เปิดตัว Lamborghini Countach LPI 800-4 (คูนทาช แอลพีไอ 800-4) ในโอกาสครบรอบ 50 ปี Countach ที่งาน The Quail ลิมิตเต็ดที่ผลิตเพียง 112 คันทั่วโลก เครื่องยนต์ V12 ทำงานร่วมกับระบบไฮบริดมอเตอร์ไฟฟ้า 48V และระบบซูเปอร์คาปาซิเตอร์ที่ช่วยมอบพละกำลังสูงสุด 780 แรงม้าจากเครื่องยนต์ และ 34 แรงม้าจากมอเตอร์
Lamborghini Countach LPI 800-4 นั้นได้รับการถ่ายทอดดีเอ็นเอจากโฉมก่อน เพื่อเป็นการสืบต่อตำนานของดีไซน์ Countach ที่เป็นไอคอนในยุค 1980 เอกลักษณ์เฉพาะอีกอย่างของรุ่น Countach คือชื่อรุ่นที่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับกระทิง ซึ่งเป็นธรรมเนียมของแบรนด์
ความหมายของคำว่า Countach นั้นคือ "การทำให้ตื่นเต้นหรือเต็มไปด้วยความตื่นตาตื่นใจ" เป็นของภาษาท้องถิ่นของชาว Piedmont แคว้นที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของอิตาลี
ดีไซน์เส้นสาย Lamborghini Countach เห็นชัดได้จากแนวเส้นที่ลากจากด้านหน้าไปสู่ด้านท้ายของรถ มุมสันที่ชัดเจนแหลมคม สื่อถึงดีไซน์ของรถซูเปอร์สปอร์ตสมัยใหม่ เป็นทางหลักในการวางดีไซน์รถรุ่นใหม่ของลัมโบร์กินี
โดย Lamborghini Countach LPI 800-4 ได้รวบรวมเอาคาร์แรคเตอร์ของเส้นสาย Countach ทั้ง 5 รุ่นที่ได้รับการพัฒนาในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา มีการผสานกันระหว่างดีไซน์ของรุ่น LP 500 และ LP 400 ทำให้ด้านหน้า และแตกต่างด้วยฝากระโปรงที่ลาดยาว กระจังหน้าและไฟหน้าทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า และดีไซน์ซุ้มล้อแบบตัดเหลี่ยม
เส้นสายของตัวรถจากด้านหน้าถึงหลังรถมีความเรียบเนียน เพื่อให้ทรวดทรงโดยรวมไม่เปลี่ยนแปลง โดยตัวรถนั้นได้รับการติดตั้งช่องดักอากาศบริเวณช่วงโป่งหลังของรถและประตู เพื่อเพิ่มสมรรถนะและเสริมความดุดัน
อ่านเพิ่มเติม
- HAVAL H6 ปี 2021 เผยยอดขายเดือนแรกได้ 320 คัน
- Mercedes-Benz GLA ปี 2021 รุ่นย่อยใหม่ 200 Progressive ราคาไฟต์ตลาด 2.19 ล้านบาท
ด้านท้ายของ Lamborghini Countach LPI 800-4 นั้น คงเอกลักษณ์เดิมเช่น ไฟท้ายสามส่วน ท่อไอเสียสี่ท่อเหมือนกับรุ่นดั้งเดิมซึ่งติดตั้งไว้บริเวณดิฟฟิวเซอร์คาร์บอนไฟเบอร์ ประตูเข้าออกรถเป็นแบบปีกนก ซึ่งเป็นซิกเนเจอร์ของรถยนต์เครื่องยนต์ V12 ของค่ายลัมโบร์กินี และ Lamborghini Countach LPI 800-4 เป็นรถรุ่นแรกที่ใช้ประตูรูปแบบนี้
ตกแต่งด้วยคาร์บอนไฟเบอร์บริเวณชายล่างด้านหน้า กระจกมองข้าง ช่องดักอากาศเครื่องยนต์ ชายล่างด้านข้าง และดิฟฟิวเซอร์ด้านหลัง
ออปชั่นหลังคาที่สามารถปรับให้ทึบหรือใส แรงบันดาลใจรถจะมาจากตำนานในอดีต แต่รถคันนี้จะเป็นบรรทัดฐานใหม่ของรถยนต์แห่งทศวรรษที่ 21
ภายในใช้เทคโนโลยีการพิมพ์แบบสามมิติสำหรับดีไซน์ช่องแอร์แบบใหม่
เครื่องยนต์ V12 ของ Countach เป็นตำนานเฉกเช่นเดียวกับดีไซน์ รูปแบบการวางเครื่องยนต์ด้านหลังและหม้อน้ำด้านข้างตัวรถแบบรถแข่ง Formula 1 รวมไปถึงตัวถัง เทคโนโลยี Spaceframe เทคโนโลยีที่มาพร้อมกับตัวรถตอนนั้นเป็นการปฏิวัติวิศวกรรมของวงการยานยนต์ เหตุผลที่เครื่องยนต์ถูกวางไว้ด้านหลังนั้นเพื่อให้การกระจายน้ำหนักเป็นไปได้อย่างสมดุลและเพื่อการตอบสนองที่ดีที่สุด
เครื่องยนต์ V12 ขนาด 6.5 ลิตรสร้างแรงม้าได้สูงสุด 780 ตัว และเมื่อทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่เชื่อมต่อกับระบบส่งกำลัง จะช่วยเพิ่มแรงม้าขึ้นมาอีก 34 แรงม้า พลังงานของตัวมอเตอร์นั้นมาจากซูเปอร์คาปาซิเตอร์ที่สามารถให้พละกำลังได้มากกว่า 3 เท่าเมื่อเทียบกับแบตเตอรี่ชนิดลิเธียมไอออนที่น้ำหนักเท่ากัน
โครงสร้างตัวถังแบบโมโนค๊อกและตัวถังของรถส่วนใหญ่นั้นใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์เพื่อลดน้ำหนักและเพิ่มความแข็งแรงให้กับตัวถังไปในตัว Countach LPI 800-4 มีน้ำหนักตัวถังเพียง 1,595 กิโลกรัมและแรงม้าต่อน้ำหนักที่ 1.95 กิโลกรัมต่อแรงม้า
Countach LPI 800-4 เปิดตัวที่ The Quail สหรัฐอเมริก สีตัวถังพิเศษอย่างสีขาว Bianco Siderale อมฟ้าประกายมุก เหมือนกับรถของผู้ก่อตั้งแบรนด์อย่าง เฟอร์รุชโช ลัมโบร์กินี ที่เป็นรุ่น Countach LP 400 S โดยภายในเน้นเอกลักษณ์การสืบทอดความเป็น Heritage ด้วยวัสดุหนังสีดำตัดกับสีแดงเพิ่มความพิเศษให้กลิ่นอายของการดีไซน์ในยุค 1970
Countach LPI 800-4 มาพร้อมกับล้อหน้าขนาด 20 นิ้ว และล้อหลังขนาด 21 นิ้ว ระบบเบรกเซรามิคและยาง Pirelli P Zero Corsa
เจ้าของรถที่สั่งซื้อ Countach LPI 800-4 สามารถเลือกสีตัวถังภายนอกได้หลากหลายสี ไม่ว่าจะเป็นสีที่สะท้อนความเป็น Heritage Style ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นสีแบบ Solid เช่น สีที่โดดเด่นอย่างสีขาว Impact White Giallo Countach และ สีเขียว Verde Medio หรือหากเจ้าของรถต้องการสีที่มีความร่วมสมัยมากขึ้น ก็ยังมีสีแบบเมทัลลิกให้เลือกตามชอบ เช่นสียอดนิยมอย่างสีม่วง Viola Pasifae หรือสีฟ้า Blu Uranus
หน้าจอสัมผัสขนาด 8.4 บริเวณคอนโซลกลางของ LPI 800-4 มาพร้อมระบบ Apple CarPlay และยังมีปุ่มเฉพาะของตัวรถรุ่นนี้ที่ระบุว่า Stile ซึ่งเมื่อกดปุ่มแล้วตัวรถจะเล่าถึงปรัชญาการดีไซน์ของ Countach ให้แก่ผู้ที่ครอบครองรถคันนี้
การผลิตจำนวนจำกัดเพียง 112 คันทั่วโลก สอดคล้องกับหมายเลขของชื่อ LP 112 ซึ่งเป็นชื่อโปรเจคภายในที่ใช้ระหว่างการพัฒนาของ Lamborghini Countach ดั้งเดิม สำหรับ Countach LPI 800-4 จะเริ่มส่งมอบในไตรมาสแรกของปี 2022 ให้กับเจ้าของรถ
สเตฟาน วิงเคิลมันน์ ประธานและ CEO ของออโตโมบิลิ ลัมโบร์กินี กล่าว
“Countach LPI 800-4 เป็นรถที่ล้ำสมัยในยุคของมัน เหมือนดังที่ Countach รุ่นแรกเป็น สำหรับลัมโบร์กินี Countach ไม่ได้เป็นเพียงวิศวกรรมยานยนต์ที่เราได้ออกแบบขึ้นมาชิ้นหนึ่ง แต่ยังเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงปรัชญาของเราในการบรรลุเป้าหมายที่จะรังสรรค์สิ่งที่เหนือความคาดหมาย จนกลายเป็น “รถในฝัน” ของผู้คนจำนวนมาก Countach LPI 800-4 ยึดถือในหลักการของแบรนด์ลัมโบร์กินีไว้อย่างเหนียวแน่นและสามารถสื่อถึงพลังของแบรนด์ได้อย่างชัดเจนในทุกๆ อณู ไม่ว่าจะเป็นเมื่อตอนที่เราเห็นทรวดทรงของตัวรถ การฟังเสียงเครื่องยนต์แผดคำราม และที่แน่นอนคือประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจ”
มิวริซิโอ เรจจิอานี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิค ออโตโมบิลี ลัมโบร์กินี กล่าว
“ทีมวิศวกรที่พัฒนา Countach โฉมแรกนั้นได้คิดค้นนวัตกรรมมากมายเพื่อให้ตัวรถเป็นสุดยอดสปอร์ตคาร์ในเวลานั้นๆ ความตั้งใจของทีมวิศวกรนั้นเป็นแรงผลักดันให้แผนกค้นคว้าและวิจัยของลัมโบร์กินีไม่หยุดยั้งที่จะพัฒนา จึงทำให้ได้ค้นพบเทคโนโลยีไฮบริดในรุ่น Countach LPI 800-4 นี้ ซึ่งเป็นสมรรถนะสูงสุดของรถเรือธงจากค่าย”
ตลาดรถมือสอง มีรถมากมายให้เลือกในราคาที่ถูกใจ