Nissan ต่อสัญญาพันธมิตรกับทีมฟุตบอลดัง โดยการเป็นสปอนเซอร์ให้ทีม Manchester City และมอบรถกระบะ Navara ใช้ในกิจการที่เกียวกับทีมฟุตบอลนี้ พร้อมยังแต่งตั้งให้ผู้จัดการทีม Pep Guardiola เป็นพรีเซนเตอร์หลักหรือ Brand Ambassador ด้วย
Nissan เป็นผู้สนับสนุนให้กับทีมฟุตบอล Manchester City ตั้งแต่ปี 2014 ซึ่งเป็นปีที่ทีมได้แชมป์พรีเมียร์ลีก และยังคงความสัมพันธ์เรื่อยมา จนในปัจจุบันได้ถ้วยแชมป์ติดต่อกันใน 2 ปีล่าสุดนี้ ทำให้ทีมเรือใบสีฟ้านี้ ถูกจัดอันดับเป็นหนึ่งใน Top 5 ทีมฟุตบอลที่มีมุลค่าสูงที่สุดในโลก ล่าสุดนี้ทาง Nissan ก็ได้ต่อสัญญาเป็นพันธมิตรกับทีมฟุตบอลดัง โดยนอกจากการเป็นสปอนเซอร์ให้ทีม Manchester City และมอบรถกระบะ Navara ใช้ในกิจการที่เกียวกับทีมฟุตบอลนี้แล้ว นิสสันยังแต่งตั้งให้ผู้จัดการทีม Pep Guardiola เป็นพรีเซนเตอร์หลักหรือ Brand Ambassador อีกด้วย
Nissan สานต่อสปอนเซอร์ให้ทีม Manchester City
รถกระบะ Nissan Navara ที่ใช้โปรโมตการเป็นสปอนเซอร์ให้กับทีมฟุตบอลนี้ เป็นตัวถังแบบ 4 ประตูยกสูง ตัวถังเป็นสีฟ้าพิเศษ อันเป็นสีประจำทีม Manchester City พร้อมลวดลายสื่อถึงรางวัลที่ได้รับมาทั้งหมด เคยถูกใช้เป็นรถนำขบวนแห่ถ้วยแชมป์ เมื่อตอนได้ถ้วยสมัยฤดูกาลล่าสุด ที่เพิ่งจบไปในเดือนพฤษภาคม 2019 นี่เอง และด้วยการสานต่อความสัมพันธ์นี้ คาดว่า Nissan Navara คันนี้จะยังถูกใช้เป็นรถแห่ถ้วยรางวัลในปีต่อไป (ถ้าได้แชมป์นะครับ)
Nissan Navara เคยถูกใช้เป็นรถแห่ถ้วยแชมป์ในฤดูกาลล่าสุด
นอกจากการมอบรถกระบะแล้ว นิสสันยังแต่งตั้งให้ผู้จัดการทีม Pep Guardiola เป็นพรีเซนเตอร์หลักหรือ Brand Ambassador กิตติมศักดิ์อีกด้วย (แม้ว่าในชีวิตจริงของเขาจะใช้รถ Bentley Flying spur ก็ตาม) โดยทางผู้จัดการทีมยังเผยแผนโปรโมทว่า ทีมของเขากำลังเตรียมตัวออกทริปทัวร์นอกฤดูกาลไปยังประเทศญี่ปุ่น เพื่อจัดการแข่งเตะบอลนัดกระชับมิตรกับทีมสโมสร Yokohama F. Marinos ที่สนามนิสสันสเตเดี้ยม ในวันเสาร์ที่ 27 กรกฎาคมนี้อีกด้วย
Nissan Navara ไมเนอร์เชนจ์สเปคยุโรป
Nissan Navara สเปคยุโรป ถูกปรับโฉมไปแล้วน้อยเมื่อต้นเดือนกรกฎาคม 2019 เพิ่มความสามารถในการบรรทุกหนักขึ้น 55-95 กก.ในรุ่นตอนครึ่ง King cab และบรรทุกหนักขึ้น 54-114 กก.ในรุ่นสองตอน Double cab ส่วนระบบเบรคอัปเกรดขนาดจานหน้า จากเดิม 296 มม.ไปเป็น 320 มม.และเปลี่ยนดรัมเบรกหลังเป็นดิสก์เบรกที่มีจานขนาด 308 มม. พร้อมทั้งเพิ่มเกียร์ธรรมดา 6 สปีดให้เลือก พร้อมอัพเกรดล้อแม็กซ์ในรุ่นกลาง จากเดิม 16 นิ้ว กลายเป็น 17 นิ้วด้วย ทางด้านเครื่องยนต์ยังคงความแรงด้วยรุ่นย่อยระหว่าง ดีเซล 2.3 ลิตร เทอร์โบคู่ มีกำลัง 163 แรงม้า หรือเลือกแบบปรับบูสต์ให้แรงขึ้นเป็น 190 แรงม้า พร้อมวางจำหน่ายเฉพาะในยุโรปเท่านั้นด้วยราคาเริ่มต้น 790,000 บาท (ไม่รวมภาษีนำเข้า)
ดูเพิ่มเติม
>> จับตาดู! รถใหม่เข้าไทย รุ่นไหนมาแรงพร้อมแซงเข้าตลาดปี 2019-2020
>> รอนิดเดือนหน้ามาไทยแน่ "Honda BR-V Minorchange" ปรับนิดแต่ถูกใจ
ติดตามข่าวสารรถยนต์ คลิกที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้