MG GS 1.5 TURBO เครื่องเล็กแต่จี๊ดจ๊าด ราคาเร้าใจไม่ถึงล้าน

10 มิ.ย 2560
แชร์ 0
คะแนนของบรรณาธิการ
คะแนนของผู้ใช้
ผู้ใช้ 0 คนได้ให้คะแนน
ดูกราฟราคา

ข้อมูลทั่วไป

MG GS 1.5 TURBO สีขาววิ่งบนถนน
MG GS 1.5 TURBO มอบ SUV ทางเลือกใหม่ของตระกูล
ค่ายน้องใหม่ที่มาแรงที่สุด
MG ซึ่งเป็นแบรน์รถยนต์ที่ก่อตั้งมาอย่างช้านานจากประเทศอังกฤษจนกระทั่งถูกซื้อกิจการไปโดยกลุ่มทุนจากประเทศจีน Shanghai Automotive Industry Corp. - SAIC ในเมืองไทยก็เป็นการร่วมทุนระหว่าง SAIC กับ CP กลุ่มทุนยักใหญ่ในประเทศไทย ร่วมกันก่อตั้งบริษัท SAIC-CP Motor เพื่อผลิตและจัดจำหน่ายรถยนต์ MG โดยมีการเปิดตัวรุ่นแรกในสายการผลิต MG6 เมื่อปี 2014 เพื่อหวังรองรับตลาดรถยนต์ในประเทศไทยและอาเซียน กับฝีมือการประกอบรถทั้งคันโดยคนไทยซึ่งมีโรงงานอยู่ที่ชลบุรี
 
แม้จะเปิดตัวค่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยไปแค่ไม่กี่ปี ผลจากการทำการตลาดอย่างหนักบริการหลังการขายที่ให้บริการแบบ ”ใจถึง” และรถยนต์ที่มีคุณภาพจนได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากผู้ใช้งาน ส่งผลให้ยอดขายรถยนต์ MG ขึ้นมาอยู่ในอันดับ 11 ของค่ายผู้ผลิตรถยนต์ในเมืองไทยในปีที่แล้ว เหนือ BMW, Hyundai, Subaru 
 

ภายนอก

ภายนอกไม่แตกต่างกับรุ่นใหญ่
 
รุ่น 1.5 TURBO มีแต่แบบขับเคลื่อนสองล้อมาให้
รุ่น 1.5 TURBO มีแต่แบบขับเคลื่อนสองล้อมาให้
 
MG GS 1.5 นี้ถูกเสริมทัพมา เพื่อลุยตลาดที่เล็กลงโดยใช้ตัวถังเดิมจากรุ่น 2.0 ภายนอกของรถไม่ได้มีความแตกต่างนอกเสียจากขนาดของล้อที่เล็กลงเป็นขนาด 17 นิ้วส่วนรุ่น 2.0 จะเป็นล้อขนาด 18 นิ้วโดยการออกแบบภายนอกมาจากศูนย์การออกแบบที่ประเทศอังกฤษ UK Technical Centre ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากโคมไฟใน UK Pavilion World Expo ภายใต้คอนเซ็ปต์ Diamond Flow Design เหลี่ยมมุมที่ไม่ดูขัดตาในการออกแบบแต่กลับเพิ่มความสปอร์ตได้อย่างลงตัวของรถ SUV โลโก้ 8 เหลี่ยมของ MG ที่เปรียบเสมือนจุดศูนย์กลางของเส้นสายการออกแบบของรถทั้งคัน ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ ฮาโลเจน ไฟตัดหมอกและ Daytime Running Light แบบ LED ถูกวางไว้ในกรอบไฟตัดหมอกสีเงินบริเวณกันชนด้านล่าง ที่มีช่องดักลมลายรังผึ้งช่วยให้ลมเข้าไประบายอากาศในห้องเครื่อง 
 
ไฟท้าย LED ของ MG GS 1.5 TURBO
ไฟท้าย LED ถูกวางไว้อย่างเข้ากันกับตัวบอดี้
 
ไฟท้าย LED  ในรุ่นท็อปแต่ละจุดถูกวางไว้ในตำแหน่งที่ห่างกันเล็กน้อยเพื่อความโดดเด่นแต่ยังให้ความสว่างมองเห็นได้ง่ายและชัดเจนแต่ถ้าเป็นรุ่น D จะเป็นแบบธรรมดา
 

ภายใน

ภายในโดดเด่นด้วยการเชื่อมต่อ
ภายในของรุ่น 1.5 จะให้มีแต่เบาะหนังสังเคราะห์เท่านั้น ไม่มีหนังแท้มาให้เหมือนรุ่น 2.0 เช่นเดียวกับวัสดุส่วนประกอบภายในรถยังดู “ไม่แพง” เท่ากับภาพลักษณ์ของรถที่ถูกปูพื้นมาซะอย่างดี สีภายในในแบบ Piano Black กับหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้วในรุ่นท็อป และที่โดดเด่นคงจะเป็นระบบ InkaNet ที่จะช่วยเชื่อมต่อทุกก่อการทำงานของรถเข้ากับ Smart Phone ผ่านซิมโทรศัพท์ ( ค่ายในเครือ CP ) ที่ช่วยตรวจสอบสถานะการทำงานต่างๆ ของรถ เช่น ระดับแบตเตอรี่รถ, ระดับน้ำมัน และฟังก์ชั่นอื่นๆ ที่ช่วยให้การใช้รถของคุณง่ายกว่าเดิมขึ้นเยอะ 
 
ภายในออกแบบได้ล้ำสมัยของ MG GS 1.5 TURBO
ภายในออกแบบได้ล้ำสมัยแต่วัสดุที่ใช้ยังไม่ดูแพง

อุปกรณ์อํานวยความสะดวก

กับ SUV รุ่นใหม่แค่ (เครื่องยนต์) เล็กลงนิด
การเปิดตัว MG GS 1.5 TURBO เป็นแผนการต่อเนื่องมาจากการเปิดตัวไปเมื่อต้นปี 2015 MG GS รุ่น 2.0 TURBO โดย MG หวังที่จะให้รุ่น 1.5 นี้ไปลุยตลาด Subcompact SUV ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูงจากผู้ใช้งานไม่ว่าจะเป็น HR-V, BR-V จาก Honda CX-3 จาก Mazda  XV จากซูบารุและ Toyota C-HR ที่กำลังจะเปิดตัวขายในประเทศไทยในเร็วๆ นี้ โดยทาง MG ตั้งใจเพิ่มรุ่นเครื่องยนต์ที่มีขนาดเล็กลงเพื่อกดราคาลงมา ตั้งใจลุยกับตลาดรถประเภทนี้โดยเฉพาะในราคาเริ่มต้นที่ 8.9 แสนและตัวท๊อปราคาไม่ถึงล้าน!!
 
รุ่น 1.5 TURBO มีไฟหน้าโปรเจคเตอร์แบบฮาโลเจนเท่านั้น
รุ่น 1.5 TURBO มีไฟหน้าโปรเจคเตอร์แบบฮาโลเจนเท่านั้น

การทำงาน

หัวใจใหม่คือไฮไลท์ของรุ่นนี้
MG ขยาดตลาดใส่เครื่องยนต์ที่เล็กลงแต่พละกำลังที่ได้ไม่แตกต่างจากเดิมเท่าไรนัก ด้วยเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรเบนซินรหัส 15E4E ซึ่งเป็นคนละบล็อกกับรุ่น MG5 ให้กำลังสูงสุด 167 แรงม้า (PS) ที่ 5,600 รอบต่อนาทีแบบ DOHC 4 สูบ Turbo TGI-TECH ระบบจ่ายน้ำมันแบบฉีดตรง GDI ( Gasoline Direct Injection ) แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร ที่ 1,700-4,400 รอบต่อนาที ทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ TST ( Twin Clutch Sportronic Transmission ) แบบ 7 Speed ซึ่งรุ่น 1.5 นี้มีแต่ตัวขับเคลื่อนสองล้อเท่านั้น รองรับน้ำมันแบบครบวงจรทั้ง E85 เบนซิน 95 แก็สโซฮอลล์ 95 E10 E20
 
เครื่องยนต์ 1.5 TURBO ให้กำลังไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ารุ่น 2.0 TURBO
เครื่องยนต์ 1.5 TURBO ให้กำลังไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ารุ่น 2.0 TURBO
 
มาดูที่ความแตกต่างของเครื่องยนต์ระหว่าง 2.0 TURBO VS 1.5 TURBO
แรงม้า
รุ่น 2.0 =218 แรงม้า  รุ่น 1.5 =  167 แรงม้า
แรงบิดสูงสุด
รุ่น 2.0 = 350 นิวตัน รุ่น 1.5 = 250 นิวตันเมตร
 
กำลังช่วงต้นของเครื่อง 1.5 แสดงผลออกมาได้ไวกว่ารุ่น 2.0 เพราะถูกทางโรงงานเซ็ทรอบเครื่องมาให้ต่ำกว่า ทำให้อัตราเร่งสามารถตอบสนองผู้ใช้ได้ดีกว่า สามารถทำเวลาเร่ง 0-100 ได้ดีกว่าพวกรุ่น Mazda CX-5 2.0, Subaru XV 2.0 และรุ่นอื่นๆ ที่บล๊อกใหญ่กว่าอีกหลายๆรุ่น เรียกว่าเล็กพริกขี้หนูก็คงไม่ผิด
 
ช่วงล่าง แม็คเฟอร์สันสตรัตในด้านหน้าและด้านหลังเป็นแบบ Multi-Link บวกกับเหล็กกันโคลงหน้าหลัง ที่ใช้อยู่ในรุ่น 2.0 เมื่อนำเครื่องยนต์ที่ขนาดเล็กกว่ามาใช้ ทำให้ความสามารถของช่วงล่างทำได้ดีขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย ล้อและยางที่ขนาดเปลี่ยนไปจากรุ่น 2.0 ก็ช่วยทำให้ช่วงการขับขี่ดี หนึบ เกาะถนนได้มากกว่าเดิม อีกทั้งระบบความปลอดภัยที่ช่วยในการขับขี่ ทั้ง
ระบบควบคุมการทรงตัว SCS, ระบบป้องกันการลื่นไถลเมื่อเกียร์ลดต่ำ MSR, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และลดการลื่นไถล TCS, ระบบควบคุมการเบรคในขณะเข้าโค้ง CBC, ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรคค้างไว้ AVH, ระบบเบรคมือไฟฟ้า EPB, ถุงลมนิรภัยคู่หน้า และม่านถุงลมนิรภัย
 
MG GS 1.5 TURBO สีขาววิ่งบนถนน
ช่วงล่างมีการปรับเพิ่มเติมเพื่อให้เข้ากับเครื่องยนต์ที่เล็กลง

รีวิวทั่วไป

ราคาเร้าใจ สะกิดใจก่อนเลือกรุ่นอื่น
ตอบโจทย์ได้อย่างถูกจุดกับเครื่องยนต์ 1.5 TURBO กับการลดขนาดเครื่องยนต์เพื่อให้ผู้ซื้อเกิดการลังเล และราคาที่เร้าใจ กระตุ้นให้หันมาสนใจรถจากค่ายนี้มากขึ้น
MG GS 1.5T D ราคา 890,000 บาท
MG GS 1.5T X ราคา 990,000 บาท
 
การตอบสนองที่รวดเร็ว กระฉับกระเฉงกว่ารุ่น 2.0  ช่วงล่างที่ถูกปรับมาเพื่อให้ลงตัวกับเครื่องยนต์ ระบบช่วยในการขับขี่ครบครันอัดมาให้เต็มลำแบบไม่กั๊ก อีกทั้งเทคโนโลยีการเชื่อมต่อกับ Smart Phone เหนือระดับ ออฟชั่นครบขนาดนี้ กับราคารุ่นท็อปไม่ถึงล้าน MG GS 1.5 รุ่นนี้พร้อมจะลุยกับคู่ปรับต่างค่ายได้สบาย  
 

คลิบวิ่งทดสอบ MG GS 1.5 TURBO


>>> อ่านเพิ่มเติม:
- รีวิว Honda CR-V 2017
- รีวิว Chevrolet Traibllazer ไหม่ ราคาเริ่มต้น 1.24 ล้านบาท
- รีวิว Toyota Fortuner 2017 ทันสมัย เพิ่มความปลอดภัย

แบ่งปันความคิดเห็นของคุณกับเรา

คะแนนของคุณ

ความคิดเห็น

0/1000