ข่าวใหญ่ในวงการอุตสาหกรรมรถยนต์ หลังค่าย Volkswagen จับมือ Ford ร่วมลงทุนหลายหมื่นล้านลุยตลาดรถยนต์ไฟฟ้าอย่างจริงจัง
อาจเพราะการต่อสู้เพียงลำพังบนเวทีการแข่งขันเพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งในตลาดรถยนต์สำหรับแต่ละค่ายผู้ผลิต อาจเป็นเรื่องที่ไม่ดีมากนักในแง่การลงทุนในสายงานการผลิต โลกรถยนต์จึงได้เห็นการ "ร่วมมือ" ระหว่างค่ายรถยนต์เพื่อไปลุยกันในตลาดรถที่ต้องการ
อย่างล่าสุดก็เป็นข่าวใหญ่ที่เกิดขึ้นในแวดวงอุตสาหกรรมรถยนต์ เพราะค่ายรถจากเยอรมัน ก็ไปจับมือกับค่ายจากสหรัฐอเมริกา นั่นคือ Volkswagen ที่ผนึกไปกับ Ford เพื่อร่วมกันอย่างชัดเจนว่าจะลุย "รถยนต์ไฟฟ้า" ร่วมกันแล้ว
การร่วมมือเพื่อระดมเทคโนโลยีด้านรถยนต์ไฟฟ้าร่วมกัน และยังเป็นการลดต้นทุนขององค์กรเพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดของรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต และการจับมือกันของ Volkswagen และ Ford ในครั้งนี้ ยังตกลงพัฒนาเรื่องรถยนต์ไร้คนขับและกลุ่มแบตเตอรี่ของรถยนต์ไฟฟ้าอีกด้วย
เป้าหมายของการร่วมมือครั้งนี้ เพื่อแบ่งกันใช้เทคโนโลยีที่แต่ละบริษัทสร้างขึ้น รวมถึงให้สิทธิ์ในการเข้าถึงส่วนการผลิตต่างๆ ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยควบคุมต้นทุนได้เป็นอย่างดี ดังนั้น จะเห็นได้ว่า การจับมือกันก็เพื่อ "ต้นทุน" เป็นหลัก และยอมให้อีกฝ่ายที่แต่เดิมเคยมองกันว่าเป็นคู่แข่ง เข้าถึงเทคโนโลยีของตัวเองได้ และนั่นย่อมสะท้อนได้ว่า การแข่งขันใน "ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า" ค่อนข้างดุเดือดขึ้นอย่างมากทีเดียว
ดูเพิ่มเติม
กูรูสายรถยนต์มองว่าดีลนี้ Ford น่าจะได้ปประโยชน์เต็มๆ เลยทีเดียว
เม็ดเงินกว่า 1,000 ล้านดอลล่าห์สหรัฐฯ คือตัวเลขที่ทั้งสองค่ายผู้ผลิตรถยนต์ของโลกมาระดมทุนเข้าหากัน หรือคิดเป็นเงินไทยก็ราว 30,000 ล้านบาทเศษ โดยรูปแบบการสร้างพันธมิตรระหว่างกันของ Volkswagen และ Ford จะเป็นไปในรูปแบบการตั้งกิจการร่วมค้า หรือ Joint Venture ซึ่งสื่อสายยานยนต์และสายเศรษฐกิจทั่วโลกมองว่าดีลนี้จะมีประโยชน์กับ Ford มากทีเดียว เพราะก่อนหน้านี้ก็มีกระแสข่าวว่า Volkswagen เตรียมเข้าไปลงทุนใน Argo AI บริษัทพัฒนารถยนต์ไร้คนขับ ซึ่งแต่เดิม Ford เองก็ลงทุนในองค์กรนี้อยู่เหมือนกัน และการได้รับการสนับสนุนเม็ดเงินจาก Volkswagen เข้ามา ก็จะช่วยให้การเกิดการคล่องตัวในการพัฒนาเรื่องรถยนต์ไร้คนขับได้ดีมากขึ้น
อีกทั้ง Ford จะได้เข้าถึง แพลตฟอร์ม MEB ที่ Volkswagen ใช้พัฒนารถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆ แต่เชื่อว่าทาง Volkswagen จะไม่ให้ทาง Ford เข้าถึงเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าขั้นสูง เช่นที่ใช้ใน Audi e-tron GT ที่ Volkswagen มองว่าการพัฒนารถยนต์รุ่นนี้ออกมาหลังเข้าไปเทคโอเวอร์อาวดี้ คือหัวใจหลักที่จะสร้างชื่อเสียงให้กับ Volkswagen
แต่สำหรับ Volkswagen ก็น่าจะได้พันธมิตรที่จะช่วยลดต้นทุนในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าได้มากขึ้น
ปัจจุบันทั้งสองค่ายรถยนต์มียอดการขายรถในแบรนด์ตัวเองรวมกันที่ 8 ล้านคัน หรือ 20% ของยอดการผลิตรถยนต์ทั่วโลกในปี 2561 ซึ่งก็ถือว่าเป็นจำนวนที่สูงพอตัวหากเทียบกับแบรนด์รถยนต์อื่นๆ และคาดกันว่าการร่วมมือกันครั้งนี้ จะส่งให้ทั้ง Volkswagen และ Ford ก้าวขึ้นไปเป็นเบอร์หนึ่งของโลกรถยนต์ไฟฟ้าได้ในอนาคตอันใกล้
เพราะ Volkswagen เคยประกาศเอาไว้ว่าในอีกราว 6 ปีข้างหน้า หรือในปี 2568 จะมีรถยนต์ไฟฟ้าให้เลือกถึง 50 รุ่น และในอีก 10 ปีข้างหน้า ยอดขายรถยนต์โดยรวมของค่ายจะต้องไม่ต่ำกว่า 22 ล้านยูโร ขณะเดียวกัน Ford เองก็ทุ่มไปในทิศทางรถยนต์ไฟฟ้าไปแล้วกว่า 1.1 หมื่นล้านดอลล่าห์สหรัฐฯ
และแน่นอนว่าหากผนึกกันอย่างเป็นทางการแล้ว ก็จะทำให้ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าต้องสะเทือนแน่นอน เพราะยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตสองทวีปมาจับมือเพื่อแข่งขันกับแบรนด์อื่นๆ นั่นเอง
ดูเพิ่มเติม
>> Toyota APM เปิดตัวรถพลังไฟฟ้า สเปคสุดล้ำ พร้อมวิ่งจริงในโอลิมปิก 2020
>> GM เตือนแรงงานผลิตรถยนต์ ไม่ปรับตัวสู่รถยนต์ไฟฟ้าอาจ “ไม่รอด”
ติดตามข่าวสารรถยนต์ คลิกที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้