แม้จะนั่งรถโดยสารก็ “รักษ์โลก” ได้ ! กับ “Green Mode” แอพฯ เรียกแท็กซี่รถพลังงานไฟฟ้า Lyft

แม้จะนั่งรถโดยสารก็ “รักษ์โลก” ได้ ! กับ “Green Mode”

แอพฯ เรียกแท็กซี่รถพลังงานไฟฟ้า Lyft

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ล้วนต้องใช้เวลา นอกจากภาครัฐฯ จะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยผลักดันแล้ว ภาคเอกชนก็มีบทบาทไม่น้อยในการนำร่องให้เกิดการเปลี่ยนแปลง อย่างในกรณีของ บริษัท Lyft (ลีฟท์) ผู้ให้บริการเรียกรถแท็กซี่ผ่านแอพพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ก็ได้เพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้ใช้บริการที่อยากจะช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม กับบริการใหม่ที่มีชื่อว่า “Green Mode” (กรีน โหมด) ซึ่งจะช่วยเพิ่มทางเลือกให้แก่ลูกค้าที่ต้องการโดยสารรถพลังงานไฟฟ้า 100% หรือจะเป็นแบบ รถ Hybrid ที่รถทั้งสองนี้ประเภทนี้ ปล่อยมลพิษน้อยกว่ารถที่ใช้เครื่องยนต์ทั่วไป  

อีกทั้งในบริการ "กรีน โหมด" ของทาง ลีฟท์ นี้ ยังเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะช่วยให้ผู้คนทั่วไป ที่อาจจะยังไม่คุ้นชินหรือยังไม่มีประสบการณ์ในการขับขี่หรือโดยสารรถพลังงานไฟฟ้า ได้เริ่มต้นทดลองนั่งและสัมผัสกับข้อดีต่าง ๆ ทั้งจากความเงียบและการขับเคลื่อนอย่างนิ่มนวลที่ได้รับจากยานยนต์ประเภทนี้ ซึ่งบริการ "กรีน โหมด” ได้ประเดิมเริ่มให้บริการครั้งแรกไปแล้วที่เมืองซีแอตเทิล ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และผลตอบรับถือว่าดีมาก ๆ จากผู้ใช้แดนลุงแซม

ดูเพิ่ทเติม
>> Five FACT : 5 เรื่องน่ารู้ของรถพลังงานไฟฟ้าที่กำลังจะมาเป็นรถคันต่อไปของคุณ !
>> 5 รถพลังงานไฟฟ้าที่จะได้เห็นบนถนนไทยในปี 2019

แท็กซี่ที่วิ่งในถนนเอมิกาทุกวันนี้

หน้าตาของแอพในโหมดรักษ์โลก Green Mode ของ Lyft

*สนใจตลาดรถมือสองราคาสวยๆ กดดูที่นี่ได้นะครับ

>> บางทีคุณอาจสนใจ สีรถ

สาเหตุที่บริการ กรีน โหมด นี้ถูกเริ่มใช้ ณ เมืองซีแอตเทิล เป็นเพราะก่อนหน้าได้มีการสำรวจความคิดเห็นของผู้ใช้ในเขต ถึงบริการใหม่ผู้ใช้ต้องการจากผู้ให้บริการเรียกรถแท็กซี่ผ่านแอพพลิเคชั่น ปรากฎว่าบทสรุปที่ผู้ใช้งานต้องการมากที่สุดนั่นก็คือ การได้นั่งลองใช้บริการรถพลังงานไฟฟ้า ตามที่กล่าวในตอนแรกว่านอกจากจะช่วยให้คนได้เข้าถึงยานยนต์ประเภทนี้ได้มากขึ้นแล้ว ยังช่วยจูงใจให้คนขับ (Driver) ในเครือข่ายของบริษัท (Lyft) หันเปลี่ยนมาใช้รถพลังงานไฟฟ้าเพื่อบริการมากขึ้นอีกด้วย พร้อมกันนั้นทางบริษัทยังมีมาตรการสำหรับช่วยเหลือคนขับด้วย อาทิเช่น เปิดให้ผู้ขับเช่ารถ EV (Chevrolet Bolt) ที่สามารถชาร์จไฟฟรีได้ตลอดแบบไม่มีจำกัด

แท็กซี่รถพลังงานไฟฟ้า Lyft

แอพฯ คู่แข่งอย่าง Uber ก็มีแผนที่จะขยายเพิ่มรถในเครือเป็น EV ด้วยเช่นกัน

และที่สำคัญคือ เวลาจองรถแท็กซี่ไฟฟ้าผ่านแอพนี้ ลูกค้าจะไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมใด ๆ เพิ่มเติมซึ่งในข้อนี้ อาจจะดูแตกต่างกับกับทางผู้ให้บริการอีกเจ้าของฝั่งอังกฤษ Uber ไปสักหน่อย ที่พยายามจะลดมลพิษทางอากาศผ่านการใช้รถพลังานไฟฟ้าให้มากขึ้นเช่นกัน ด้วยการผลักดันให้รถในเครือข่ายของบริษัทเปลี่ยนมาใช้รถพลังงานไฟฟ้าภายในปี 2025 แต่เป็นในลักษณะการบวกเพิ่มค่าบริการจากผู้เรียกใช้แอพฯ จากส่วนที่เรียกว่า “Clean Air Fee” (ค่าทำเนียมเพื่ออากาศสะอาด) จากทุกรอบบริการ 15 เพนนี แล้วนำค่าทำเนียมในส่วนนี้ ไปให้กับผู้ขับ Uber เพื่อเปลี่ยนมาใช้รถพลังงานไฟฟ้า คาด ! จะมีผู้ขับ Uber กว่า 20,000 รายที่จะได้อัพเกรดเป็นรถยนต์ไฟฟ้าภายในสิ้นปี 2021 ซึ่งปัจจุบัน Uber ที่อังกฤษมีผู้ขับขี่รวมอยู่ที่ 45,000 รายในเมือง และกว่า 3.5 ล้านรายทั่วโลกภายใต้แพลตฟอร์มเดียวกัน

ขนาดภาคเอกชนทั่วโลกยังแสดงให้เห็นถึงความสำคัญในการเปลี่ยนมาใช้รถพลังงานไฟฟ้า แต่เมื่อสะท้อนกลับมามองที่ประเทศไทย ถึงเวลาแล้วหรือยัง ? ที่รอบด้านควรมีการเริ่มต้นสำหรับรถประเภทนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขนส่งมวลชน ที่ควรถูกเริ่มเป็นอันดับต้น ๆ ก่อนเรื่องอื่น ๆ เสียอีก เช่น เปลี่ยนรถเมล์โดยสารเป็นแบบระบบพลังงานไฟฟ้า ไปจนถึงเปลี่ยนรถแท็กซี่ในไทยให้เป็นรถพลังงานไฟฟ้าทั้งหมด พร้อมกับช่วยเรื่องภาษีด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เป็นแรงจูงใจจากภาครัฐฯ ไปจนถึงการบังคับใช้อย่างจริงจัง

แล้วคุณละมีไอเดียอย่างไรบ้าง สำหรับการที่จะช่วยให้การใช้รถพลังงานไฟฟ้าเป็นไปอย่างแพร่หลาย อย่าลืมบอกกับเรา Chobrod.com สักหน่อยที่ Comment ด้านล่างนี้ได้เลย

ดูเพิ่ทเติม
>> รวม 5 รถ SUV พลังงานไฟฟ้า 100% จาก 5 ค่ายยักษ์ใหญ่
>> ฤกษ์งามยามดีออกรถในเดือนมีนาคม 2562

ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่  
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้