LED Guiding Light กันชนหน้า-หลังดีไซน์ใหม่ เสริมลุคสปอร์ตให้ทันสมัยยิ่งขึ้น ไฟท้าย LED ดีไซน์ใหม่ แบบ Sharp Horizon โดดเด่น ลงตัวล้อแม็ก 18 นิ้ว Cross Star และ Roof Spoiler รูปทรงใหม่ สีทูโทน รับกับตัวรถ
ภายในเบาะนั่งกึ่งหนังแท้ดีไซน์ใหม่ Sport Cut ผิวสัมผัสใหม่แบบ Soft Touch คอนโซลหน้า แผงข้างประตู และที่พักแขน หรูหราด้วยลายไม้ Fine Walnut ที่แผงข้างประตู หัวเกียร์ และคอนโซลหน้า ชุดตกแต่งสีดำ Piano Black บริเวณคอนโซลกลาง และแผงควบคุมกระจกไฟฟ้า ระบบความบันเทิง iConnect พร้อม Built-in Navigator หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว พร้อม Air Mirroring เชื่อมต่อแบบไร้สายกับ Smartphone จุดเชื่อมต่อ USB รองรับทั้ง Smartphone เครื่องเล่น MP3 และ Flash Drive จอสีแสดงข้อมูลการขับขี่ Color Display MID ชุดตกแต่งคอนโซลกลาง ชุดเกียร์ และช่องแอร์ ประดับด้วยขอบโครเมี่ยม สวยสะดุดตา เรียกว่าปรับโฉมใหม่ใหญ่จริงครบจริง!
Isuzu MU-X 2017 เหมาะกับผู้ที่ชอบสมรรถนะการขับขี่แบบเรียบๆ นุ่มนวลไม่ดุดันจนเกินไป ให้ความอเนกประสงค์ครบ มี 2 แบบเครื่องยนต์ให้เลือกคือ 1.9 ดีดีไอที่เน้นความประหยัดน้ำมัน และ 3.0 ดีดีไอ เน้นความแรงขับสนุก พร้อมเกียร์ 6 จังหวะ ออกตัวแรง ให้กำลังต่อเนื่อง ขับสนุกทุกช่วงความเร็ว มีให้เลือกทั้งเกียร์อัตโนมัติ แบบ REV TRONIC และเกียร์ธรรมดา พร้อมระบบ Genius Sport Shift และ Isuzu Insight เอกสิทธิ์แห่งเทคโนโลยีอัจฉริยะของอีซูซุ เพื่อช่วยในการขับขี่ให้เต็มสมรรถนะปลอดภัย และประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น และเพิ่มระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC (Hill Descent Control) ช่วยควบคุมความเร็วของรถขณะลงทางลาดชัน ให้ความมั่นใจยิ่งขึ้น ในราคาตั้งแต่ 1,099,000 บาท - 1,486,000 บาท
ดูราคา-สเปค และโปรโมชั่น Isuzu MU-X ทุกรุ่น
10. Honda Civic Hatchback 2017 (ฮอนด้า ซีวิค แฮตช์แบ็ก 2017)
Honda Civic Hatchback 2017 (ฮอนด้า ซีวิค แฮทช์แบ็ก 2017)
Honda Civic Hatchback 2017 (ฮอนด้า ซีวิค แฮทช์แบ็ก 2017) ใหม่ ตัวถังแฮตช์แบ็กครั้งแรกของฮอนด้า เน้นความเป็นสปอร์ตเต็มรูปแบบ โดยใช้พื้นฐานทั้งเครื่องยนต์ ช่วงล่าง เทคโนโลยีจากรุ่นซีดาน
จุดเด่นของ Honda Civic Hatchback 2017 คือ ตัวถังสไตล์สปอร์ตคูเป้แฮตช์แบ็ก ท้ายลาดเอียงและสั้นลง กันชนหน้าและหลังทรงสปอร์ต ปลายท่อไอเสียคู่วางกลาง เครื่องยนต์ 1.5 ลิร เทอร์โบ 173 แรงม้า
Honda Civic Hatchback 2017 เหมาะกับผู้ชื่นชอบความเป็นรถสปอร์ตขนาดเล็กคล่องตัว ให้ทั้งความแรงและประหยัด เน้นใช้งาน 1 - 2 คน รถสำหรับผู้ที่ต้องการใช้รถยนต์ที่มีสมรรถนะสูงผสานกับการใช้งานในชีวิตประจำวันได้สะดวกสบาย หรือครอบครัวขนาดเล็ก ที่ไม่มีสัมภาระมากนัก
ดูราคา-สเปค และโปรโมชั่น Honda Civic ทุกรุ่น
11. Honda CR-V 2017 (ฮอนด้า ซีอาร์-วี 2017)
Honda CR-V 2017 (ฮอนด้า ซีอาร์-วี 2017)
Honda CR-V 2017 รถยนต์อเนกประสงค์ที่ครองตลาดมาอย่างยาวนาน ตัวถังขนาดใหญ่กว้างขวางหลังคาโปร่งนั่งสบาย สมรรถนะครบทุกด้าน เตรียมเปิดตัวเร็วๆ นี้
จุดเด่นของ Honda CR-V 2017 คือ รูปทรงที่ปรับโฉมใหม่ทั้งคัน รวมถึงเครื่องยนต์ดีเซลใหม่ i-DTEC ดีเซลเทอร์โบ ขนาด 1.6 ลิตร กำลังสูงสุด 160 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดที่ 350 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 รอบต่อนาที เกียร์อัตโนมัติสุดอลังการ 9 จังหวะ ครั้งแรกในรถระดับนี้จากค่ายญี่ปุ่น! ที่จะมาเพิ่มเป็นทางเลือกให้แฟนๆ ฮอนด้าได้ขับขี่พร้อมความประหยัด ภายในปรับเปลี่ยนใหม่หรูหราทันสมัยขึ้น พร้อมความสะดวกสบายและอเนกประสงค์เช่นเดิม
Honda CR-V 2017 เหมาะกับครอบครัวขนาดกลางถึงใหญ่ที่ชอบเดินทางท่องเที่ยว ด้วยสมรรถนะที่ดีทั้งสามารถเลือกรุ่นระบบขับเคลื่อน AWD ได้ เพิ่มความปลอดภัยมากขึ้น นอกจากนี้ยังปรับเปลี่ยนรูปแบบเบาะตอนหลังเพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของได้ และอาจเหมาะกับผู้ทำธุรกิจส่วนตัวที่ต้องการรถคันใหญ่ใช้ในกิจการ ครบครันทั้งความสะดวกสบาย ขนถ่ายสัมภาระและจุผู้โดยสารได้มาก ตอบสนองไลฟ์สไตล์กับกิจกรรมที่หลากหลาย
ดูราคา-สเปค และโปรโมชั่น Honda CR-V ทุกรุ่น
ซื้อรถรุ่นไหนดี?
เลือกซื้อรถรุ่นไหนดี? มักเป็นคำถามยอดฮิตที่เกิดขึ้นกับหลายคน ซึ่งที่จริงต้องรู้ก่อนว่าผู้ซื้อต้องการใช้งานในรูปแบบใดบ้าง และงบประมาณที่จ่ายไหวโดยไม่กระทบกับการดำเนินชีวิตด้านอื่นๆ และความชอบส่วนตัว
รูปแบบการใช้งาน
หากใช้งานในเมืองเป็นหลัก เดินทางไม่บ่อยครั้ง และมีผู้ร่วมเดินทางไม่มากมายนัก รถประเภทซีดานหรือแฮตช์แบ็กน่าจะมีความเหมาะสม เพราะขนาดที่คล่องตัวและให้ความประหยัด ไม่เกินความจำเป็น
ขนาดของตัวรถควรเลือกตามความสะดวกของผู้ซื้อและการใช้งาน เช่น สภาพการจราจรหรือถนนที่ใช้งานบ่อย มีลักษณะคับแคบ ที่จอดรถไม่สะดวก ก็ควรเลือกรถที่มีความเล็กกะทัดรัดคล่องตัว หรือถ้าต้องผ่านเส้นทางที่มีสภาพแย่ก็ควรเลือกรถที่มีขนาดเซ็กเมนต์ที่ระดับกลางๆ ขึ้นไปเพราะรถขนาดใหญ่มักจะมีระบบช่วงล่างที่แข็งแรงกว่าหากงบประมาณพอ เป็นต้น
สำหรับผู้ที่จำเป็นต้องเดินทางบ่อยให้มองหารถที่มีสมมรถนะที่เพียงพอในการเร่งแซงและโครงสร้างตัวรถที่แข็งแรง ระบบความปลอดภัยมากที่สุด เพื่อการขับขี่ที่มั่นใจทั้งเวลาเร่งแซงและเข้าโค้งหรือทางลาดชัน
ทั้งนี้ให้พิจารณาคุณสมบัติของรถยนต์แต่ละรุ่นด้วยว่ามีจุดประสงค์ในการออกแบบและผลิตมาใช้งานในลักษณะใด เพราะรถยนต์แต่ละรุ่นมีจุดเด่นจุดด้อยแตกต่างกัน หากต้องการรถประเภท SUV ซึ่งมีความสูงกว่ารถประเภทซีดาน สมรรถนะย่อมแตกต่างกัน ทั้งเรื่องการทรงตัว ความประหยัด เป็นต้น
เลือกรถให้ตรงความต้องการที่แท้จริง
สิ่งสำคัญที่สุดในการเลือกซื้อรถนั่นคือ เลือกรถรุ่นที่มีคุณสมบัติตรงกับที่ต้องการใช้ให้มากที่สุด ซึ่งอาจไม่ครอบคลุมหรือตอบสนองความต้องการได้ครบทุกมด้าน แต่ก็นับว่ามีจุดที่ใช้งานได้ตามที่ผู้ซื้อตั้งใจเอาไว้ เช่น ต้องการรถอเนกประสงค์คันใหญ่ เครื่องยนต์แรงๆ และประหยัดน้ำมัน คล่องตัว แต่มีงบประมาณไม่มาก รถยนต์โดยทั่วไปไม่สามารถให้ได้ครบทุกด้าน แต่ให้เลือกด้านที่ใช้งานในชีวิตประจำวันบ่อยๆ และเหมาะสมกับงบประมาณ จากตัวอย่างด้านบน อาจเลือกรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดคอมแพ็กต์หรือขนาดกลาง เครื่องยนต์ 1.6 - 1.8 ลิตร ซึ่งที่เข้าข่ายนี้อาจมีราคาตั้งแต่ 8 แสน - 9 แสน ซึ่งสามารถตอบโจทย์ได้ทั้งความอเนกประสงค์, กำลังเครื่องยนต์ที่เพียงพอต่อการใช้งาน, ให้ความประหยัดระดับน่าพอใจ, คล่องตัว และราคาไม่สูงนัก
อย่างไรก็ตามการเลือกซื้อรถยนต์นั้นไม่สามารถกำหนดหลักเกณฑ์ตายตัวได้ เพราะรถยนต์นับเป็นสิ่งของที่ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจเป็นสำคัญ การใช้อารมณ์ในการตัดสินใจ และสุดท้ายจึงค่อยใช้เหตุผล
การเลือกรถยนต์ให้ได้ตามความต้องการผู้ซื้อนั้น สิ่งที่ควรพิจารณาเป็นอันดับแรกคือ ประเภทหรือวัตถุประสงค์ของรถยนต์รุ่นต่างๆ ว่าตรงกับลักษณะที่ต้องการใช้งานมากน้อยเพียงใด ถัดมาเป็นเรื่องงบประมาณ ความชอบและความพึงพอใจในด้านสมรรถนะ เพราะรถยนต์แต่ละรุ่นมีจุดเด่นและด้อยแตกต่างกันไป ไม่สามารถตอบสนองได้ครบทุกๆ ด้าน หากเราศึกษาและรู้จักประเภทและสมรรถนะของแต่ละรุ่นก็สามารถเลือกซื้อรถที่ตรงกับความต้องการได้ครอบคลุมมากที่สุด