ผลสำรวจจาก NFDA แสดงออกถึงผลกระทบของขาลงรถดีเซล
รถไฟฟ้า-ไฮบริด
ผู้ใช้รถแดนผู้ดีดูเหมือนจะเลือกซื้อรถไฮบริดเป็นรถคันต่อไปมากกว่ารถดีเซล อ้างอิงจากการสำรวจโดยสมาคมแฟรนไชส์ผู้จำหน่ายรถยนต์แห่งชาติอังกฤษ (NFDA)
จากผู้ทำแบบสำรวจ 1,000 คน แบ่งเป็นชาย 490 คนและหญิง 510 คน มีแค่ 12% ที่จะเลือกซื่อรถดีเซลเป็นรถคันต่อไป ไม่ใช่แค่เป็นสัดส่วนที่น้อยสำหรับน้ำมันที่เคยทำยอดขายได้ครึ่งหนึ่งของรถใหม่ทั้งหมด แต่ยังลดลงถึง 23% จากแบบสำรวจโดย Autocar ที่ถูกจัดทำปีที่แล้ว หมายความว่า รถดีเซลอยู่ตามหลังรถไฮบริดที่คิดเป็น 13%
แม้จะเป็นสเกลที่น้อย การศึกษานี้แสดงถึงความมั่นใจในรถดีเซลของลูกค้าที่ถดถอยลงไปอีก ยอดขายรถควันดำลงฮวบในช่วงเดือนที่ผ่านมาและตอนนี้คิดเป็น 33.5% ของตลาด ลดลงจากปีที่แล้วที่ทำส่วนแบ่งได้ 44% ผลการสำรวจสรุปได้ว่าโอกาสโอกาสที่ยอดขายจะกลับมาในเร็ววันนั้นมีน้อย การขึ้นภาษีรถดีเซลของรัฐบาล UK ในช่วงล่าสุดกลายเป็นอุปสรรคต่อการกลับมาของรถดีเซลอย่างไม่ต้องสงสัย
>> "ดีเซลกู่ไม่กลับแล้ว" CEO Fiat Chrysler ว่าไว้
>> ที่เธอไม่เอา! Suzuki หยุดขายรถดีเซลในเมืองผู้ดี
แบบสำรวจรถคันต่อไประบุว่ารถใช้น้ำมันมากที่สุุด
รถใช้น้ำมันเป็นประเภทที่ถูกเลือกสูงสุดด้วยจำนวน 41% อย่างไรก็ตาม อันดับรองลงมาคือ “ยังไม่รู้” ส่อถึงยอดขายรถใหม่ใน UK ที่ลดลงซึ่งเกิดจากความมั่นใจของลูกค้าที่มีน้อยลง
การสำรวจนี้แสดงถึงลูกค้าส่วนใหญ่ว่ายังไม่สนใจรถปลั๊ก-อินไฟฟ้าเป็นรถคันต่อไปที่จะซื้อเท่าไร รถปลั๊ก-อินไฮบริดมีแค่ 2% เท่านั้น
>> เพราะตลาดเปลี่ยนไป! Volvo ขอเปลี่ยนรถเก่าเป็นไฟฟ้าก่อนออกรถรุ่นใหม่
>> กว่าจะมาเป็น Nissan leaf รถพลังงานไฟฟ้าคิดค้นกว่า 70 ปี
แบบสำรวจอุปสรรคของรถไฟฟ้า
รถไฟฟ้าแท้ๆ ถูกเลือกแค่ 1% เท่านั้น ที่จริงแล้ว ผู้ทำแบบสำรวจ 59% ให้เหตุผลเรื่องต้นทุนซื้อเป็นเหตุผลหลักที่ไม่เลือกรถไฟฟ้าแท้ ขณะที่ระยะเดินทางด้วยแบตเตอรี และการเข้าถึงสถานีชาร์จไฟถูกเน้นเป็นข้อกังวลโดยผู้ทำแบบสำรวจเป็นจำนวน 53% และ 52% ตามลำดับ