ข้อดี ของการผ่อนรถ 7 ปี (84 เดือน) มีอะไรบ้าง

ประสบการณ์ซื้อขายรถยนต์ | 18 มิ.ย 2568
แชร์ 0

ใครที่กำลังมีแผนจะออกรถแล้วยังไม่รู้ว่าตัวเองเหมาะกับการ ผ่อนรถกี่ปี วันนี้เรารวมคำตอบมาไว้ในบทความนี้แล้ว

ข้อดี ของการผ่อนรถ 7 ปี (84 เดือน) มีอะไรบ้าง
ข้อดี ของการผ่อนรถ 7 ปี (84 เดือน) มีอะไรบ้าง

ปัจจุบันนี้ผู้คนส่วนใหญ่นิยมเลือกการซื้อรถด้วยเงินผ่อน เนื่องจากไม่จำเป็นต้องใช้เงินก้อนใหญ่ซื้อหมดไปในทีเดียว ซึ่งถือว่าเป็นทางเลือกให้คนที่ไม่ได้มีเงินก้อนในระดับหลายแสนจนไปถึงหลักล้านเพื่อที่จะซื้อรถด้วยเงินสดได้ และเมื่อเราได้ตัดสินใจแล้วว่าจะซื้อรถด้วยการดาวน์และผ่อน หลังจากนั้นผู้ซื้อก็ต้องมาคำนวณว่าจะสามารถผ่อนในระยะเวลากี่ปีเพื่อที่จะให้ตัวเองมีสภาพการเงินที่คล่องและไม่ติดปัญหาใด ๆ 

โดยส่วนใหญ่แล้วหลายคนจะสงสัยว่า 60 งวด กี่ปี ซึ่งปกติแล้วคนส่วนใหญ่มักเลือกผ่อนรถภายใน 5 หรือ 60 งวด เพื่อไม่ให้เป็นการเสียดอกเบี้ยเป็นจำนวนมากและในระยะเวลาดังกล่าวยังมาพร้อมข้อดีหลายอย่าง แต่สำหรับบางคนที่มีความต้องการอยากได้รถจริง ๆ ก็จะไม่ได้คำนึงถึงเรื่องเวลาเท่าไหร่ เพราะว่าถึงแม้จะผ่อนนานแต่ก็แลกมาด้วยค่างวดที่มีจำนวนถูกลง แต่ในขณะเดียวกันจำนวนดอกเบี้ยก็จะยิ่งพุ่งสูงขึ้นเป็นเท่าตัว และหลายคนก็ยังสงสัยว่า ผ่อนรถ 84 งวด ดอกเบี้ย เท่า ไหร่ หรือ 84งวดกี่ปี

ยกตัวอย่าง เช่น หากผู้ซื้อมีความต้องการผ่อนรถมือสองราคา 289,000 บาท ระยะเวลาการผ่อนคือ 84 งวด ซึ่งหากรวมราคาดอกเบี้ยแล้วถือว่าเป็นส่วนต่างที่จะต้องเสียเงินฟรีไปประมาณ 90,023 บาท จากดอกเบี้ย 4.45% ต่อปี ระยะเวลาการผ่อน 7 ปี ตกปีละ 12,860 บาทเลยทีเดียว ซึ่งเท่ากับว่าผู้ซื้อจะได้เป็นเจ้าของรถในราคาที่เกิดจากการผ่อน 7 ปี เกือบ 1 แสนบาท จึงทำให้ผู้ที่มีเงินก้อนคิดว่าเป็นจำนวนที่มากจนเกินไปและไม่ควรเสียไปแบบเปล่าประโยชน์ แต่สำหรับผู้ที่ไม่มีเงินก้อนและต้องการมีรถ การผ่อนเดือนละประมาณ 4,000 บาท ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับตัวเอง มาดูกันว่าข้อดีของการผ่อนระยะเวลาหลายงวดมีข้อดีอะไรบ้าง

ไม่ต้องวางเงินดาวน์

โดยปกติแล้วตามคำแนะนำได้กล่าวเอาไว้ว่า ระยะเวลาของการผ่อนรถควรจะวางเงินดาวน์ 10-15% แต่สำหรับผู้ที่ไม่ได้มีเงินก้อนเป็นจำนวนมากพอที่จะวางเงินดาวน์ การเลือกใช้โปรแกรมไม่วางเงินดาวน์และผ่อนรถแบบหลายงวดเพื่อให้งวดแต่ละเดือนมีราคาที่ต้องจ่ายลดลงและไม่ต้องสำรองเงินด้วยเงินสด

การันตีมีรถขับ

สำหรับมนุษย์เงินเดือนที่มีรายได้ตกอยู่ที่เดือนละ 20,000 บาท เมื่อหักค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ครบแล้วมีเงินเหลือเพียงพอในจำนวน 4,000 บาทสำหรับเอาไว้ใช้จ่ายค่าเดินทางในการไปทำงานก็สามารถมีโอกาสในการมีรถเป็นของตัวเองได้ เพราะถ้ามาคิดดูแล้วว่าการมีค่าใช้จ่ายในการเดินทาง 4,000 บาท หากนำเงินตรงนี้มาผ่อนรถก็จะทำให้เพิ่มความสะดวกสบายมากขึ้น ซึ่งวิธีนี้จะเหมาะสำหรับผู้ที่ยังไม่มีรถเป็นของตัวเอง

เก็บเงินก้อนมาโปะในอนาคต

หากในอนาคตเจ้าของรถมีเงินก้อนสะสมที่สามารถนำมาปิดยอดก่อนที่ดอกเบี้ยจะสูงไปถึง 9หมื่นบาท ตามที่ได้คำนวณเอาไว้ ซึ่งจะมีค่าธรรมเนียมที่สูงมากแต่ก็จะมีมูลค่าน้อยกว่า 9หมื่นบาทอย่างแน่นอน

มีเงินเก็บไว้ทำอย่างอื่น

สำหรับผู้ที่ไม่ได้มีความจำเป็นที่จะต้องใช้รถแต่มีความต้องการอยากได้รถ สิ่งแรกควรตรวจสอบให้ดีก่อนว่าเหมาะสมกับการผ่อนกี่งวดและงวดละกี่บาท ซึ่งค่าใช้จ่ายตรงนี้เมื่อคิดดูแล้วจะมีผลกระทบต่อเงินในอนาคตอย่างไรบ้าง เพราะตามหลักการแล้วควรเป็นหนี้ไม่เกิน 35% ของรายได้ต่อเดือน ซึ่งถ้าหากว่าคิดดูแล้วว่ามีความจำเป็นต้องใช้รถจริง ๆ การเลือกหาอาชีพเสริมเพื่อเพิ่มรายได้ที่มากขึ้นก็จะเป็นวิธีที่ดีที่จะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายได้ดี

อย่างไรก็ตาม การเลือกระยะเวลาผ่อนน้อย เช่น 12 งวด หรือ 36 งวด มีข้อดีอย่างเห็นได้ชัดเลยคือดอกเบี้ยถูกกว่าและช่วยลดภาระหนี้ที่ไม่จำเป็นลงได้ รวมทั้งยังเป็นหนี้ที่มีระยะสั้นจึงทำให้สามารถนำเครดิตตรงนี้ไปใช้ในทางอื่นได้เพิ่มขึ้น แต่สำหรับใครที่มีกำลังไม่เพียงพอก้สามารถผ่อนชำระได้มากถึง 84 เดือน หรือ 7 ปี ซึ่งจะทำให้ภาระหนี้ในแต่ละเดือนนั้นลดลง แต่ก็จะแลกมาด้วยดอกเบี้ยที่แพงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้น หากผู้ที่กำลังต้องการมีรถพอมีพละกำลังทางการเงินที่เพียงพอ ระยะเวลาในการผ่อนที่ดีที่สุดควรอยู่ใน 48-60 งวด นั่นเอง

อ่านเพิ่มเติม