แอบส่องราคา Mazda CX-5 2018 ที่เมืองผู้ดี

Mazda CX-5 2018

ตั้งแต่เปิดตัวเมื่อเดือนมิถุนายน 2017 CX-5 รุ่นที่สองได้ต่อยอดความสำเร็จต่อจากรุ่นเดิม รุ่นที่ริเริ่มเทคโนโลยี SKYACTIV และปรัชญาดีไซน์ KODO: Soul of Motion ของ Mazda แล้วเปลี่ยนมุมมองในตลาดรถคอมแพ็กท์ SUV ด้วยการผสมผสานของสไตล์, พลศาสตร์การขับขี่ และประสิทธิภาพ

วางจำหน่ายตั้งแต่ 31 สิงหาคม Mazda CX-5 2018 มีขายสิบรุ่นไล่ตั้งแต่ SE-L Nav+ และ Sport Nav+ ระบบเกียร์จะยังคงเป็น SKYACTIV-6MT กับ SKYACTIV-Drive 6AT เช่นเดียวกับระบบขับเคลื่อนอัจฉริยะ i-ACTIV AWD ลูกค้า UK จะได้ใช้เกียร์อัตโนมัติกับเครื่องยนต์เบนซินครั้งแรกกับเครื่อง SKYACTIV-G 2WD 165 แรงม้า ด้วยตัวเลือกเครื่องยนต์ SKYACTIV ที่คุ้นเคย เครื่องเบนซิน SKYACTIV-G 2.0 165 แรงม้ามีในรุ่น SE-L Nav+ กับ Sport Nav+ และใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า (FF) เท่านั้น เครื่องดีเซล SKYACTIV-D 2.2 150 แรงม้าที่เป็นที่นิยมอยู่ในรุ่น FF และเลือกเกียร์ได้ทั้ง SKYACTIV-MT หรือ SKYACTIV-Drive AT ส่วนเครื่องเรือธง SKYACTIV-D 2.2 184 แรงม้ามีเฉพาะรุ่น Sport Nav+ พร้อมระบบขับเคลื่อนอัจฉริยะ i-ACTIV AWD เลือกได้ทั้งสองเกียร์เช่นกัน

ดูเพิ่มเติม
>> Five Fact: Mazda CX-5 SUV หรูกับ 5 เรื่องที่จะทำให้คุณอาจตัดสินใจซื้อ!
>> Mazda CX-5 2018 vs Honda CR-V 2018 เลือกคันไหนดีกว่ากัน !!

เครื่องยนต์ SKYACTIV

เครื่องยนต์ดีเซล SKYACTIV-D ได้รับการปรับแต่งด้วยห้องเครื่องสันดาปรุ่นใหม่, หัวฉีดแรงดันใหม่, เทอร์โบชาร์จแบบสองขั้นตอนรุ่นใหม่ และระบบ Selective Catalytic Reduction (SCR) ตัวเครื่องยนต์ปรบใช้การเผาไหม้หลายขั้นตอนอย่างรวดเร็วด้วยหัวฉีดแรงดันตอบสนองเร็วมาก ขณะที่ห้องเครื่องรูปไข่ปรับปรุงใหม่ลดการถ่ายความร้อนระหว่างเครื่องยนต์กับลูกปืนเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ การเปลี่ยนแปลงระบบจัดการน้ำไหลช่วยให้เครื่องยนต์อบอุ่นเร็วขึ้นเพื่อลดมลพิษ ขณะที่การริเริ่มใช้ SCR และระบบดูแล AdBlue ทำให้การทำงานเชิงสภาพแวดล้อมโดดเด่นโดยไม่เสียความสุขในการขับขี่ที่มีชื่อเสียงใน Mazda CX-5 นอกจากประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นแล้ว เครื่องยนต์ 2.2 รุ่นใหญ่มีกำลังเพิ่มจาก 175 เป็น 184 แรงม้า ส่วนแรงบิดเพิ่มขึ้น 25 เป็น 445 นิวตัน-เมตร เทอร์โบคู่แบบสองขั้นตอนปรับใช้การแปรผันเชิงเรขาคณิตซึ่งเพิ่งกำลังกับแรงบิดขึ้นไป ท่อไอเสียถูกเสริมด้วยระบบกันความร้อนจากโซเดียมเพื่อกำลังที่มากขึ้น

ห้องโดยสารใน Mazda CX-5 2018

อย่างที่รถออกมาไม่ถึงปีเดียว รูปลักษณ์ที่แกร่งและสง่าและ CX-5 ยังคงเหมือนเดิม พร้อมล้อแม็กอัลลอยสีเมทัลลิกลายใหม่ 19 นิ้วในรุ่น Sport Nav+ ที่เป็นของใหม่อย่างเดียวนอกตัวรถ ส่วนภายในรถ CX-5 รวบรวมสรีระศาสตร์ในห้องคนขับอย่างพิถีพิถีนด้วยคุณภาพที่สูง ช่ำชอง และสภาพแวดล้อมห้องโดยสารที่โอ่อ่า

ทุกรุ่นมีอุปกรณ์มาตรฐานมากมายซึ่งประกอบด้วยไฟหน้า LED, กระจกข้างพับไฟฟ้า, ระบบปรับอากาศโซนคู่, วิทยุ DAB และจอสัมผัสสี 7 นิ้วพร้อมระบบนำทางในตัว รุ่น Sport Nav+ เพิ่มจุดเด่นระดับพรีเมียมประกอบด้วยกล้องช่วยถอยรถ, เบาะคนขับไฟฟ้าปรับได้ 8 ทิศ และระบบไร้กุญแจอัจฉริยะ พร้อมเบาะหน้ากับพวงมาลัยอุ่น นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นครั้งแรกในรถ Mazda อย่างประตูท้ายรถไฟฟ้า พร้อมจอแสดงผลเหนือศีรษะ (HUD) ซึ่งแสดงบนกระจกหน้า และมีระบบจดจำป้ายจราจร อีกทั้ง Mazda CX-5 2018 ใหม่จะมีระบบความปลอดภัยมาตรฐานมากขึ้นอย่าง ระบบคุมความเร็วเรดาร์, ระบบสอดส่องจุดอับสายตาขั้นสูงพร้อมระบบเตือนการจราจรท้ายรถ, ระบบช่วยเบรคอัจฉริยะ, ระบบคุมไฟสูง และระบบประคองรถเข้าเลนพร้อมระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน ขณะที่รุ่น Sport Nav+ มีอุปกรณ์เสริมอย่างกล้องมองรอบตัวรถ 360 องศา และไฟหน้า Adaptive LED

จุดเด่นอื่นๆ ประกอบด้วยสีตัวถังเมทัลลิก Soul Red Crystal กับ Machine Grey ซึ่งใช้เทคโนโลยีสีสามชั้นที่เป็นเอกลักษณ์ TAKUMINURI เมื่อเทียบกับสี Soul Red Crystal ใน CX-5 ตัวเก่า ความสว่างในรุ่นใหม่เพิ่มขึ้น 20% และความลึกสีเพิ่มขึ้น 50%

>>> ดูเพิ่มเติม มาสด้า cx-5 ราคา

Mazda CX-5 Sport-L Nav+ 2018 สี Soul Red Crystal Metallic

Mazda CX-5 SE-L Nav+ 2018 สี Machine Grey Metallic
 

Source: Mazda UK

Chobrodขอฝากความรู้เกี่ยวกับรถยนต์ไว้เพียงเท่านี้และ คราวหน้าจะเป็นเรื่องอะไร ติดตามกันได้ต่อเนื่องเลยนะคะ เเละ อย่าลืมแชร์ความรู้เกี่ยวกับเรื่องรถยนต์ของคุณให้เราด้วยโดยการให้ Comment ด้านล่างนี้ได้เลย 

ดูเพิ่มเติม
>> 2 รุ่น SUV ยอดนิยมในไทย กับยอดขาย 6 เดือนก่อน Mazda CX-5 และ Honda CR-V ปี 2018
>> เปรียบเทียบ Honda CR-V กับ Mazda CX-5 คันไหนน่าซื้อกว่า?

​ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่  
ติดตามราคารถยนต์ เชิญที่นี่